Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
History World
•
ติดตาม
2 มิ.ย. 2021 เวลา 23:07 • ประวัติศาสตร์
"ซามูไรคนสุดท้ายตัวจริง"
จากผู้ปราบกบฎ สู่ กบฎ
1
ไซโง ทากาโมริ
ไซโง ทากาโมริ 23 มกราคม ค.ศ. 1828 - 24 กันยายน ค.ศ. 1877 เป็นซามูไรผู้มีชีวิตอยู่ระหว่างปลายยุคเอโดะ (บากุมัตสึ) ถึงช่วงต้นยุคเมจิ เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูเมจิและเป็นผู้นำทัพฝ่ายของพระจักรพรรดิฯในสงครามโบะชิง ผู้ได้รับการขนานนามว่า "ซามูไรที่แท้จริงคนสุดท้าย" ("the last true samurai'") ไซโงมีชื่อในวัยเด็กว่า "ไซโง โคกิจิ" และได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อว่า "ไซโง ทากาโมริ" เมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ นอกจากนี้เขายังใช้ชื่อในงานเขียนกวีนิพนธ์ว่า "ไซโง นันชู"
ไซโง ทากาโมริ คือหนึ่งในซามูไรผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น เหล่านักประวัติศาสตร์และนักวิชาการต่างยอมรับ และเรียกเขาว่า "ซามูไรคนสุดท้ายตัวจริง"
1
เขามีจุดเริ่มต้นธรรมดาทั่วไปจากซามูไรระดับล่างที่ผลักดันตัวเองขึ้นมาจนกลายเป็นซามูไรผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุค
1
จากบุคลิกเข้มแข็ง ตรงไปตรงมา ความเป็นผู้นำและเอาจริงเอาจังกับงานของตัวเองเสมอ ไซโงจึงได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชาอยู่บ่อยครั้ง
ในช่วงที่ญี่ปุ่น แบ่งออกเป็นฝักเป็นฝ่าย ต่อสู้กันเองและเกิดกบฎอยู่บ่อยครั้ง ไซโง ตั้งกลุ่มพันธมิตรซามูไร เพื่อสร้างความแน่นแฟ้นในหมู่พวกตนเอง สิ่งที่ไซโงต้องการคือ การตั้งกลุ่มยอดฝีมือ เพื่อป้องกันซามูไรกลุ่มอื่นที่จะบุกโจมตีพระราชวังหลวงในกรุงเกียวโต
เขาได้รับการแต่งตั้งจากโชกุน ให้เป็นผู้บัญชาการกองทัพ เพื่อปราบกบฎตามเมืองต่างๆ
ทำให้กลุ่มกองกำลังฝ่ายกบฎถูกตีแตกในเพียงเวลาไม่กี่วัน เหตุการณ์ดังกล่าว สร้างชื่อเสียงให้ ไซโง เป็นอย่างมาก
แต่เพราะความเฉลียวฉลาดของเขา บางครั้งแทนที่จะเข้าห้ำหั่นกันอย่าวเดียว เขาเลือกเจรจาลับกับกลุ่มกบฎ นับเป็นการลดความสูญเสียได้มากทีเดียว
ต่อมาเมื่อโชกุนโทกุงาวะ ประกาศยอมสละอำนาจคืนและสิทธิทั้งหมดให้แก่องค์พระจักรพรรดิ เพื่อรวบรวมญี่ปุ่นให้เป็นปึกแผ่น และเปิดประเทศ และถือเป็นการสิ้นสุดระบบโชกุนที่มีมายาวนานนับร้อยร้อยปี
เมื่อเข้าสู่การฟื้นฟูประเทศ ยุคสมัยเมจิ ไซโง กลับมีท่าทีไม่เห็นด้วย เพราะไม่ต้องการให้ชาติตะวันตกมีอิทธิพลในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงหากเกิดการปฏิรูปประเทศ บทบาทของซามูไรก็ต้องลดน้อยลง
ไซโง นั่งกลางภาพ ในการอภิปรายเซกังรง
ไซโง จึงเริ่มจัดเตรียมกองทัพเพื่อเข้าสู่ปราสาทเอโดะ แต่ทางรัฐบาลได้ส่งคนเข้ามาเจรจา ผลคือ ไซโง ยอมจำนนต่อรัฐบาลอย่างไม่เต็มใจนัก แต่ผลดีคือ บ้านเมืองรอดจากสงครามครั้งใหญ่ไปได้อีกครั้ง
เมื่อญี่ปุ่นเริ่มดำเนินนโยบายปฏิรูปประเทศ ไซโง ทากาโมริ ยังถือเป็นซามูไรที่มีบทบาทสำคัญต่อรัฐบาล โดยไซโง ได้เป็นผู้ควบคุมและจัดระเบียบการเกณฑ์ทหารแบบชาวตะวันตก อีกทั้งยังได้รับมอบหมายให้ดูแลคณะรักษาการ แทนเหล่าเสนาบดีที่ออกเดินทางไปกับคณะทูต
1
แต่ด้วยความที่ ไซโง มีความเป็นซามูไรสูง จึงไม่เห็นด้วยที่ประเทศทำตามแบบชาวตะวันตก ทั้งการเปิดประเทศ และบทบาทเหล่าซามูไรลง
1
ซามูไรบางคนที่ปรับตัวได้ก็เข้ามาทำงานกับทางรัฐบาลเหมือนอย่างเขา แต่บางคนก็ไม่สามารถปรับตัวได้ บางคนจากที่เคยเป็นซามูไรที่มีหน้ามีตาในสังคม กลายมาเป็นคนตกงาน ไร้เงิน และมาขอความช่วยเหลือจากเขาอยู่บ่อยครั้ง ไซโงจึงยื่นเรื่องไปทางรัฐบาลหลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล
นอกจากเรื่องที่ลดบทบาทซามูไรแล้ว ความไม่พอใจจนถึงจุดแตกหักนั้น มาจากข้อเสนอของเขาที่อยากให้ญี่ปุ่นเปิดฉากทำสงครามกับเกาหลี
ด้วยเหตุผลเพราะเกาหลีไม่ยอมรับองค์จักพรรดิเมจิ เป็นประมุขโดยชอบธรรม ทั้งยังดูหมิ่นองค์จักรพรรดิ ซึ่งสมัยนั้นถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติต่อญี่ปุ่น
1
ไซโง จึงเสนอนโยบาย จะเดินทางไปเกาหลี และยั่วยุให้เกิดการทำร้ายร่างกาย เพื่อจะได้อ้างเป็นเหตุผลในการประกาศสงคราม แม้ตัวไซโงเองอาจจะต้องตายบนแผ่นดินเกาหลีก็ไม่เป็นไร
แต่โชคดีที่ความคิดสุดโต่งนี้ ได้รับการยับยั้งและต่อต้านจากหลายๆคน เพราะการทำสงครามแต่ละครั้งต้องใช้เงินและทรัพยากรมากมาย
อีกทั้งอาจจะทำให้การปกป้องตนเองจากชาติตะวันตกลดน้อยลง เพราะต้องไปทำสงครามกับเกาหลีนั่นเอง
3
เมื่อรัฐบาลปฏิเสธข้อเสนอครั้งนี้ ไซโง จึงยื่นลาออกและกลับบ้านเกิดที่เมือง คาโงชิมะ ซึ่งไม่มีใครคาดคิดว่า ซามูไรเพียงคนเดียว จะเป็นหนึ่งในสาเหตุของสงครามกลางเมืองครั้งใหญ่ในเวลาต่อมา
ไซโง นั่งกลางภาพ ด้วยชุดทหารแบบตะวันตก
เมืองคาโงชิมะ บ้านเกิดของไซโง ได้มีการตั้งโรงฝึกสำหรับชาวญี่ปุ่น ที่ยังคงมีความศรัทธาในแบบซามูไร จุดประสงค์ของโรงฝึก คือมีไว้ใฝ่รู้ในวิถีบูชิโด ฝึกสอนตำรา ศาสตร์โบราณต่างๆ รวมถึง ประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมแบบซามูไร
แต่การเปิดสถานศึกษาแบบนี้สร้างความกังวลกับทางรัฐบาลเป็นอย่างมาก และมองว่าเป็นการกระด้างกระเดื่องและเป็นอันตราย
รัฐบาลจึงได้ยกเลิกเบี้ยหวัดซามูไร ในปี ค.ศ. 1877 ทั้งยังถอนกำลังทหารและอาวุธออกจากเมืองคาโงชิมะ รวมถึงมีเรื่องเล่าว่ารัฐบาลส่งคนไปลอบสังหาร ไซโง
2
ด้วยเหตุผลหลายอย่าง จึงทำให้ ไซโง ต้องจับพลัดจับพลูขึ้นมาเป็นหัวหน้ากลุ่มกบฎซามูไรและต่อสู้กับรัฐบาล กลุ่มกบฎนี้คือเหล่าซามูไรที่มากไปด้วยฝีมือ ทางรัฐบาลจึงต้องทุ่มเทกำลังเพื่อปราบกบฎครั้งใหญ่ โดยส่งกองทัพใหญ่กว่า300,000นาย จัดเต็มทั้งเรื่องอาวุธ ปืนเล็ก ปืนใหญ่ ปืนกลไฟ ปืนกลแกลลิง ที่ได้มาจากชาติตะวันตก เพื่อปราบกบฎซามูไร ที่มีจำนวนเพียง 40,000 คน
ด้วยอาวุธที่ทันสมัยกว่า รวมถึงจำนวนคนทหารที่เป็นต่อ ทำให้ในเวลาไม่นานซามูไร จากจำนวน40,000 ก็เหลือเพียง 400 คนเท่านั้น
ทางรัฐบาลจึงพยายาทเจรจาครั้งสุดท้าย แต่ไซโง กลับปฏิเสธอย่างหนักแน่น แม้จะรู้ว่ายังไงก็ต้องพ่ายแพ้แน่นอนแล้ว แต่พวกเขาก็ขอสู้จนถึงที่สุด
ไซโง ทากาโมริ แต่งชุดดำ(บนขวาของภาพ) กำลังบัญชาการรบ ในสงครามครั้งสุดท้าย บนภูเขาชิโรยามะ
ในช่วงการต่อสู้นั้น ไซโง ได้รับบาดเจ็บสาหัสตรงสะโพกด้านซ้าย และไม่มีใครทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด แต่จากคำบอกเล่าของซามูไรคนสนิทอ้างว่า ไซโง ได้ทำการฮาราคีรี ด้วยตัวเอง บ้างก็ว่า ไซโง ได้ขอให้สหายของเขาเป็นผู้ทำอัตวิบากกรรมให้ อย่างไรก็ตาม นักประวัติศาสตร์กลับไม่ค่อยเห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว เพราะการบาดเจ็บที่สาหัสนั้นอาจจะขยับตัวหรือพูดไม่ได้ด้วยซ้ำ และมีความเป็นไปได้สูงว่า กลุ่มผู้ภักดีเป็นคนตัดศรีษะของเขา เพื่อให้เขาได้ตายอย่างมีศักดิ์ศรีและสมกับฐานะของเขา
ซึ่งการเสียชีวิตของไซโง ทากาโมริ ทำให้สงครามจบลงทันที พร้อมกับชัยชนะของรัฐบาล
ถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นกบฎแต่ไซโงนั้น ได้รับความนับถือจากชาวญี่ปุ่นมาก เพราะความที่เป็นคนมีวินัย ทำตามแบบซามูไรที่เคร่งครัด แม้บางครั้งอาจจะเป็นคนหัวรุนแรงไปบ้าง แต่ที่ทำไปก็เพื่อส่วนรวม ไม่ยึดติดกับอำนาจ และพร้อมพลีชีพเพื่ออุดมการณ์ที่หนักแน่นของตัวเอง
1
ไซโง ทากาโมริ อนุเสาวรีย์ ตั้งอยู่ ณ สวนสาธารณะอูเอโนะ กรุงโตเกียว
เกิดการเรียกร้องของประชาชน เพื่อให้ทางรัฐบาลญี่ปุ่น อภัยโทษย้อนหลังให้ ไซโง ทากาโมริ ถึงแม้รัฐบาลจะไม่เต็มใจนัก แต่ก็ไม่อาจทนกระแสจากประชาชนได้ รัฐบาลจึงประกาศย้อนหลังให้ ไซโง ทากาโมริ พ้นผิดฐานกบฎในปี ค.ศ.1889
เรื่องราวของไซโง ทากาโมริ ถูกนำไปสร้างภาพยนต์อยู่บ่อยครั้ง ไม่เพียงแต่วงการภาพยนต์ญี่ปุ่น แต่รวมถึงHolly wood ในการเป็นแรงบันดาลใจสร้างเรื่อง The Last Samurai ที่มีตัวละครชื่อว่า ไซโง คัตสึโมโตะ ที่ถอดแบบมาจาก ไซโง ทากาโมริ นำแสดงโดย เคน วาตานาเบะ
ไซโง คัตสึโมโตะ รับบทโดย เคน วาตานาเบะ ในภาพยนต์เรื่อง The Last Samurai
6 บันทึก
10
2
4
6
10
2
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย