4 มิ.ย. 2021 เวลา 02:00 • นิยาย เรื่องสั้น
ต้นฉบับเจ้าหญิงนิทรา ดาร์กเกินกว่าจะเป็นนิทานก่อนนอน
ครั้งที่แล้วเราพูดถึงภาคสองแบบโหดๆของเจ้าหญิงนิทรา ในบทความนี้ลองมาดูต้นฉบับของเจ้าหญิงนิทรากันครับ
อย่างที่เล่าให้ฟังก่อนหน้านี้ว่า เจ้าหญิงนิทราเวอร์ชัน Walt Disney เป็นผลงานของพี่น้องตระกูลกริมม์ ที่ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมของ ชาร์ส แปโร ชื่อ "The Sleeping Beauty in the Wood" อีกที
และ The Sleeping Beauty in the Wood ก็ได้อิทธิพลมาจากนิยายเรื่อง "Sun, Moon and Talia" ของนักเขียนชาวอิตาลี ชื่อ เกียบาตติสตา บาซิล (Gianbattista Basile) ที่ถูกเผยแพร่ในปี ค.ศ.1634
Sun, Moon and Talia นี่เองคือเรื่องราวของเจ้าหญิงนิทราสายดาร์ก ซึ่งผมจะขอเล่าตั้งแต่เริ่มเรื่องนะครับ เนื่องจากเรื่องราวค่อนข้างต่างจากเจ้าหญิงนิทราที่เรารับรู้กัน
เรื่องราวเริ่มจากโหรประจำเมืองได้ทำนายว่าจะเกิดเหตุร้ายกับ ทาเลีย (Talia) เจ้าหญิงของเมือง จากการโดนหนามป่านทิ่มนิ้ว พระราชาไม่รอช้าสั่งห้ามนำต้นปอ ต้นป่าน หรือต้นอะไรก็ตามที่มีลักษณะเป็นหนามแหลมเข้ามาในพระราชวัง
แต่ท้ายที่สุดก็ไม่รอด เมื่อเจ้าหญิงถูกหนามป่านทิ่มนิ้วก็ล้มหมดสติไปจนทุกคนในเมืองคิดว่านางตายแล้ว และนำร่างของนางเก็บไว้ในบ้านกลางป่า
ต่อมาพระราชาองค์หนึ่งเดินทาผ่านมาทางบ้านหลังนี้ขณะกำลังออกล่าสัตว์ จึงลองเข้าไปสำรวจภายในบ้านจนพบกับร่างของเจ้าหญิงที่เติบโตเป็นสาวงาม ผิวพรรณสดใส งดงามเป็นอย่างมากจึงเกิดความหลงไหลและทำการข่มขืนเจ้าหญิงทั้งที่ยังหลับอยู่
Photo : https://www.pinterest.com/pin/342977327846565506/
เป็นเพราะหนามป่านนั่นเองที่อาจมีคำสาปหรือเวทมนต์ทำให้เจ้าหญิงต้องหลับไหลแต่ยังมีชีวิตอยู่ สามารถเติบโตจนเป็นสาวงามเต็มวัย และยังตั้งครรภ์หลังจากโดนพระราชาขืนใจอีกด้วย
เจ้าหญิงคลอดบุตรออกมาขณะหลับไหลเป็นแฝดชายหญิง ด้วยสัญชาตญาณของทารกที่หิวโหยจึงพยายามดูดนมจากแม่ จึงไปดูดนิ้วของเจ้าหญิง หนามที่ปักนิ้วอยู่เลยหลุดออก ทำให้เจ้าหญิงตื่นจากหลับไหล
ขณะเดียวกันเป็นจังหวะที่พระราชาเข้ามาพบพอดี จึงได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เจ้าหญิงฟัง และยังตั้งชื่อลูกทั้งสองให้เธอด้วยว่า "Sun" และ "Moon"
Photo : https://dozyrabbit.blogspot.com/2014/06/sun-moon-and-talia.html
ที่จริงแล้วพระราชานั้นมีราชินีอยู่แล้ว จึงไม่สามารถพาเจ้าหญิงและลูกไปที่พระราชวังได้ แต่ให้อยู่ที่บ้านกลางป่าหลังนี้ต่อไป สุดท้ายไม่วายที่ราชินีจะรู้เรื่องเข้าเพราะพระราชาแวะเวียนไปหาเจ้าหญิงอยู่เสมอจนราชินีสงสัย
ราชินีจึงสั่งให้พ่อครัวในวังฆ่าลูกของเจ้าหญิงทั้งสองคนและนำมาทำเป็นอาหารให้พระราชากิน แต่พ่อครัวไม่สามารถทำได้จึงนำเนื้อแกะมาทำอาหารแทนและแอบซ่อนเด็กๆเอาไว้
แค่นั้นยังไม่สาแก่ใจ ราชินีได้สั่งให้ทหารจับตัวราชินีทาเลียมาและต้องการจะโยนเธอเข้ากองไฟ แต่พระราชาก็เข้ามาห้ามไว้ได้ทัน ราชินีเห็นว่าตัวเองคงต้องถูกสั่งประหารแน่ๆ จึงถือโอกาสบอกความลับแก่พระราชาว่าอาหารมื้อค่ำที่กินไปคือลูกแฝดของพระองค์เอง
พระราชาโกรธมากจึงสั่งให้ทหารจับราชินีและพ่อครัวโยนลงกองไฟ แต่พ่อครัวแก้ต่างได้ทันว่าลูกทั้งสองคนยังมีชีวิตอยู่จึงรอดมาได้ ส่วนราชินีก็ต้องถูกเผาทั้งเป็นและตายอย่างทรมาน
หลังจากนั้นพระราชาก็ได้สถาปนาเจ้าหญิงทาเลียเป็นราชินีองค์ถัดไปและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับลูกแฝดอีกสองคนในพระราชวัง
Photo : http://www.blush.me/unwind/sleeping-beauty-italian-version-gave-birth-sleeping
และทั้งหมดนี้คือเจ้าหญิงนิทราในแบบต้นฉบับสุดดาร์ก หากลองมองในมุมของความเป็นจริงจะเห็นว่าตัวร้ายของเรื่องนี้คือพระราชา
ที่เป็นผัวไปมีชู้ ปิดบังชู้เอาไว้เป็นบ้านน้อยกลางป่า เมียหลวงรู้เข้าก็ของขึ้นคิดทำร้ายชู้แต่ผัวมาห้ามไว้ทัน แล้วฆ่าเมียทิ้ง ก่อนชู้รักจะเปลี่ยนสถานะเป็นเมียหลวงพร้อมลูกแฝดอีกสองคน
แบบนี้อย่าว่าแต่นิทานก่อนอนสำหรับเด็กเลย ผู้ใหญ่อย่างเราๆฟังแล้วยังรู้สึกหดหู่เลยครับ แต่เรื่องราวแบบนี้ก็สะท้อนสภาพสังคมในยุคนั้นได้เหมือนกันว่าน่าจะเป็นยุคที่ไม่น่าพิศมัยอะไร และมีความดำมืดอยู่
โฆษณา