จับตาให้ดี! GB News ช่องน้องใหม่ใน UK ที่จะเริ่มออนแอร์ 13 มิถุนายน 2564 นี้ อาจจะมีโมเดลใกล้เคียงกับช่อง Fox News ในสหรัฐฯ
ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา สื่อในสหราชอาณาจักร (UK) รายงานข่าวว่า ช่อง GB News เตรียมออกอากาศครั้งแรกผ่านระบบทีวีดิจิทัล (Freeview) ทีวีดาวเทียม (Freesat, Sky) และเคเบิลทีวี (Virgin Media) ในวันที่ 13 มิถุนายน 2564 (ตามเวลาของ UK) โดยสามารถรับชมผ่านมือถือและแอปพลิเคชันได้อีกด้วย โดยรายการแรกที่จะออกอากาศ จะใช้ชื่อรายการพิเศษว่า “Welcome to GB News” ทางช่องระบุว่า รูปแบบรายการในช่องนี้จะไม่ใช่การรายงานตลอดทั้งวัน แต่จะเป็นการผสานการนำเสนอข่าว การแสดงความคิดเห็น และการดีเบต เข้าด้วยกัน และเข้าถึงผู้ชมใน UK ได้มากถึง 96%
เดือนสิงหาคม 2563 The Independent รายงานว่า GB News (ใช้ชื่อบริษัทว่า All Perspectives Ltd.) ได้รับใบอนุญาตในการออกอากาศบนโทรทัศน์จาก Ofcom (กสทช. UK) เมื่อเดือนมกราคม 2563 ขณะที่ The Guardian รายงานว่า ผู้ก่อตั้ง GB News ได้แก่ Andrew Cole และ Mark Schneider ทั้ง 2 คนนี้มีความใกล้ชิดกับ John C. Malone ประธานบริษัท Liberty Global ซึ่งเป็นเจ้าของ Virgin Media ผู้ให้บริการเคเบิลรายใหญ่ใน UK
The Guardian ยังพบว่า Andrew Cole นั่งอยู่ในบอร์ดของบริษัท Liberty Global อีกด้วย และเคยโพสต์บอกกับผู้ติดตามใน LinkedIn ว่า BBC เป็นเครื่องผลิตโฆษณาชวนเชื่อขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยขอให้ติดตามการแถลงข่าวของผู้ดำเนินรายการชื่อดังไว้ และเตรียมพบกับช่องข่าวใหม่เพื่อชาว UK ซึ่งจะมีความแตกต่างออกไปจากเดิม พร้อมกล่าวว่า "ผู้คนมีความต้องการและอยากได้มุมมองใหม่ๆ แบบนี้"
ต่อมาในช่วงเดือนกันยายน 2563 Andrew Neil ผู้ดำเนินรายการเกี่ยวกับการเมืองบนหน้าจอ BBC มายาวนานกว่า 25 ปี ได้ลาออกจาก BBC มารับตำแหน่งประธานบอร์ด (Chairman) ช่อง GB News ส่วน Angelos Frangopoulos อดีต CEO ของ Sky News Australia ได้ย้ายมาเป็น CEO ของ GB News
โดย Financial Times รายงานว่า สื่อช่องนี้อาจจะเป็นสื่อฝ่าย "Right-leaning" หรือ "สื่อฝ่ายขวา" หรือ "สื่อฝ่ายอนุรักษ์นิยม" ขณะที่ The Guardian และ City A.M. มองว่า ช่องนี้น่าจะมีรูปแบบและเนื้อหาคล้ายคลึงกับช่อง Fox News ของ Rupert Murdoch ซึ่งเป็นสื่อรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ที่สนับสนุนแนวคิดฝ่ายขวาหรืออนุรักษ์นิยมอย่างชัดเจน
ต่อมาก็มีข่าวระบุว่า GB News ได้รับเงินลงทุนมากถึง 60 ล้านปอนด์ (2,644 ล้านกว่าบาท) โดยมีผู้ลงทุน 3 รายสำคัญ ได้แก่ Discovery ผู้ทำช่องสารคดีรายใหญ่ระดับโลก (ล่าสุดเพิ่งเป็นส่วนหนึ่งของ WarnerMedia เมื่อ 17 พฤษภาคม 2564), Legatum กลุ่มบริษัทด้านการลงทุนจากดูไบ และ Paul Marshall ผู้จัดการกองทุนบริหารความเสี่ยง Marshall Wace ซึ่งมีแนวคิดสนับสนุน Brexit โดยช่องดังกล่าวระบุว่า ตนจะเป็น Disruptor สร้างความแตกต่างจากธรรมชาติของช่องข่าวใน UK สะท้อนให้เห็นว่า GB News ต้องการแข่งกับ BBC News และ Sky News อย่างชัดเจน
ขณะที่มีรายงานว่า Dan Wootton อดีตบรรณาธิการบริหารของ The Sun หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ชื่อดังของ UK, Simon McCoy ผู้ประกาศข่าวชื่อดังของ BBC, Alastair Stewart อดีตผู้ประกาศข่าวของ ITV จะกลับมาอีกครั้งในช่องนี้อีกด้วย รวมถึงอดีตสมาชิกของพรรค Brexit Party อย่าง Inaya Folarin Iman, Alexandra Phillips และ อดีต ส.ส.พรรคแรงงาน (Labour Party) อย่าง Gloria De Piero ก็จะมาร่วมเป็นผู้ดำเนินรายการในช่องนี้อีกด้วย
ด้วยความที่ GB News มาแบบครบเครื่อง ก็อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ในที่สุด Rupert Murdoch ซึ่งอยากทำช่องข่าวใน UK เป็นอันต้องพับโครงการไป โดย Rebekah Brooks ในฐานะ CEO ของ 'News UK' เปิดเผยกับพนักงานว่า ค่าใช้จ่ายในการทำช่องข่าวบนทีวีอันมหาศาล มันไม่สมเหตุสมผลกับในการทำให้ธุรกิจเดินไปข้างหน้าได้ ซึ่งพวกเขาจะยังทำสตรีมมิ่งในชื่อ Fox Nation ให้แก่ผู้ชมในสหรัฐฯ และทำ Fox News International ให้แก่ผู้ชมประเทศอื่นๆ ต่อไป รวมถึงจะลงทุนกับการทำวิดีโอคอนเทนต์ในสไตล์ทีวีกับ TalkRadio รายการฝั่งวิทยุของ News UK ให้มีความเป็นมืออาชีพและมีคุณภาพดีมากขึ้น
ด้วยความที่ GB News มาแบบครบเครื่อง อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ในที่สุด Rupert Murdoch ซึ่งอยากทำช่องข่าวใน UK เป็นอันต้องพับโครงการไป หลัง Rebekah Brooks ซึ่งเป็น CEO ของ 'News UK' เปิดเผยว่า
อย่างไรก็ตามบน Twitter @StopFundingHate ได้ออกแคมเปญ #DontFundGBNews รณรงค์ให้ติด hashtag เพื่อเชิญชวนให้ผู้คนและบริษัทต่างๆ หยุดสนับสนุนการให้เงินหรือลงโฆษณากับสถานีโทรทัศน์ GB News ที่มีรูปแบบคล้ายสถานีโทรทัศน์ Fox News เป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน
ที่มา:
ติดตาม #ยามเฝ้าจอ ได้จากหลายหลายช่องทางดังนี้
Facebook Group: https://www.facebook.com/groups/yarmfaojor
Facebook: https://www.facebook.com/yarmfaojor
Twitter: https://twitter.com/YarmFaoJor (@YarmFaoJor)
YouTube: https://youtube.com/c/yarmfaojor
Blockdit: https://www.blockdit.com/yarmfaojor
Website: https://yarmfaojor.net
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
