อย่างที่เล่ามาแล้วตั้งแต่ครั้งก่อน เทียร่าจำนวนนับพันถูกสั่งทำขึ้นในอังกฤษและฝรั่งเศส คำว่า"เทียร่า" ตรงกับคำในภาษาไทยว่า"รัดเกล้า" โดยสันนิษฐานว่าเริ่มมีเข้ามาเป็นเครื่องประดับของเจ้านายสตรีในราชสำนักสยาม
.
ในช่วงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเสด็จประพาสยุโรปอยู่หลายคราวด้วยกัน กล่าวกันว่าสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นเจ้านายที่มีเครื่องประดับเพชรนิลจินดาจำนวนมาก พระองค์ทรงโปรดเครื่องประดับจำพวกเครื่องเพชรมาก และกล่าวกันว่าเจ้านายในราชสำนักในรัชกาลที่ 5 จะนิยมประดับเทียร่าเวลามีงานพระราชพิธีสำคัญ ๆ ในพระบรมมหาราชวัง
.
มาในยุคสมัยปัจจุบัน เทียร่ามิได้จำกัดอยู่แค่กลุ่มบุคคลชั้นสูงหรือพระราชวงศ์เท่านั้น แต่ในวงการบันเทิงหรือมหาเศรษฐีก็สามารถที่จะมีหรือสวมใส่เทียร่าเป็นเครื่องประดับส่วนตัวได้
.
ดังปรากฏในปี ค.ศ.1996 มาดอนน่า เคยหยิบยืมเทียร่าจากร้านดัง ๆ มาสวมใส่ ในหลาย ๆ โอกาส แต่ในพิธีแต่งงานของเธอ เมื่อเดือนธันวาคมปี ค.ศ.2000 มาด่อนน่ากลับเลือกสวมเทียร่าเพชรรูปมงกุฏดอกไม้ยุคปลายศตวรรษที่ 19 ประกอบด้วยเพชรหนัก 78 กะรัต จากแอสเปรย์ แอนด์ การ์ราร์ด
.
เซอร์ เอลตัน จอห์น ก็เคยซื้อกระบังหน้าไรน์สโตนประดับเพชร 2 ชิ้น ซึ่งต่อมากลายเป็นแรงบันดาลใจให้เดวิล เฟอร์นิช นำไปสร้างเป็นภาพยนต์กึ่งชีวประวัติเรื่อง "Tantrums and Tiaras" ในปี ค.ศ. 1996
.
นอกจากนี้ เทียร่ายังได้รับการสวมประดับศรีษะของบรรดาสาวฮอลลีวู้ดอีกหลายคน ไม่ว่า เม็ก ไรอน, ชารอน สโตน,เอลิซาเบ็ธ เฮอร์ลีย์,เจมี ลี คอร์ติส หรือ มินนี ไดรเวอร์ หรือแม้กระทั่ง วิกตอเรีย อดัมส์ อดีตสาวสไปซ์ ก็เลือกสวมเทียร่า ที่ออกแบบโดยสลิม บาร์แร็ต ผู้ชนะการประกวด De Beers International Awards ปี ค.ศ. 2000 ในวันงานพิธีสมรสกับเดวิก เบ็กแฮมด้วยเช่นกัน
.
เทียร่า มีบทบาทสำคัญทางประวัติศาสตร์ในตัวของมันเอง เป็นข้อเตือนใจถึงเรื่องราวในอดีต ชัยชนะ ความสุข รวมทั้งเป็นสารซึ่งแสดงถึงความลึกซึ้ง และจากพัฒนาการในเรื่องรูปแบบและงานดีไซน์
.
ทำให้เชื่อได้ว่า เทียร่าจะไม่มีวันตกยุค เพราะเทียร่ามีการปรับดีไซน์ให้เข้ากับยุคสมัยทั้งในแง่แฟชั่นและสังคมจวบจนถึงศตวรรษที่ 21 เทียร่าก็ยังคงเป็นเครื่องประดับที่สตรีส่วนใหญ่ใฝ่ฝันถึง ความรุ่งเรืองสดใสของเทียร่ายังรออยู่ในอนาคตข้างหน้า เนื่องจากนักออกแบบเครื่องประดับต่างให้ความสำคัญทยอยออกแบบเทียร่ารูปแบบสวย ๆ ออกมาอย่างไม่ขาดสาย และนักออกแบบเหล่านี้รู้ดีว่า ไม่มีอะไรที่ทำให้ผู้หญิงดูพิเศษและรู้สึกเป็น "เจ้าหญิง" มากไปกว่าเครื่องประดับชิ้นนี้อีกแล้ว