Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
no name
•
ติดตาม
3 มิ.ย. 2021 เวลา 03:00 • กีฬา
" บัลลง ดอร์ ที่ถูกลืม "
อแล็ง เปเชอรัล นักข่าวสายฟุตบอลของ "เลอ โปรว็องซาล" เป็นผู้หยิบยกคำว่า "Papinade" มาใช้ เขาบอกว่าไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจนว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง แต่มันคือลูกวอลเล่ย์ ในมุมยากๆ จังหวะยากๆ ที่ไม่มีใครคิดหรือตั้งตัว แต่มันเกิดขึ้นอย่างน่าทึ่งอยู่เสมอ
มันมาจากการที่ เปเชอรัล ได้เห็น ฌอง ปิแอร์ ปาแป็ง ยิงลูกลักษณะนี้อยู่บ่อยครั้งจนต้องหาทางเรียกมันเพื่อเป็นเกียรติแก่กองหน้าผู้นี้ Papin (ปาแป็ง) สู่ Papinade
หากไม่ทันได้ดูการเล่นของ ฌอง ปิแอร์ ปาแป็ง หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า JPP (Jean-Pierre Papin) แล้วคนที่เคยดูว่า เขาเป็นนักเตะลักษณะไหน พอเทียบได้กับใครบ้าง
บางคนบอกว่าเขาเหมือน อลัน เชียเรอร์ ที่ตัวเล็กกว่าแต่คล่องแคล่วกว่า บางคนก็บอกว่าเหมือน เซร์คิโอ อเกวโร่ กุน ที่ตัวใหญ่ขึ้นมาอีกนิด บางคนบอกว่าก็เหมือน คาริม เบนเซม่า ที่ดุดันกว่า
ปาแป็ง คือกองหน้าที่มีความเร็ว จมูกไว ยิงบอลคม ทำประตูได้หลากหลายรูปแบบ แต่ที่ขึ้นชื่อก็คือลูกวอลเล่ย์ และตีลังกายิง ที่ทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ และกะน้ำหนักได้เหมาะเหม็งจนเหลือเชื่อ เท้าขวาของเขาเฉียบขาดสุดๆ
ในบรรดายอดนักเตะของฝรั่งเศส ดูเหมือนว่าชื่อของเขาจะเป็นตำนานที่ถูกพูดถึงน้อยมาก และต้องไม่ลืมว่าเขาคือเจ้าของรางวัลบัลลง ดอร์ ปี 1991 ที่ได้รับการโหวตเหนือ โลธาร์ มัทเธอุส หรือ เดยัน ซาวิเซวิช แบบทิ้งไม่เห็นฝั่งเกือบ 100 คะแนน
แฟนบอลยังจำ โรนัลโด้ เหยินใหญ่, มาร์โก แวน บาสเท่น, โรแบร์โต้ บาจโจ้, ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ, ไมเคิ่ล โอเว่น, ซีดาน มาจนถึง กาก้า ได้ว่าเคยคว้ารางวัล บัลลง ดอร์ แต่หลายคนลืมชื่อของ ปาแป็ง ไปเลย
1
ปาแป็ง เกิดขึ้นในครอบครัวนักฟุตบอล พ่อของเขา กีย์ ปาแป็ง ก็เป็นนักฟุตบอล โตมาเลยอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ แกล้งป่วย เพื่อจะได้หนีโรงเรียนออกมาฝึกฟุตบอล
1
เขามีพรสวรรค์ตั้งแต่เด็ก ถูกคัดเลือกเข้าโรงเรียนลูกหนังของสมาคมฟุตบอลฝรั่งเศส แต่ตอนวัยรุ่นชีวิตถึงทางแยกเพราะพ่อแม่แยกทางกัน ทำให้เขาต้องย้ายไปอยู่กับตายาย ที่เมืองใกล้ชายแดนเบลเยี่ยม
ปาแป็ง เริ่มต้นอาชีพกับทีมในลีก เดอซ์ อย่าง วาล็องเซี่ยนส์ แต่ก็ได้ย้ายไปอยู่กับ คลับ บรูช ในปีต่อมา 1985/86 ขณะอายุได้ 21 ปี
กับ คลับ บรูช ปาแป็ง ยิงกระจุยทันที 32 ประตูจาก 43 นัดในทุกรายการ เขาบอกว่า บรูช เป็นเมืองที่อยู่ในใจเขาเสมอ ทุกอย่างสำหรับเขามันเริ่มต้นขึ้นทีนั่น
ผลจากฟอร์มอันยอดเยี่ยม ทำให้อยู่ดีๆ ปาแป็ง ถูกเรียกตัวไปติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดลุยฟุตบอลโลก 1986 โดยกุนซือ อองรี มิเชล ซึ่งสร้างกระแสต่อต้านและสงสัยจากแฟนบอลมากมาย รวมถึงสื่อด้วย
เพราะไอ้หนุ่มวัย 22 คนนี้ไม่เคยเล่นในลีกสูงสุดฝรั่งเศส แทบไม่เคยเห็นหน้าค่าตา แล้วติดทีมชาติไปได้ยังไง
มิเชล ให้โอกาสและความเชื่อมั่นแก่เขา ปาแป็ง ยิงไป 1 ประตูในทัวร์นาเมนต์นั้น แต่ผลงานโดยรวมยังไม่น่าประทับใจ เป็นเพราะเขาประสบการณ์ยังน้อย ทว่ามันก็เป็นรากฐานที่ทำให้เขาได้ติดทีมชาติเรื่อยมา
อีกส่วนหนึ่งก็คือ หลังจบฟุตบอลโลก 1986 นักธุรกิจชื่อดัง แบร์กนาร์ ตาปี ตัดสินใจเทคโอเวอร์โอลิมปิก มาร์กเซย และต้องการสร้าง "โอแอ็ม" ขึ้นมาเป็นแชมป์รายการใหญ่ กลายเป็นทีมยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศสให้ได้
1
ตาปี ทุ่มเงินเสริมทัพคว้าดาวดังมาร่วมทีมไม่อั้น หนึ่งในนั้นคือ ฌอง ปิแอร์ ปาแป็ง
ไม่ต้องใช้เวลานาน ปาแป็ง มาอยู่กับ โอแอ็ม ก็ยิงระเบิดเถิดเทิงทันที และเจ้าของทีมก็ยิ่งซื้อนักเตะดังเข้ามา กลายเป็นช่วยกันเสริมให้ดีขึ้น อแล็ง ชีแรส, เคลาส์ อัลลอฟส์, อเบดี เปเล่, คริส วอดเดิ้ล ไปจนถึง เอริค คันโตน่า ด้วย
มาร์กเซย ตอนนั้นคว้าแชมป์ ลีก เอิง และยังไปถึงนัดชิงชนะเลิศ ยูโรเปี้ยน คัพ ในปี 1991 น่าเสียดายที่แพ้ให้กับ เร้ดสตาร์ เบลเกรด ในการดวลจุดโทษนัดชิงชนะเลิศ ทว่าปีนั้นเองเขาก็คว้ารางวัล บัลลง ดอร์ มาครองด้วยผลงานส่วนตัวที่ยิงกระจุยกระจาย
หลังจากอยู่กับ มาร์กเซย 6 ปี พร้อมสถิติ 184 ประตูจาก 279 นัด ปาแป็ง ก็ย้ายไปร่วมทีมยักษ์ใหญ่ในอิตาลีอย่าง เอซี มิลาน ด้วยค่าตัวสถิติโลก 10 ล้านปอนด์ในปี 1992 นับเป็นสตาร์ระดับท็อปจากฝรั่งเศสคนแรกในรอบ 10 ปีที่ย้ายมาอิตาลี ต่อจาก พลาตินี่ เมื่อปี 82
จริงๆ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ ปาแป็ง พีคสุดในอาชีพด้วยวัย 28-29 ปี แต่เขาเจอปัญหาหลายอย่าง นอกจากการปรับตัวและอาการบาดเจ็บแล้ว ยังต้องเจอเรื่องโควต้านักเตะต่างชาติ
อิตาลี ตอนนั้นจำกัดแข้งต่างชาติต่อเกมได้ไม่เกิน 3 คน แต่ มิลาน มีเต็มทีม โดยเฉพาะ 3 ทหารเสือ แฟรงค์ ไรจ์การ์ด, มาร์โก แวน บาสเท่น และ รุด กุลลิท
1
กระนั้นในฤดูกาลแรก ปาแป็ง ก็ยังยิงไป 20 ประตูจาก 34 นัดในทุกรายการ ทีมคว้า สคูเด็ตโต้ มาครองได้สำเร็จก็จริง แต่ก็ต้องผิดหวังในนัดชิงชนะเลิศ ยูโรเปี้ยน คัพ ซึ่งเปลี่ยนมาเป็น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นปีแรก เมื่อ มิลาน เจอกับ มาร์กเซย ทีมเก่าของเขาเอง และปรากฏว่าเป็น มาร์กเซย ที่เอาชนะ มิลานไปได้ 1-0 โดยที่เกมนี้ ปาแป็ง ลงมาเป็นสำรองในครึ่งหลังให้มิลาน
ฤดูกาลต่อมา 1993/94 มิลาน ประสบความสำเร็จยอดเยี่ยม ทีมของ ฟาบิโอ คาเปลโล่ กวาดทั้งสคูเด็ตโต้ และ แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่เขามีส่วนร่วมน้อยมาก
หลังจากจบฤดูกาลที่ 2 กับมิลาน ที่ประสบความสำเร็จในแง่ของทีมแล้ว เขาก็ย้ายไป บาเยิร์น มิวนิค ในปี 1994 แต่ด้วยอาการเจ็บที่ยังรบกวน ทำให้เขาแทบไม่ได้ลงสนามเลย
1
ฤดูกาล 1995/96 เริ่มโอเคขึ้น แต่เขาก็ไม่เหมือนเดิม ลงเล่นในบุนเดสลีกา 20 นัดทำได้แค่ 2 ประตูเท่านั้น
สุดท้ายเขากลับฝรั่งเศส มาเล่นให้บอร์กโดซ์ในปี 1996 ขณะอายุย่าง 33 ปี ซึ่งเขางัดเอาฟอร์มสุดท้ายในชีวิตออกมาแสดง ยิงไป 16 ประตูจาก 32 นัดในลีก เอิง และในปีต่อมา เขายิง14 ประตูจาก 32 นัดในทุกรายการให้กับ บอร์กโดซ์ ก่อนอำลาไปเล่นให้ แก็งก็อง ในลีก เดอซ์ ด้วยวัย 35 ปี อันเป็นปีสุดท้ายของเขาในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ
ฌอง ปิแอร์ ปาแป็ง ยิงประตูในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพรวมถึง 302 ประตูจาก 504 นัด และยิงให้ทีมชาติฝรั่งเศสถึง 30 ประตูจาก 54 นัด ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยยิงประตูต่อนัดที่ดีที่สุดเท่าๆกับ มิเชล พลาตินี่ ในบรรดาท็อป 10 ดาวยิงตลอดกาลของทีมชาติ
หากจะมีบางอย่างที่ทำให้ชื่อเสียงของ JPP ไม่โด่งดังยาวนานมาจนถึงทุกวันนี้ ก็อาจเป็นด้วยหลายสาเหตุ
หนึ่งเขาตัดสินใจผิดในแง่หนึ่ง ที่ย้ายไป เอซี มิลาน เพราะมันเต็มไปด้วยดาวดังต่างชาติแต่โควต้ามีให้น้อยเหลือเกินแค่ 3 คน บวกกับดันเป็นช่วงที่เขาประสบปัญหาอาการบาดเจ็บอีก
นอกจากนั้นอีกสาเหตุคือทีมชาติฝรั่งเศส ในยุคของเขาถือเป็นยุคตกต่ำ ฝรั่งเศส ผลัดมือจาก อองรี มิเชล มาเป็น มิเชล พลาตินี่ แต่น่าเสียดายว่าฟอร์มโดยรวมและขุมกำลังโดยรวมของฝรั่งเศส เริ่มสู่ขาลง หลังจากที่ พลาตินี่ เองเป็นผู้เล่นและพาทีมคว้าแชมป์ยูโร 1984
พวกเขาไม่ได้ผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลก 1990 และตกรอบแรก ยูโร 92 ทำให้ พลาตินี่ ต้องลงจากตำแหน่งจนมาถึงมือของ เชราร์ อุลลิเย่ร์
ฤดูกาล 1993/94 เป็นช่วงสำคัญของเส้นทางอาชีพของ ปาแป็ง เพราะเกมรอบคัดเลือก USA 94 นัดสุดท้าย เขาเป็นคนโหม่งชงให้ เอริค คันโตน่า ยิงประตูออกนำ แต่สุดท้ายโดน บัลแกเรีย แซงชนะ 2-1 ในช่วงทดเจ็บ ฝรั่งเศสตกรอบแบบช็อคกันทั้งโลก
ฝรั่งเศส เปลี่ยนกุนซืออีกครั้ง หนนี้เป็น เอเม่ต์ ฌักเก้ต์ ซึ่ง ฌักเก้ต์ มีนโยบายชัดเจน ไม่สนพวกสตาร์ แต่เน้นปั้นเด็กรุ่นใหม่เพราะเป้าหมายอยู่ที่ ฟร้องซ์ 98 ที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ
ดาวิด ชิโนล่า, เอริค คันโตน่า รวมถึง ปาแป็ง เองหายหน้าไปจากทีมชาติแทบจะพร้อมๆ กัน
แม้จะมีสถิติยิงประตูให้ทีมชาติดีมาก แต่ฝรั่งเศสกลับไม่ประสบความสำเร็จใดๆ แถมพลาดการไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายถึง 2 สมัยติดต่อกัน คือปี 1990 และ 1994 ทั้งที่หากได้ไปเล่น มันควรเป็นเวทีที่ ฌอง ปิแอร์ ปาแป็ง จะได้แสดงฝีเท้า เพราะนั่นคือช่วงพีคของเขาพอดี
ฌอง ปิแอร์ ปาแป็ง อาจเป็นชื่อที่แฟนบอลรุ่นใหม่อาจพอคุ้นๆ แต่ไม่ได้รู้สึกหรือเคยได้รับรู้ความเก่งของเขามากเท่าตำนานยุคเดียวกันอีกหลายๆ คน ทั้งที่เขาคือเจ้าของบัลลงดอร์ปี 1991 และมีลีลาการยิงประตูที่น่าจดจำสุดๆ
นักเตะบัลลง ดอร์ ที่เกือบจะถูกลืมไปแล้วที่ชื่อ ฌอง ปิแอร์ ปาแป็ง
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
www.cheerball.com/news/talk
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
Line :
https://line.me/R/ti/p/@cheerballth
Facebook :
www.facebook.com/cheerball
Twitter :
www.twitter.com/cheerballth
Website :
www.cheerball.com
Youtube :
www.youtube.com/cheerballth
ขอบคุณครับ
1
3 บันทึก
9
1
3
9
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย