2 มิ.ย. 2021 เวลา 09:43 • กีฬา
24 ปีที่ล้มเหลว กับ 24 ปีที่เดินหน้า ของ “โธมัส ทูเคิล”
ในโลกของฟุตบอล โค้ชที่ยิ่งใหญ่ไม่จำเป็นต้องเติบโตมาจากการเป็นนักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยม โธมัส ทูเคิล คือหนึ่งในนั้น
กุนซือชาวเยอรมันที่คุมทีมบิ๊กเนมในยุโรปมาแล้วทั้งดอร์ทมุนด์, ปารีส แซงต์แชร์แมง, เชลซี แต่กลับไม่เคยประสบความสำเร็จอะไรเลยในวันที่เป็นนักเตะ และแทบไม่มีประวัติการเป็นนักเตะอะไรให้ได้จดจำ
ทูเคิลเริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับอะคาเดมี่ของครุมบัค ทีมในบ้านเกิด ต่อด้วยเอาช์บวร์ก แต่กลับไม่เคยถูกดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ และโดนปล่อยออกจากทีมไปตอนอายุ 19 ปี ก่อนจะไปอยู่กับสตุ๊ทการ์ท คิกเกอร์ส 2 ปี ได้ลงเล่น 8 นัด ยิงไป 1 ประตู ในบุนเดสลีก้า 2 แล้วย้ายไปบุนเดสลีก้า 3 อยู่กับอูล์ม
เหมือนยิ่งเล่นฟุตบอล ก็ยิ่งถอยหลังไปเรื่อยๆ อยู่กับอูล์มได้ 4 ปี ก็ต้องแขวนสตั๊ด เพราะเจ็บเข่าอย่างรุนแรง ซึ่งตอนนั้นทูเคิลอายุแค่ 24 ปีเท่านั้น
เมื่อไม่ประสบความสำเร็จในสังเวียนลูกหนัง ทูเคิลหันหลังให้ฟุตบอล แล้วไปเรียนหลักสูตรบริหารในมหาวิทยาลัย และเป็นเด็กเสิร์ฟในบาร์ในเวลาเดียวกัน เพื่อหาเงินในการเรียนหนังสือ
มันอาจจะดูเหมือนถอยหลัง แต่การเสิร์ฟเครื่องดื่มและอาหารในบาร์ที่สตุ๊ทการ์ท ทำให้เขามีเพื่อน ได้รับความเคารพ ไม่เหมือนกับวันที่เล่นฟุตบอลอยู่เลย
แต่เมื่อเติบโตมากับฟุตบอล การจะหันหลังให้สิ่งที่รักแบบเด็ดขาดไม่ใช่เรื่องง่าย ทูเคิลมักจะตื่นมากลางดึก แล้วจดไอเดียบางอย่างเกี่ยวกับฟุตบอลลงในสมุด
2
ราล์ฟ รังนิค หนึ่งในโค้ชชั้นยอดของเยอรมนี คือ เพื่อนร่วมทีมของทูเคิล ทั้งคู่เคยเล่นด้วยกันที่อูล์ม รังนิคเสนองานให้ทูเคิลเป็นโค้ชทีมเยาวชนของสตุ๊ทการ์ท ในปี 2000
ผลงานของทูเคิลในตอนนั้น คือ การมีส่วนสร้างนักเตะอย่างมาริโอ โกเมซ และโฮลเกอร์ บัดสตูเบอร์ ให้เติบโตขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงได้ บัดสตูเบอร์ถูกส่งต่อไปให้ทีมเยาวชนของบาเยิร์น มิวนิค ส่วนโกเมซขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของสตุ๊ทการ์ท แล้วก็ย้ายไปอยู่กับบาเยิร์น
รังนิคอาจจะพาทูเคิลเข้าสู่วงการโค้ชก็จริง แต่คนที่เขาได้รับการถ่ายทอดวิชา คือ แฮร์มันน์ บัดสตูเบอร์ พ่อของโฮลเกอร์ ตอนอยู่กับทีมเยาวชนของสตุ๊ทการ์ท
ทูเคิลขยับขึ้นมาเป็นผู้ช่วยโค้ชทีมเยาวชน และร่วมพาสตุ๊ทการ์ท จูเนียร์ คว้าแชมป์บุนเดสลีก้า รุ่น 19 ปี ในฤดูกาลถัดมา เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ทูเคิลไม่เคยหันกลับไปมองอดีตอีกเลย
2006 เขาก้าวไปเป็นโค้ชของทีมเยาวชนเอาช์บวร์ก ที่ที่เคยโดนปฏิเสธในวันที่เป็นนักฟุตบอล ก่อนจะขยับไปเป็นโค้ชให้ทีมสำรอง แล้วลาทีมไปอยู่กับไมนซ์ ในปี 2008 คุมทีมยู 19 คว้าแชมป์บุนเดสลีก้า รุ่นเล็ก ด้วยฝีมือตัวเองเสียที
ไมนซ์คือทีมที่เปิดโอกาสให้เขาสร้างชื่อในฐานะโค้ชวัยรุ่นฝีมือดี หลังจากยอร์น แอนเดอร์เซ่น เฮดโค้ชทีมชุดใหญ่ถูกปลด ทูเคิลได้ลิ้มลองการเป็นเฮดโค้ชให้กับทีมอาชีพจริงๆ เป็นครั้งแรก แต่ก็เต็มไปด้วยความกดดัน เพราะไมนซ์เพิ่งเลื่อนชั้นมาปีเดียว เป้าหมายสำคัญ คือ ต้องรอดตกชั้นให้ได้
ฤดูกาล 2009-2010 ไมนซ์จบอันดับ 9 ทำผลงานชนะ 7 นัดรวดในลีก แถมยังชนะบาเยิร์นได้ 2-1 เป็นผลงานที่ดีมากๆ ของสโมสร ทำให้ทุกคนเริ่มจับตามองโค้ชพลังหนุ่มคนนี้แล้ว
ฤดูกาลถัดมา ทูเคิลพาทีมจบอันดับ 5 ได้สิทธิไปแข่งขันยูโรป้าลีกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ได้รับคำชมมากมาย
เคล็ดลับของทูเคิลในการทำทีม คือ จะไม่เปิดวิดีโอเกมที่ทีมแพ้เพื่อเอามาด่าลูกทีม แต่เขาจะกระตุ้นลูกทีมด้วยคำพูดของไมเคิล จอร์แดน ตำนานนักบาสเกตบอลชาวอเมริกันที่ว่า “ในชีวิตนี้ผมผิดพลาดมาหลายต่อหลายครั้ง นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ผมประสบความสำเร็จในวันนี้”
2
อีกคนที่ทำงานเข้าขากับทูเคิลและพากันกอดคอไปได้ไกลในวงการโค้ช คือ เรเน่ มาริช อดีตแฟนบอลพันธุ์แท้ที่ชอบเก็บสถิติต่างๆ ลงไปในบล็อกของตัวเอง เมื่อทูเคิลเห็นเข้า ก็เลยจับมาริชมาร่วมงานในเรื่องการวิเคราะห์สถิติต่างๆ ทั้งทีมของทูเคิลและคู่แข่ง
1
ทุกวันนี้มาริชกลายเป็นผู้ช่วยโค้ชของมาร์โก้ โรเซ่ หนึ่งในโค้ชที่ดีคนหนึ่งของบุนเดสลีก้า
1
การเดินทางของทูเคิลอาจจะไม่ราบเรียบ แต่ก็ไม่เคยถอยหลัง เขาแยกทางกับไมนซ์ ไปลุยต่อที่ดอร์ทมุนด์ คว้าแชมป์แรกในการทำงานโค้ชอาชีพกับทีมเสือเหลือง เป็นแชมปเดเอฟเบ โพคาล เดินหน้าต่อที่เปแอสเช คว้าทุกแชมป์ที่ฝรั่งเศสมี เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
ก่อนจะมาพาเชลซีคว้าแชมป์รายการใหญ่ของยุโรปได้อย่างอลังการ เมื่อไม่กี่วันก่อน เหนือคนที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งยวดทั้งในวันที่เป็นนักเตะและเป็นโค้ชอย่างเป๊ป กวาร์ดิโอล่า อย่างน่าทึ่ง
จนถึงตอนนี้เกือบครบ 24 ปีที่ทูเคิลแขวนสตั๊ดแล้ว 24 ปีในการไต่เต้ามาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ สวนทางกับ 23 ปีกว่า ในการเป็นโค้ชแบบเทียบกันไม่ได้จริงๆ
โฆษณา