4 มิ.ย. 2021 เวลา 00:28 • ปรัชญา
ทำไม....ปฏิบัติธรรม ทำดี จึงมี " วิบากกรรม "
จาก คลังพระพุทธศาสนา
คิดเห็นเพิ่มเติม
จาก หลอดไฟ
จริงแท้แน่นอน สายหลวงพ่อจรัญฯมีเคสให้เห็นแนวนี้ไม่น้อย และเป็นจริงเช่นนั้น
เรื่องราวเช่นนี้​ ก็มีปรากฏ​เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในผู้ปฏิบัติตามวิถีของสำนักเถรวาท เคสที่พอจำได้คือ
หมอชลอ ศิษย์เอกหลวงพ่อขรัญฯ เข้าฌานได้นานหลายสิบชั่วโมงจนเห็นกรรมในอดีตชาติของตนที่ทำคนตาย และคนตายอาฆาตหนัก
ต่อมาไม่นานมีเหตุให้หย่อนการปฏิบัติเพราะเพื่อนชวนไปทำธุรกิจที่ต่างจังหวัด และไปด้วยดีการค้ารุ่งเรืองสุดท้ายถูกยิงตาย
พระญวน มาอาศัยปฏิบัติที่วัดวันดีคืนดีวิ่งเอาหัวชนเสาชนกำแพงร้องเหมือนหมูเหมือนวัวควายใช้กรรมหนักที่ทำมาสมัยวัยรุ่นคืออยู่โรงฆ่าสัตว์ทุบหัวสัตว์มาไม่น้อย
และผู้ปฏิบัติส่วนใหญ่ก็จะเจอเวทนาขันท์เป็นส่วนมาก บางคนปวดหัว ปวดหลัง ปวดเข่า ปวดขา อันเป็นเวทนานุปัสสนา เป็นมากบ้างน้อยบ้าง ไม่ได้หมายความว่าปฏิบัติมานานจะไม่มีเวทนา
เวทนาเขาจะมามากมาน้อยไม่แน่นอน แต่ผู้ได้สภาวะธรรม ได้สมาธิที่แท้จริงแล้วจะแยกรูปนามได้
ร่างกายกับจิตแยกจากกันได้ ร่างกายมีทุกขเวทนาแต่จิตไม่ทุกขเวทนาไปด้วย ไม่ใช่แยกรูปนามตามที่ท่องที่อ่านที่เข้าใจตามตัวหนังสือ
สมาธิจริงๆไม่ใช่ได้กันง่ายๆโดยเฉพาะสัมมาสมาธิ ส่วนมิจฉาสมาธิเราคงไม่ต้องพูดถึง
เมื่อเข้าใจแล้วจะไม่แปลกใจอีกว่าทำไมเจอเคราะห์กรรม เรื่องนั้นบ้างเรื่องนี้บ้าง
กรรมที่เราเคยทำจะลดลงไปเรื่อยๆจากความดีจากบุญกุศลที่เราทำ แต่เรามักหลงลืมกรรมเก่าของเราที่เคยทำไว้
เราคิดแต่บุญกุศลที่จะส่งผล ให้ได้ให้มี ด้วยเหตุที่เรามีวิบากของเราจากอดีตตามมาส่งผล เราจึงมีสุขบ้างทุกข์บ้างตามเหตุปัจจัย
ที่สำคัญอย่าไปสร้างกรรมไม่ดีขึ้นอีก สติ...จึงสำคัญมาก ตัววัดสติไม่ใช่แค่ข้ามถนนไม่ถูกรถชน แต่ตัดสินที่การคิด พูด ทำนั้นมีประโยชน์มีโทษกับตัวเอง และผู้อื่นหรือไม่
หลายคนใช้อารมณ์มีทิฐิมานะเหตุผลมีสารพัด โดยไม่คำนึงว่าเราได้อะไร เสียอะไร คนอื่นเขาเสียหาย เดือดร้อนหรือไม่
หลายครั้งเมื่อถูกเข้าใจผิดการชี้แจ้งนัดเคลียร์แม้จะคุยด้วยเหตุผลแต่ก็อาจไม่มีความหมาย เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ได้บรรลุ
ล้วนแต่เป็นปุถุชนมีอคติ4เป็นพื้น แม้โจรก็มีเหตุผลที่จะเป็นโจร เรื่องบางเรื่องจึงแก้ได้โดยไม่ต้องแก้
การวางเฉยและเวลาอาจเป็นคำตอบดีกว่าการเอาเส้นผิดถูกมาตีตรากัน
ในอดีตกาลมีมากมายที่คนดีกลายเป็นคนเลว คนที่คิดดีทำดีปรารถนาดีกลับถูกมองมุมลบๆ
ประวัติศาสตร์มักจะซ้ำรอยเดิมเพราะอคติ4บ้าง ทิฐิมานะอยากเอาชนะบ้าง
นิวรณ์5ไม่เคยลดน้อยลงจริง เหล่านี้เราจึงมีปัญหาในทุกกลุ่มสังคมอันเป็นธรรมดาโลก
ผู้ได้สภาวะธรรมดีแล้วย่อมเข้าใจดีว่า
"มันเป็นเช่นนั้นเอง"
ถ้าใครอ่านงานท่านพุทธทาส ซึ่งเป็นสายปัญญาวิมุติจะเข้าใจได้จากปัญญา
"อิทัปปัจจยตา"ก็ดี "สุญญตา"ก็ดีที่ท่านอธิบายทำให้ผู้มีปัญญาเกิดความเข้าใจโลกและชีวิตเข้าถึงสัจจธรรมความจริงได้ไม่ยาก
เมื่อผัสสะถูกกระทบ จิตอารมณ์เป็นอย่างไร ดูมันตามความเป็นจริง ส่วนใครฝึกสติมาดีแล้ว สติก็จะช่วยให้ไม่หลงไปกับอารมณ์ร้ายๆแย่ๆนานเกินไปทำใจได้ปลงได้แบบ
"มันเป็นเช่นนั้นเอง"
โฆษณา