4 มิ.ย. 2021 เวลา 08:26 • การศึกษา
จากลิเบียถึง MIT - เปลี่ยนจุดด้อยให้เป็นเวทย์มนต์
เด็กชายแซคคาไรจากลิเบีย ได้เขียนข้อความถึงเล็กซ์ ฟรีดแมน
ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ด้านปัญญาประดิษฐ์ที่ MIT มีใจความว่า
ถึง ดร. เล็กซ์
ผมเรียนม.ปลายอยู่ที่ประเทศลิเบีย
ผมสนใจเทคโนโลยีใหม่ๆ และปัญญาประดิษฐ์
ผมได้ลงคอร์สออนไลน์ CS50x ของ Harvard
คนอย่างผมควรจะเรียนต่ออย่างไรดี ?
ผมอยู่ในจุดที่ไม่เอื้ออำนวยในการเรียนนัก
เพราะระบบการศึกษาที่ประเทศลิเบียของผม
นั้นด้อยมาก (disadvantage)
วันข้างหน้า ผมอยากเป็นวิศวกรที่ยิ่งใหญ่เหมือนคุณ
เหมือนอีลอน มัสก์ หรือคนอื่นๆ ถึงแม้จะไม่มีชื่อเสียงเท่าก็ตาม
ผมจะขอบคุณอย่างมากถ้าคุณจะตอบคำถามของผม
ในวันที่เด็กคนนึงที่มาจากไหนก็ไม่รู้สามารถเขียนข้อความถึง
นักวิจัยจาก MIT ได้
แซคคาไร
ข้อความต่อไปนี้เป็นการตอบกลับของ Lex Friedman ในวันที่
29 มิถุนายน 2020
แซคคาไร ขอบคุณมากที่เขียนคำถามมา
เธอยกย่องผมเกินไปมาก
ผมมีเรื่องอยากจะพูดเยอะมากในสิ่งที่เธอถามมา
แต่ผมจะพยายามพูดให้สั้น ให้ตรงประเด็น
ก่อนอื่นผมคิดว่ามันวิเศษมากที่เธอเขียนถึงผม
และเธอมองเห็น passion ของตัวเองได้อย่างชัดเจน
อย่าลืมเรื่องเหล่านี้ในอนาคต ในการเรียนในมหาวิทยาลัย
อย่าลืมว่าเธอหลงใหลในปัญญาประดิษฐ์
อย่าลืม "ไฟ" ในหัวใจของเธอ ของเด็กมัธยมปลายในวันนี้
และเก็บไฟนี้ให้ลุกโชนต่อไป
ผมคิดว่าคำถามของเธอเกี่ยวกับ "เรื่องของจุดด้อย" (disadvantage)
ผมคิดว่าเราอยู่ในโลกที่หลายๆ อย่างมันไม่ยุติธรรมสำหรับทุกคน
ที่เราทุกคนไม่ได้เริ่มต้นมาจากจุดเดียวกัน และข้อด้อยเหล่านั้นของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน
พวกเรายังไม่เข้าใจมากพอว่าจะทำให้โลกนี้ยุติธรรมขึ้นได้อย่างไร
แต่เรื่องนี้อาจจะใหญ่เกิดไปสำหรับเราสองคน
ผมคิดว่าเรื่องที่เธอควรต้องตั้งเป้าหมายคือเรื่องที่ "เธอสามารถทำได้" ในชีวิต
สิ่งที่อยู่รอบตัวเธอ มันก็จะยังอยู่รอบตัวเธอ
ผมคิดมาตลอดว่า "จุดด้อย" ของผมเปรียบเสมือน "มนต์วิเศษ" (superpowers)
ที่ผมมี และผมก็คิดว่าจุดด้อยของเธอก็เป็นมนต์วิเศษของตัวเธอเช่นกัน
ขอให้เธอใช้จุดด้อยให้เป็นพลัง ถ้าเธอลองดูเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ของ
วีรบุรุษหรือวีรสตรีที่ยิ่งใหญ่ทั้งหมดในประวัติศาสตร์ของเรา
เรื่องราวเหล่านั้นมักเริ่มต้นจากจุดด้อย ความยากลำบากทั้งหลายที่ต้องฝ่าฟัน
มันมีอะไรบางอย่าง ในกระบวนการการข้ามผ่านจุดด้อยเหล่านั้น ที่ "สร้างความยิ่งใหญ่"
ทว่า คนส่วนใหญ่เลือกที่จะยอมแพ้
ถ้าเธอผ่านมันไปได้ ถ้าเธอรอดจากมัน เรื่องราวของเธอก็จะเป็น "เรื่องราวที่ยิ่งใหญ่" เฉกเช่นเดียวกัน
การศึกษาที่ลิเบียอาจจะไม่ดีที่สุดสำหรับ passion ในปัญญาประดิษฐ์ของเธอ
บางทีเธออาจจะอยากเป็นอาจารย์หรือเป็นนักวิจัยชั้นนำของโลก
มันยากที่เริ่มจากลิเบียแล้วไปมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลกที่อเมริกา
แต่นั้นไม่ได้หมายความว่า เป็นไปไม่ได้
ผมอยากพูดอีกครั้งว่า เรื่องราวของคนที่ยิ่งใหญ่ล้วนแล้วแต่เริ่มต้นคล้ายๆ เรื่องของเธอ
พูดในทางปฏิบัติผมแนะนำอย่างไร?
ผมแนะนำให้เธอเรียนคอร์สออนไลน์ แต่ไม่ใช่แค่เรียน
ให้ฝึ "สร้าง" สิ่งต่างๆ ให้เกิดขึ้น
ผมคิดว่าทางที่ดีที่่สุดที่เธอจะก้าวผ่านจุดด้อยในที่ๆ เธออยู่
ก็คือการใช้อินเตอร์เน็ตในการสร้างสิ่งต่างๆ ให้เป็นจริง
และโชว์ผลงานให้โลกได้เห็น
สร้างมันขึ้น ทำให้เสร็จ และโชว์ให้โลกเห็น
นั่นหมายถึงให้เรียนการเขียนโปรแกรม
หมายถึงให้สร้างสิ่งที่เธอรู้สึกว่ามันน่าตื่นเต้น
และก็แปลกใหม่
และมันจะยิ่งดีที่สุดถ้าสิ่งแปลกใหม่เหล่านั้นจะถูกนำไปใช้จริง
และสร้างความสุข สร้างคุณค่าให้กับคนอื่นๆ
อาจเป็นแค่สิ่งเล็กๆ เช่น การเริ่มต้นสร้างเลียนแบบสิ่งที่มีอยู่แล้ว
(re-implement) และหาจุดที่เธออยากรู้เพิ่มเติม จุดที่ทำให้เธอ
สนุกไปกับมัน ได้จินตนาการ ได้แก้ปริศนาต่างๆ
อย่าลืมความสนุกและความตื่นเต้นเหล่านั้น
จำมันไว้ จำไฟที่ลุกโชนเหล่านั้นไว้ และมุ่งไปข้างหน้าต่อไป
เพราะอย่างไรก็ตาม ในวันนึง เธอจะเจอกับความมืด
วันที่เธอสูญสิ้นความหวัง วันที่เธอรู้สึกว่าไม่สนใจมันอีกต่อไปแล้ว
มุ่งหน้าต่อไป จดจำไว้ว่าไฟเคยลุกโชนในใจเรา
เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมก็คือ เมื่อไรก็ตามที่เราทำสิ่งต่างๆ
ด้วยความหลงใหล บางทีแม้มันอาจจะพัง บางทีอาจมีทั้งขึ้นและลง
แต่เราก็จะได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน
ดังนั้นเมื่อรู้ตัวว่าเรามี passion ให้รีบก้าวแรกโดยเร็ว
ก้าวแรกๆ จะเป็นก้าวที่ยากที่สุดเสมอ
จงก้าวต่อไป ไม่ต้องรีบ แต่ต้องสม่ำเสมอ
ทีละก้าว ทีละก้าว
ฝึกฝีมือไปเรื่อยๆ และให้เชื่อมั่นว่า เราทำได้
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ "ทำงานให้เสร็จ"
สร้างอะไรก็ได้ที่เจ๋งๆ ไม่ต้องยิ่งใหญ่
เล็กๆ แต่เท่
อะไรก็ได้ที่แปลกใหม่ แล้วก็เอาไปโชว์ให้ผู้คนเห็น
เอามาโชว์ผม และผมก็จะนำไปแชร์ต่อให้โลกรู้
อาจไม่ต้องเป็นผมก็ได้ เป็นใครก็ได้
ขอให้เธอกล้าที่จะโชว์ผลงานที่สำเร็จ
และเธอจะไม่มีทางรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
หลายๆ ครั้งผมรู้สึกว่าตัวผมเอง ไม่สมควรได้รับอะไรหลายๆ อย่าง
ที่ได้รับมาจนถึงวันนี้
ใช่ ผมทำงานหนักมาก แต่ผมก็ยังคิดว่ามีคนอื่นอีกมา
ที่ทำงานหนักเช่นเดียวกัน และเก่งกว่าผมในหลายๆ ด้าน
ดังนั้นผมจึงคิดเสมอว่าผมโชคดีมากๆ แต่ผมก็ได้สัมผัสถึง
มนตราของ "ความมีน้ำใจ" ต่อผู้อื่นทีทำงานหนัก
และนี่คือความสวยงามของโลกอินเตอร์เน็ต
นั่นคือเมื่อเธอโชว์ผลงานที่คุณรักให้โลกได้ประจ้กษ์
อะไรดีๆ ก็จะเกิดขึ้น
เวทมนต์จะเกิดขึ้นกับเธอ ถึงแม้สิ่งที่เกิดขึ้นอาจไม่ใช่ความสำเร็จที่เธอฝันถึง
แต่มันจะเป็นความสำเร็จที่เติมเต็มในหัวใจของเธอ
ดังนั้นอย่ายึดติด อย่าไปคิดว่า การได้เรียนที่ MIT หรือ Stanford
คือนิยามของความสำเร็จ
ความสำเร็จอาจจะเป็นธุรกิจของเธอเอง
ความสำเร็จอาจจะเป็นการได้ทำงาน startup เล็กๆ ที่ทำให้ผู้คนมีความสุข
ความสำเร็จอาจจะเป็นการได้ใช้ทักษะวิศวกรรมซอพท์แวร์ที่เธอตกผลึกในวัย
20 กว่าๆ เพื่อช่วยชาวเกษตรกรรม หรือทนายความ หรือบุคลากรทางการแพทย์
การเดินทางครั้งนี้อาจนำพาเธอไปหลายหนแห่ง แต่ตราบใดก็ตามที่เธอจำความหลงใหลนี้ได้ เวทมนต์วิเศษจะเกิดขึ้นกับเธอแน่นอน
จงอยู่อย่างปราศจากความริษยา ให้อยู่กับความซื่อสัตย์ ทำงานหนัก
มีน้ำใจ จงทำมันไป
ผมมั่นใจว่ามนต์วิเศษจะเกิดขึ้นกับเธอ
ผมขอย้ำอีกทีว่าจงมอง "จุดด้อย" ที่เธอได้พูดถึงนั้นให้เป็น "ของขวัญ" ที่เธอได้รับ
เป็นมนต์วิเศษนั่นเพราะเมื่อเรื่องราวของเธอถูกเขียน ซึ่งผมมั่นใจว่ามันจะถูกเขียนแน่
เรื่องของเธอมันจะเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ และในหนังสือนั้น บทที่ 2 และ 3 จะเต็มไปด้วยงานหนักมากมายที่เธอฝ่าฟันมา
จริงๆ แล้วบทที่ 4, 5 หรือ 6 ก็คงยังเป็นงานหนักด้วยเช่นกัน
อาจจะมีบทหลังๆ ที่เธออาจจะได้สนุกบ้างเล็กน้อย
แต่จริงๆ แล้วผมคิดว่าการทำงานหนักเพื่อเอาชนะความยากลำบากนี่แหละ
คือความสนุกที่แท้จริงของชีวิต
เธอจะว่าผมเพี้ยนก็ได้ แต่ผมจะแนะนำไม่ให้เธอฟังใครก็ตาม
ที่แนะนำให้เธอทำอาชีพที่มั่นคง เพื่อความปลอดภัย
ผมแนะนำให้เธอฟังเสียงในหัวใจ ฟังความหลงใหลของตัวเอง
ให้กล้าเผชิญความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่ ในขณะที่เธอนั้นยังอายุน้อย
เวลานี้แหละ คือเวลาที่เธอควรทำสิ่งเหล่านี้
สร้างผลงาน เอามันลงใน Github
แชร์ให้โลกรู้ สร้างความสุขและคุณค่าให้ผู้คน
และผมเชื่อว่าโลกเพี้ยนๆ ใบนี้ที่เปี่ยมด้วยความรักจะตอบแทนเธออย่างแน่นอน
ดังนั้นขอให้โชคดี ผมเชื่อในตัวเธอ
ผมจะรอวันที่ได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับตัวเธอ
ตอนที่ผมอายุ 80
ดังนั้น แซคคาไร ผมจะเชียร์เธอ
ทั้งโลกก็เชียร์เธอเช่นกัน ขอให้โชคดี
เพื่อนๆ สามารถดูคลิปตอบกลับฉบับเต็มของเล็กซ์ ฟรีดแมนได้ที่นี่ครับ
ดูบทความย้อนหลังเกี่ยวกับการแชร์ผลงานด้าน Computer Science ในบทความเก่าได้ที่นี่
โฆษณา