4 มิ.ย. 2021 เวลา 10:30 • คริปโทเคอร์เรนซี
จริงหรือไม่? คริปโต(Cryptocurrency) นำไปสู่การใช้พลังงานที่สูงขึ้น จนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม🌱
คริปโต (Cryptocurrency) เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ตอนนี้มีคนจำนวนมากให้ความสนใจ นักลงทุนมากมายที่สามารถรับความเสี่ยงนี้ได้ ต่างก็สรรหาวิธีเพื่อให้ตนเองได้เป็นเจ้าของคริปโตเหล่านี้ ซึ่งบางคนที่มีอุปกรณ์พร้อม ก็จะใช้คอมพิวเตอร์ในการขุดเหรียญ (Cryptomining) เพื่อให้ได้มาครอบครอง
แต่กว่าจะได้มาสักคอยน์นั้น คอมพิวเตอร์จะต้องใช้ปริมาณพลังงานไฟฟ้ามากพอสมควร ทำให้นักสิ่งแวดล้อมหลายคนออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับการขุดเหรียญคริปโตเพราะพวกเขาคิดว่าการกระทำเหล่านี้อาจส่งผลเสียให้กับสิ่งแวดล้อมได้
⚡️ทำความรู้จักกับการขุดคริปโต (Cryptomining)
การขุดเหรียญคริปโต (Cryptocurrency) เป็นการทำธุรกิจแบบพิเศษ ต้องอาศัยเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีกำลังในการคำนวณสูงมาก ฮาร์ดแวร์ที่ใช้งานจึงต้องมีประสิทธิสูงด้วยเช่นกัน เพื่อที่จะได้แก้สมการโจทย์คณิตศาสตร์ที่ระบบสร้างขึ้นมา และทันทีที่แก้สมการนั้นๆได้ ก็จะได้รับเหรียญคริปโต (Cryptocurrency) เป็นของตอบแทน ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้ จะต้องใช้ปริมาณพลังงานไฟฟ้าในการขุดสูงมาก
⚡️ข้อมูลการใช้พลังงานไฟฟ้าในCryptocurrency
ในบรรดาสกุลเงินคริปโต (Cryptocurrency) ทั้งหมด บิตคอยน์ (Bitcoin) คือสกุลเงินที่ผู้คนนิยมขุดมากที่สุด
จากข้อมูลล่าสุดของ Statista ได้เผยแพร่ออกมา พบว่าในระยะเวลา 1 ปี จะมีการใช้พลังงานไฟฟ้าในการขุด หรือทำธุรกรรม Bitcoin ประมาณ 143 (Twh) หรือราว ๆ 0.62 % ของการบริโภคพลังงานไฟฟ้าของทั้งโลกรวมกัน
Annual Electricity Consumption of Countries and Bitcoin
นอกจากนั้นการขุด Bitcoin ยังเป็นการเพิ่มปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ โดยข้อมูลจาก digiconomist พบว่ามีตัวเลขสูงถึง 55.86 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ (MtCO2) [Access: May 2021]
ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับของประเทศเปรูมากๆ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้นักสิ่งแวดล้อมหลายคนรู้สึกกังวลใจ กลัวว่าการขุดคริปโต (Cryptocurrency) จะเป็นการเร่งให้โลกของเรามีอุณหภูมิสูงขึ้นเร็วกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ไปใน Bitcoin กับอุตสาหกรรมอื่น ๆ อย่างทองคำและระบบธนาคาร กลับพบว่าระบบธนาคารใช้พลังงานมากที่สุด โดยสูงถึง 263.72 TWh ต่อปี รองลงมาเป็นอุตสาหกรรมทองคำที่ประมาณ​ 240.61 TWh ต่อปี
จึงยังคงเป็นประเด็นถกเถียงว่าการใช้พลังงานไฟฟ้าไปกับ Bitcoin นั้นเป็นเรื่องที่ยอมรับได้หรือไม่
⚡️อนาคตของCryptocurrency
จากการใช้พลังงานไฟฟ้าที่สูงมากของการขุดหรือทำธุรกรรม Cryptocurrency ทำให้ปัจจุบันมีแนวโน้มที่รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแลอื่น ๆ จะหันมาให้ความสนใจกับการจัดการ Carbon Footprint รวมถึงการเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาด เช่น น้ำ ลม แสงอาทิตย์ในการขุด Cryptocurrency แทน
ซึ่งใน มณฑลเสฉวน ประเทศจีนก็ได้มีการนำแนวคิดนี้มาใช้เพื่อกระตุ้นให้อุตสาหกรรม Blockchain ใช้ประโยชน์จากพลังงานน้ำส่วนเกิน
ถึงแม้การขุดเหรียญคริปโต (Cryptocurrency) จะใช้พลังงานไฟฟ้าสูงมาก ซึ่งอาจเทียบเท่ากับปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้าของประเทศหนึ่งเลยทีเดียว
แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามีความพยายามที่จะส่งเสริมและผลักดันการนำพลังงานหมุนเวียนชนิดต่าง ๆ มาใช้ในการขุดและทำธุรกรรม Cryptocurrency ซึ่งจะช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และยังเป็นการชะลอการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกอีกด้วย
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://gideon.energy/news/cryptocurrency-and-its-effect-on-environment
โฆษณา