คำว่า ‘กิจวัตรประจำวัน’ ฟังดูเป็นเรื่องน่าเบื่อ อาจเป็นเพราะคำคำนี้ทำให้เราย้อนนึกถึงตัวเราเองในวัยเด็ก ที่จะต้องเขียนกิจวัตรประจำวันส่งคุณครูเป็นประจำ แต่ถ้าหากเราลบภาพจำเดิมๆ และมองใหม่นั้น เราจะพบว่า ‘กิจวัตร’ เป็นเรื่องเล็กๆ ทว่าทรงพลังอย่างมาก และเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะนำพาเราไปสู่ ‘ความสำเร็จ’
.
กิจวัตรยามเช้าช่วยให้เราเริ่มต้นวันอย่างมั่นใจ ส่งผลให้เรามีพลังบวกในการจัดการกับเหตุการณ์ในแต่ละวัน เท่านั้นยังไม่พอ งานวิจัยยังระบุไว้อีกว่าการทำอะไรเดิมๆ ซ้ำๆ อย่างกิจวัตรประจำวันช่วยให้เรารู้สึกมั่นคง ไม่กังวลและเครียดน้อยลง
.
.
#ทำไมกิจวัตรยามเช้าของเราถึงไม่เวิร์กในบางครั้ง
.
หลายๆ คนเลือกที่จะทำ Morning Routine ตามคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต เพราะอยากจะประสบความสำเร็จเหมือนคนเหล่านั้นบ้าง แต่บ่อยครั้งที่กิจวัตร ‘ในอุดมคติ’ เหล่านั้นไม่ได้สอดคล้องไปกับไลฟ์สไตล์ของตัวเราเองเลย
.
ต้องยอมรับว่าทุกคนไม่สามารถตื่นขึ้นมาออกกำลังกาย หรืออาบน้ำเย็นได้ตั้งแต่เช้าตรู่ การทำตามตารางของคนอื่นมีแต่จะทำให้เราไม่มีความสุขเสียเปล่า
.
ยิ่งไปกว่านั้น เรากดดันตัวเองให้ทำตามตารางทุกวัน จนหลงลืมไปว่าบางทีเราก็มี ‘วันแย่ๆ’ ที่เราไม่มีแรงทำอะไรเหมือนกัน
.
อุดมคติเกินไป ผิดกับไลฟ์สไตล์ของเรามากไป และไม่มีความยืดหยุ่น ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะเลิกทำ Morning Routine หลังจากทำได้เพียงสัปดาห์เดียว
.
.
#ออกแบบกิจวัตรยามเช้าฉบับทำได้จริงทุกวัน
.
ชีวิตเรามีขึ้นมีลงตลอดเวลา จะให้มีแรงฮึดสู้ทำตามตารางเดิมเหมือนกันทุกวัน คงจะเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นเราต้องสร้าง Morning Routine มากกว่าหนึ่งรูปแบบ เพื่อให้สอดคล้องกับ ‘พลังงาน’ ของเราในแต่ละวัน
.
แบ่งเป็น ‘เช้าพลังงานน้อย’ ‘เช้าปกติ’ และ ‘เช้าพลังงานเยอะ’
.
ตัวอย่างเช่น ในทุกๆ เช้าวันทั่วไปของเรา เราอาจตื่นนอน ทานอาหารเช้า ออกไปเดินเล่น กลับมาเขียนบันทึกและสิ่งที่ต้องทำในวันนั้น ก่อนจะอาบน้ำ แต่งตัวและเริ่มวันของเรา
.
แต่ถ้าวันไหนที่เรารู้สึกพลังงานน้อย เราอาจตัดเหลือแค่กิจกรรมที่ ‘สำคัญ’ สำหรับเราเพียง 2-3 อย่าง เช่น ทานอาหารเช้า เขียนสิ่งที่ต้องทำ และอาบน้ำ ส่วนวันไหนที่เรามีพลังงานเหลือล้น เราอาจออกกำลังกายเพิ่มหลังจากเดินเล่นเสร็จ
.
นอกจากการมีกิจวัตรยามเช้าหลายๆ แบบแล้ว การเลือกกิจกรรมที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และสอดคล้องกับเป้าหมายของเรา เป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก ดังนั้นก่อนจะออกแบบตาราง Morning Routine เราต้องเข้าใจตัวเองเสียก่อน
.
“อยากมีชีวิตแบบไหน ให้ใช้ชีวิตประจำวันแบบนั้น” (How we spend our days is how we spend our life) แม้กิจกรรมตอนเช้าอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เมื่อทำเป็นประจำ ผลลัพธ์ในตอนท้ายอาจดีอย่างไม่น่าเชื่อ สำหรับใครที่ยังอยากมีความสุขกับตัวเองในทุกๆ เช้า เราอยากชวนให้มาลองกันอีกครั้ง มาเริ่มกันใหม่ในแบบที่ ‘ยืดหยุ่น’ มากขึ้นและเลือกเฉพาะสิ่งที่ ‘สำคัญ’ กับเรา
.
.
อ้างอิง:
.
#missiontothemoonpodcast
#mission #พอดแคสต์