1 มิ.ย. 2021 เวลา 15:36 • ปรัชญา
# ทำอย่างไร จึงจะสามารถเชื่อมต่อกับพลังแห่งจักรวาลได้ (ประสบการณ์ส่วนตัว)#โค้ชหุย
มีใครอยากรู้เรื่องนี้ มาอ่านค่ะ
3
มีน้องหลายคน เคยถามหุยว่า
หุยทำอย่างไร และหุยรู้ได้อย่างไร
ว่า หุยได้อยู่ใน กระแสที่ได้รับการสนับสนุนจากเบื้องบน
หุยต้องบอกว่า มันคือความสงบสุขในใจค่ะ
ท่ามกลางความวุ่นวายสับสนของสถานการณ์
หุยไม่ได้รู้สึกสับสน
เรา Present มีสติและสมาธิอยู่กับสิ่งที่เราทำ
มันเป็นเหมือนเรา in the zone
เราไม่เห็นสิ่งอื่นนอกจากสิ่งที่เรากำลังทำ
3
20 ปีก่อน หุยเคยเรียนคอร์ส In the zone ใน landmark Forum
เขาพูดถึงนักบาสเกตบอกชื่อดังในยุคนั้นคือ
Magic Johnson
เขาเป็นนักบาสเก็ตบอล NBA พาทีมเป็นแชมป์หลายสมัย
เขาเคยให้สัมภาษณ์ในตอนหนึ่งว่า
ตอนที่เขาอยู่ในสนาม ตอนที่ลูกบาสอยู่ในมือเขา
เขารู้สึกเหมือนในโลกนี้ ไม่มีอะไรเลย
นอกจากเขา และลูกบาสเท่านั้น
5
เขาไม่เห็นคนอื่น เขาไม่ได้ยินเสียงเชียร์
เขาอยู่กับลูกบอล และพามันไปที่แป้น
ตราบจนลูกเข้าไปในตะกร้า
เขาจึงกลับมาปกติอีกครั้ง
ในช่วงเวลาที่ In the Zone
เขารู้ว่า ลูกนี้ เขาจะได้แต้มแน่นอน
มันเป็นช่วงเวลาที่ Peak Performance ที่สุดของมนุษย์
เพราะในยามที่สติ จดจ่อกับสิ่งเดียว
พลังรวมกันที่จุดๆเดียวที่เราโฟกัส
เมื่อนั้น เป็นตอนที่เราจะสามารถดึงเอาศักยภาพสูงสุดออกมาได้
เราจะสามารถทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เกิดได้
ตอนนั้น เราจะเกิดปัญญาญาณสูงสุด
เพราะการเชื่อมโยงขององค์ความรู้ทั้งมวลของตัวเรา
ศักยภาพของตัวเรา และพลังแห่งจักรวาล
1
หุยเรียนเรื่องนี้ด้วยความ ไม่เข้าใจ
และได้มาอ่านเจอเรื่องนี้อีกครั้ง
ในหนังสือ The Element ของ
Sir Ken Robinson
ท่านพูดถึงเรื่องนี่เช่นกัน
ท่านยกตัวอย่างของผู้ที่ประสบความสำเร็จ
ที่ทำอะไรอย่างได้อย่างปาฏิหารย์หลายท่าน
คนเหล่านั้น พูดว่า ตอนนี้ Break Through
ทำสิ่งที่เป็นตำนานได้สำเร็จ
เขามี "ขณะ" แบบนั้น คือไม่เห็นอะไรเลย
ไม่ได้ยินอะไร มีแต่ตัวเค้า และสิ่งที่ทำ
6
หุยไม่รู้ตัวเหมือนกัน ว่าหุยได้เริ่มเข้าสู่โหมดนี้ได้อย่างไร
แต่หลายๆครั้ง หุยกลับมาอ่านสิ่งที่ตัวเองเขียน หรือพูด
แล้วหุยก็ประหลาดใจ หุยพบว่า หุยเขียนในสิ่งที่หุยไม่ได้คิดมาก่อน
และหุยทดสอบตัวเองหลายครั้ง
หุยพบว่า สิ่งที่หุยเขียน หรือ พูด คือสิ่งที่เบื้องบน อยากบอกหุย
เหมือนเป็น คำแนะนำ ให้ตัวของหุยเอง
เมื่อใดก็ตามที่หุย in the zone หุยอนุญาตให้ ข้อมูลองค์ความรู้
ไหลผ่านมาในตัวหุย. การพูด การเขียนของหุยจะลื่นไหลมาก
หุยจะไม่เห็นอะไร ไม่ได้ยินอะไร แม้ว่าหุยจะอยู่ในที่วุ่นวายแค่ไหนก็ตาม
และมันทำให้งานของหุย Flow มาก
พูดคล่องลื่น เป็นธรรมชาติ โดยไม่มีสคริปต์
เขียนได้เรื่อยๆ โดย ไม่ต้องแก้ยกเว่้นพิมพ์ผิด
เพราะมือจะพิมพ์เร็วมาก
1
หุยได้ฝึกการใช้จิตจดจ่อในการฟัง ในการอ่าน
หุยได้ยินสิ่งที่เค้าไม่ได้พูด เข้าใจในสิ่งที่เขาไม่ได้เขียน
มันคืออารมณ์และความรู้สึก หรือจิตวิญญาณของเค้า
ที่สื่อสารออกมา
หุยมาสังเกตว่า หุยมาถึงจุดนี้ เมื่อหุยกำจัดพลังคิดลบออกไป
หุยฝึกการสังเกตอารมณ์ ความรู้สึกของตัวเอง
ถ้าหุยรู้สึกไม่สบายใจ หรือ อึดอัด โกรธ เสียใจ
หุยจะไปดูว่า มันคืออะไร
แล้วใช้ Process ในการจัดการกับมัน
ไม้ใช่พลังงานพวกนี้ไม่ดี
แต่มันจะรบกวนไม่ให้เราสื่อสารกับจักรวาลได้
เราจะรับพลังจากเบื้องบนไม่ได้ หรือ
เข้าไม่ถึงจิตพระเจ้าที่อยู่ในตัวเรา
4
องค์ความรู้จากเบื้องบน และ จิตพระเจ้าในตัวเรา
ต้องเชื่อมกันค่ะ จึงจะเกิด In the zone
เราจะได้รับคำแนะนำให้ทำในสิ่งที่เป็นปาฏิหารย์ได้
2
คนเราที่มีอารมณ์ความรู้สึก ในด้านใดก็ตาม
ส่วนมาก ถ้าเราไม่ได้ติดกับอดีต เราก็มักคิดถึงอนาคตทีมาไม่ถึง
ไม่ได้อยู่กับปัจจุบัน
เมื่อดึงจิตกลับมาที่ปัจจุบัน
ลดความรู้สึกฟุ้งซ่าน กังวล กลัว หรือตัดสินคนอื่น หรือ
กล่าวโทษ โกรธ เกลียดคนอื่น
เราจะมีความสุขมากขึ้น
เรื่องที่คิดก็น้อยลง
ทำให้มี ความ "ว่าง"
และเมื่อนั้น เมื่อเราโฟกัสทั้งหมดไปในสิ่งที่เราทำ
สิ่งที่ทำ ก็คือ สุดความสามารถ
1
เมื่อเราทำทุกอย่างสุดความสามารถ
ผลงานก็ดีขึ้นเรื่อยๆ
และเมือ่ศักยภาพสะสมไปเรื่อยๆ
ถึงจุดที่เรา ยกระดับศักยภาพตัวเอง
มันก็เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเรา
สิ่งหนึ่งที่คนเราส่วนมาก จะติดกับดัก คือ เงิน
เรามักคิดว่า ทำแล้ว "ได้เงินกี่บาท"
ทำแล่้ว เราจะเสียเงินกี่บาท
เราเสียเปรียบไม่ได้ เราต้องได้เปรียบ
เราทำอะไรต้องหวังผล
คนจะชมไม๊. ใครจะด่าหรือเปล่า
ซึ่งมันทำให้เรา ไม่สามารถส่งพลังจดจ่อทำให้ดีที่สุด
จึงไม่เกิดปาฎิหารย์ใดๆ.
เพราะเราไม่ได้ทำอย่างที่สุด
เพราะเรากลัวไม่คุ้ม กลัวเสียเปรียบ
1
ตามกฎแห่งจักรวาลนั้น
เมื่อเราให้ เราจะได้เสมอ
แต่เราจะได้เป็นอะไร หรือเมื่อไหร่
ไม่มีใครรู้
เราจะให้คนได้ในสิ่งที่เรามี
การที่เราเกิดมา มีความสามารถอะไร
นั่นคือสิ่งที่มี เพื่อแบ่งปันให้คนอื่น
หุยเป็นคนมีความรู้ ความสามารถ
เพราะหุยเกิดมาเพื่อให้คนในสิ่งที่หุยมี
เมื่อหุยเข้าใจในสิ่งนี้ ให้ในสิ่งที่เรามีให้สุดๆ
จักรวาลก็ตอบแทนกลับมาเช่นกัน
ในแบบที่เราไม่ต้องกำหนด
ชีวิตในฝันจะมาเอง
ตลอดเวลากว่า 10 ปี
หุยมาย้อนทบทวนดู
หุยได้รับการตอบแทนมากมาย
โอกาสมากมาย. กัลยาณมิตรมากมาย
มาจากการให้ที่ไม่สิ้นสุด
และคนเหล่านี้ สิ่งเหล่านี้ ก็มาโดยไม่คาดหมาย
แต่เป็นชีวิตในฝันที่ไม่คาดคิดว่าจะได้
1
และเมือย้อนเวลากลับไปในวัยเด็ก
หุยก็พบว่า ความยากลำบากสาหัสในอดีต
มันทำให้หุยแข็งแกร่ง
เราเคยเป็นคนตัวเล็กกว่าปัญหาที่มากมาย
เราจึงทุกข์มาก
แต่เมื่อเราพัฒนาตนเอง พัฒนาทักษะความสามารถ
เราจึงตัวใหญ่ขึ้น แข็งแกร่งขึ้น
ปัญหาที่เกิดขึ้น มันไม่ได้ใหญ่กว่าตัวเรา
2
ในวิกฤต เราจึงไม่ได้มองเห็นวิกฤต
เพราะเราเลือก ที่จะ โฟกัสทั้งหมดในโอกาส
และทำทุกวันให้สุดความสามารถ
แล้วจึงจะเกิดปาฎิหารย์
1
แบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัวให้อ่าน
ไม่รู้ใครจะอ่านรู้เรื่องแค่ไหนนะคะ
แต่หุยอยากสรุปว่า
จงสังเกตอารมณ์และความรู้สึกของตัวเอง
รู้เท่าทันความคิด ให้เร็วที่สุด
เมือไหร่ ที่จิดตก คิดลบ อารมณ์ไม่สุข
จงจัดการเปลี่ยนมันค่ะ
1
ทำไปเรื่อยๆ พลังของเราจะดีขึ้น
จิตเบิกบาน มีความสุข
จดจ่อในปัจจุบันขณะ
ทำอะไรได้ และทำแล้วดี มีความสุข
ก็ทำให้สุดๆ อย่าถามว่า เราจะได้อะไร
สิ่งที่มาตรงหน้า คือ หน้าที่
คือสิ่งที่เราต้องเผชิญ
แค่ทำให้สุดความสามารถ
และที่สำคัญคือ
จงซาบซึ้งขอบคุณกับทุกคนและทุกสิ่ง
ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
ให้ประสบการณ์กับจิตวิญญาณของเราได้เรียนรู้
ความทุกข์คืออะไร
ความสุขคืออะไร
ความกลัว ความโกรธ ความเกลียด ความรัก
ทั้งหมด คือครูผู้สร้างเรา
แล้วจะเห็นปาฎิหารย์แห่งชีวิต
Life is Miracle
You are Miracle
2
โฆษณา