2 มิ.ย. 2021 เวลา 11:17 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
[⭐️]ถ้าน้ำแข็งขั้วโลก​ “ละลาย” เสี่ยงเชื้อโรคร้ายระบาด‼️
1
บทความนี้ยาวประมาณนึง พีชอยากให้อ่านจนจบ เพราะในบทความนี้มีความรู้
สอดแทรกอยู่ประมาณนึงเลย ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านพร้อมๆกันเลยค่า🤍
อุณหภูมิโลกสูงขึ้นเรื่อยๆเกิดจากที่มนุษย์เราปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศทำให้เกิดกระบวนการ ก๊าซเรือนกระจก ส่งผลให้เกิดภาวะวิกฤตโลกร้อน
เมื่ออุณหภูมิโลกสูงขึ้น ชั้นดินที่เป็นน้ำแข็ง (Permafrost) จึงค่อยๆละลาย นักวิทยาศาสตร์พบว่าใต้นำแข็งเหล่านี้ มีเชื้อโรคทั้งไวรัสและแบคทีเรียมากมายที่ถูกแช่แข็งอยู่ ถ้าเกิดน้ำแข็งยังคงละลายอยู่อย่างนี้เรื่อยๆ ถ้ามันหลุดออกมา เชื่อได้เลยว่าโรคจะร้ายแรงกว่าไวรัสโควิดที่กำลังระบาดอยู่ในตอนนี้หลายเท่า
“งั้นปกติช่วงหน้าร้อนที่น้ำแข็งละลายทำไมไม่เห็นมีโรคระบาด โรคร้ายออกมาเลยล่ะ?”
ต้องทำความเข้าใจว่าในช่วงหน้าร้อนเนี่ย Permafrost จะละลายที่มีความลึกประมาณ 50 ซม. เป็นปกติของมันอยู่แล้วและจะกลับมาหนาเท่าเดิมในช่วงหน้าหนาว วนลูปไปเรื่อยๆ
6
แต่ในปัจจุบันนี้อุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้นจนไม่สามารถที่จะปรับให้เป็นปกติได้ จนทำให้เกิด Permafrost ละลายลึกมากกว่าปกติ
1
ซึ่งในชั้น Permafrost เป็นชั้นที่อยู่ลึกมากๆ มันถูกทับถมมาเป็นล้านๆปี ดังนั้นการที่น้ำแข็งละลายเป็นเหมือนการปล่อยเชื้อโรคเมื่อล้านปีที่แล้วให้ออกสู่โลกภายนอกอีกครั้ง
นักชีววิทยาวิวัฒนาการอย่าง Jean - Michel Claverie จากมหาวิทยาลัย Aix-Marseille University ประเทศฝรั่งเศส กล่าวว่า “Permafrost” เป็นสถานที่จำศีลชั้นดีของโรค
เพราะในชั้นนี้มีความเย็นจัด ไม่มีออกซิเจน และมืดสนิท ทำให้เชื้อเหล่านี้เข้าสู่สภาวะจำศีล ที่น่ากลัวคือเชื้อโรคเหล่านี้เคยเป็นเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคระบาดในอดีต หรืออาจจะเป็นเชื้อโรคที่มนุษยชาติยังไม่เคยเจอมาก่อนก็ได้
1
และถ้าเชื้อโรคเหล่านี้หลุดออกมาได้แล้วละก็ รับรองได้เลยว่าร่างกายของเราจะไม่มีภูมิคุ้มกัน ในการจัดการกับพวกมันได้อย่างแน่นอน และที่แย่ไปกว่านั้น Penicillin หรือยาปฏิชีวนะ ตัวแรกที่เราได้ค้นพบนั้นเมื่อเกือบร้อยปีที่ผ่านมา เชื้อโรคบางชนิดอาจจะอยู่มานานถึงหมื่นปี เท่ากับว่ายาปฏิชีวนะที่เรามีอาจจะไม่สามารถทำอะไรกับมันได้เลย!!!!!!
เมื่อปี 2005 นักวิทยาศาสตร์จาก NASA ทำการทดสอบปลุกจุลินทรีย์อายุกว่า 32,000 ปี ที่ถูกแช่แข็งอยู่ในแถบ Alaska ขึ่นมาได้สำเร็จ ต่อมาจึงได้มีการทดลองเพิ่ม และยังคงประสบความสำเร็จในการฟื้นคืนชีพแบคทีเรียอายุกว่า 8 ล้านปี ซึ่งถูกแช่แข็งอยู่ใต้ธารน้ำแข็ง Antarctica ซึ่งเป็นการพิสูจน์ว่าไม่ใช่เรื่องยากเลยที่พวกมันจะกลับมาอีกครั้ง
4
แต่ก็ใช่ว่าแบคทีเรียหรือไวรัสทุกตัวจะสามารถอยู่รอดในน้ำแข็งเป็นเวลานานได้ขนาดนั้นจะมีเพียงเชื้อบางตัวที่มีความแข็งแรงอย่าง Anthrax , Tetanus (บาดทะยัก) , Clostridium botulinum ที่สามารถอยู่รอดใต้ชั้น Permafrosrt ได้นานเป็นร้อยๆปี
1
“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัว เพราะมันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว”
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 เกิดโรคระบาดในหมู่บ้านในแถบไซบีเรีย เด็กชายวัย 12 ปี เสียชีวิตและอีกกว่า 20 รายต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล โดยได้มารู้สาเหตุในทีหลังว่าเกิดจากเชื้อแอนแทรกซ์ ซึ่งเป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่เกิดจากแบคทีเรีย
1
นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่าเมื่อ 75 ปีก่อน มีกวางเรนเดียร์ติดเชื้อแอนเทรกซ์และตาย กลายเป็นน้ำแข็งอยู่ใต้ชั้น Permafrost จนกระทั่งภาวะโลกร้อนจึงทำให้เกิดน้ำแข็งละลาย เชื้อโรคจึงได้ฟื้นกลับมาอีกครั้ง สิ่งที่น่ากังวลอีกเรื่องคือเมื่ออุณหภูมิโลกสูงขึ้น เชื้อโรคในเขตร้อนอย่างอหิวาตกโรค มาลาเรีย หรือไข้เลือดออก จะเติบโตขยายการระบาดเป็นวงกว้าง
ดังนั้นการแก้ปัญหาโรคร้อนจึงมีความจำเป็นอย่างมาก เราควรหันมาใส่ใจและช่วยกันรักษาแก้ปัญหาของเราอย่างจริงจัง ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป....
ไม่อยากพลาดเรื่องราวดีๆ “กดติดตาม” เอาไว้เลยน๊า☺️
5
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : today.line.me / pixabay

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา