5 มิ.ย. 2021 เวลา 13:46
พอดีได้เห็นโพส Facebook ใน 7 ปีที่แล้วทำให้เกิด บทความนี้ขึ้นมาได้
และอยากให้หลายคนที่ได้อ่าน อย่ามองคนแต่เพียงภาพที่เขามีในแต่ปัจจุบัน
แต่อยากให้มองว่าตลอดเส้นทางนั้นเขาทำอะไรมาบ้าง
นี้คือเรื่องราวก่อนที่ผมจะมีอะไร ดังในปัจจุบันที่ผมทำอยู่
การบ่นไรสาระช่วนนั้นเพราะเครียดอะไร หลายอย่าง
พอมาเห็นโพสนี้ ทำให้คิดถึงตอนหัดเขียนโค้ดใหม่ๆครั้งแรก กว่าจะผ่านช่วงนั้นมาได้
ทั้งอ่านบทความ สื่อการสอน ทั้งดูคลิป ซื้อหนังสือมาอ่าน ในแบบถาษาไทย&อังกฤษ (ผมไม่เก่งภาษาอังกฤษอย่างแรงในปัจจุบันก็ยังเป็นอยู่) และพยายามอ่านโค้ดของพวกพี่ๆเขาให้เข้าใจอีก ทั้งการสอนส่วนใหญ่ แทบต้องศึกษาเองหมด
1
ถึงมีพี่เลี้ยงแต่เหมือนไม่มี เพราะเขาไม่ว่าง สอนที ก็ยอมรับนะ สอนเร็วมากเรียกว่าไม่เข้าใจเลยและตามไม่ทัน จึงต้องมานั้นศึกษาเอง อีกรอบ
แล้วหลายครั้งมักโดนว่า “เรื่องนี้ เคยสอนไปแล้วทำไมไม่จำ บลาๆ” ตอนถามสิ่งที่ไม่รู้ บางทีโดนว่าอย่างแรง หลายครั้ง ผมยอมรับนะที่ว่ามาผมอาจลืมไปหรือเปล่าในสิ่งที่เขาสอน แต่บางครั้งผมมั่นใจว่าไม่ได้สอน 100% แต่ก็ต้องยอมรับไปก่อนให้ได้เรียนรู้
หลังจากเหตุการนี้ทำให้เวลาสอนน้องใหม่ในปัจจุบัน ผมจะไม่มีวันพูดคำนี้เด็ดขาดหรือว่าแรงๆ ไม่ว่าจะเครียดมาจากไหน แต่จะแนะนำให้น้องเขาจดไปแทน แล้วถ้าเกิดการถามซำ้ผมจะไปนั่งข้างๆแล้วให้เปิดย้อนแล้วนั่งอ่านอีกรอบ พร้อมทั้งถามว่าเข้าใจที่จดไหมเเท่านั้น ถ้าไม่ก็จะแนะนำเพิ่มพร้อมทั้งให้จดเพิ่ม หรือหาวิธีสอนที่เข้าใจมากขึ้น
จึงทำให้สมัยนั้นเวลาจะถามอะไร มักกลัวที่จะถาม เลยต้องศึกษาเองเป็นหลัก เพราะตอนผมโดนว่าทีเหมือน โดนประจานมากกว่า พอว่าทีทุกแผนกได้ยินหมด ก็มันเป็นแค่พาร์ทิชั่นกั้นโต๊ะเท่านั้น แทนที่จะดึงเข้าห้องคุยส่วนตัว ลึกก็คิดนะที่ตอนชมทำอะไรดีดันเรียกเข้าห้องหรือพูดเบาชะงั้น😕
แถมต้องอยู่ช่วงทดลองงานต่ออีกตั้ง 3 เดือน รวม 6 เดือน ไม่ผ่านช่วงแรก^^"
3 เดือน แรกยอมรับนะว่าท้อ เพราะ โดนบอกว่าเราทำงานด้านนี้ไม่ไหวหลอก ถ้าไม่พัฒนาตัวเอง ทั้งเครียด แล้วกดดัน แต่ไม่เคยเอาความกดดันนั้นมายอมแพ้
ตอนนั้นที่โดนบอกไม่ผ่านทดลองงานนั้น ถ้าไม่เคยโดนกับตัวเองไม่มีใครรู้หลอกว่าคนฟังจะรู้สึกท้อขนาดไหน ถึงขนาดจะยอมแพ้หางานใหม่เลย คิดกับตัวเองว่าเราไม่เหมาะกับงานนี้บ้างละ เราชอบทางด้านนี้จริงๆหรอ ทำให้ผมกลับไปนั้งคิดเต็มๆ 1 สัปดาห์ แล้วก็ขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ ส่วนใหญ่แนะนำให้หาที่ใหม่เลยดีกว่า
ต้องบอกก่อนนะครับวว่าสมัยเรียนผมจบสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ การเรียนการสอนหลักเป็นเทคโนโลยีการทำธุรกิจ แต่เรื่องการเขียนโค้ดต่างๆไม่มีสอน มีแต่เรียนในวิชาเลือกเพียง 1 ตัวที่เลือกลงตามใจตัวเองได้ และได้เรียนโค้ดแบบพื้นๆตอนเรียนสมัยมัธยมเท่านั้น
กลับเข้าเรื่องต่อ^^”
สิ่งที่ทำให้ผมกลับมาพยายามต่อคือ ผมคิดเพียงแค่ว่าสิ่งที่เขาพูดมา มันก็จริงอยู่บางส่วนที่ผมไม่มีความสามารถพอ ถึงแม้ว่าจะย้ายงานไปไหนก็ต้องโดนเหมือนเดิม ถ้ายังตั้งใจในเส้นทางนี้
แต่สิ่งหนึ่งที่ยอมรับไม่ได้ที่หาว่าผมไม่พยายาม หรือไม่รีบพัฒนาตัวเอง ทั้งที่ผมวิ่งๆสุดในแบบของตัวเอง แต่ช้าในมุมมองของเขา
อีกสิ่งนึงคือผมไม่มีสิทธิที่จะเลือกงานมากเท่าไร เพราะครอบครัวผมไม่ได้มีเงินมาก ยิ่งไม่มีงานรองรับจะยิ่งเป็นภาระกับครอบครัว และถ้าเกิดปัญหาหนักๆเข้าที่จำเป็นต้องใช้เงิน แล้วผมออกจากงาน จะยิ่งแย่ลงกว่าเก่า
ในช่วงที่ไม่ผ่านทดลองงานช่วงแรก เคยอยากพูดกับหัวหน้า นะว่าผมจบคอมมา แต่ไม่ได้จบทางด้านโค้ดมาโดยตรง แค่ความชอบ เลยมีความรู้จากวิชาเลือกเพียงเล็กน้อย แล้วผมก็พัฒนาตัวเองอยู่นะ ไม่ใช้ไม่ทำ อย่าหาว่าผมเอาแต่ให้คนอื่นช่วยนะ หรือที่บอกว่าทำงานช้าก็เพราะต้องใช้เวลาศึกษาทำความเข้าใจหน่อย
หลายครั้งก็มักโดนบอกว่า พัฒนาการเราช้า ต้องรีบวิ่งให้ทัน ไม่ใช่มั่วแต่เดินจะไม่ทันคนอื่นเขา
ซึ่งความจริงคือวิ่งอยู่นะ แต่เขาไม่รู้ว่าคือวิ่ง ^^" แค่ยอมรับนะว่าวิ่งช้ากว่าคนอื่นจริงๆ พอให้เหตุผลไปก็หาว่าให้เหตุผลไม่ดี หรือว่าเป็นการเถียงชะงั้น แต่ก็ต้องทนเพราะเราเข้าใจตัวเองดีที่สุดว่าเราพยายามหนักแค่ไหน
จนทำให้ผมพัฒนาตามที่เราทำได้แล้วมั่นคง แต่ไม่เคยที่จะหยุดเดิน โดยไม่ต้องสนใจว่าใครจะว่ายังไง แต่รู้ตัวเองว่าเราลงมือทำแค่ไหน ดีกว่ามา โทษว่าคนนูน คนนี้
จนบัดนี้ผมก็ยังทำงานประจำเขียนโค้ดอยู่ใน บริษัทเดิม แล้วได้มีผลงานในบริษัท มากอยู่ ที่คนอื่นอาจไม่รู้ว่าเป็นฝีมือผม ในหลายเว็บ&โปรแกรม ที่ผมเขียนให้บริษัท แต่สิ่งที่ผมภูมิใจที่สุด และรู้ว่าคนใช้งานเยอะมากๆ ก็เว็บ serazu.com (เป็นเว็บสำหรับขายหนังสือในเครือสำนักพิมพ์โดยตรง และส่งตรงจากสำนักพิมพ์ ที่ผมทำงานให้) ที่ผมเป็นคนร่วมสร้างมันตั้งแต่แรก จนมันพัฒนาเวอร์ชั้น 2 ที่ผมรับผิดชอบเพียงคนเดียวในการเขียน และกำลังจะเข้า ในเวอร์ชั่น 3 เร็วๆนี้
หนึ่งในผลงานเว็บที่ผมทำ และคนเข้าเยอะมากๆ
เพื่อนหลายๆคนมักมองผมที่เป็นในปัจจุบัน แต่อยากให้มองเส้นทางที่เดินในช่วงเวลาที่ผ่านมามากกว่า ว่าจะเป็นแบบนี้ได้ผมสร้างรากฐานมาขนาดไหน
ทั้งสมหวัง และไม่สมหวัง ทั้งการเงิน หน้าที่การงาน และควาามรัก
ไม่มีใครที่จะมีอะไรได้ ถ้าไม่เริ่มสร้างรากฐานให้ตัวเอง หลายครั้งต้องยอมเสียอะไรมากมายเพื่อให้เป็นความมั่นคงระยะยาว
ทุกอย่างอย่าหวังที่จะเห็นผลเร็วๆ ภายใน 2 3 วัน หนึ่งสัปดาห์ หนึ่งเดือน หรือแม้แต่ หนึ่งปี
หลายสิ่งที่ผมทำกว่าจะได้มาแต่ละอย่างเริ่มต้นจากทีละนิด ที่ค่อยๆสะสมในแต่ละวัน จนมันเริ่มยิ่งใหญ่ขึ้นโดยไม่รู้ตัว ในช่วงเวลารวมกันก็มากกว่า 5 ปี บางอย่างก็เห็นผล บางอย่างก็พึ่งเริ่มเห็นผล และบางอย่างยังไม่เห็นผล
การจะทำให้มันเห็นผลได้ต้องเริ่มจากให้ค่อยๆสร้าง ค่อยเก็บ และต้องอดทนในบ้างครั้งเพื่อให้ได้สิ่งที่ยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีกขั้น
การที่พยายามทำอะไรบางครั้ง ผมก็ขอเตือน ให้หันมามองดูด้วยนะ เพราะอาจทำให้สูญ เสียสิ่งสำคัญไปได้ จากการที่เรามุ่งมั้นในเป้าหมายมากเกินไป
ผมไม่อยากให้คนมุ่งมั่นเป้าหมาย มากเกิน จนสูญเสียสิ่งสำคัญ ไปเหมือนอย่างผม ที่ไม่สามารถจะเอาคืนมาได้อีกตลอด กว่าจะรู้ก็ไม่สามารถทำอะไรได้แล้วจนยังรู้สึกเสียใจอยู่ถึงทุกวันนี้ แต่ก็ต้องจำให้เป็นบทเรียนของตัวเอง ที่จะไม่มีทางลืมเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต(ด้านความรักนะ^^”) ควรที่จะประคองมันไปด้วยทั้งหมด ให้อยู่ในความพอดี
บทความที่ผมเขียนเล่ามา ให้ผู้ที่กำลังพยายามทำอะไรอยู่แล้วเกิด ท้อขึ้นมาก็ขอเป็นหนึ่งในกำลังใจให้นะครับ ว่าทุกการพยายามไม่มีการเสียเปล่าในอนาคตแน่นอนถ้าพยายามไม่หยุด
โฆษณา