7 มิ.ย. 2021 เวลา 09:50 • ปรัชญา
👏 เปิดเผยกิเลส ให้รู้พิกัดถ้ำ คุหัฏฐกสูตร ✌
.
☕ ที่ผ่านมาก็กินกาแฟครับ! เช้าซอง เย็นซอง ก็เอาให้มันขาดซักที กินจนหลานเรียก.. “ลุงดม แฟ ลุงดม แฟ” ...ทุกเช้าๆ ก็ใจอ่อนเพราะหลานครับ ว่าไปโน่น?...คุณกลั่นไฟ
.
📱 ติดมือถือครับ...น้องกันตัง
.
🏡 ติดบ้าน กลับบ้านบ่อยๆ จึงตั้งใจลดการกลับบ้าน...คุณดวงศีล
.
🚀 ติดการงาน และยึดดี แต่ตอนนี้ลดลงบ้างแล้ว ดูแลสุขภาพด้วยการกินอาหารรสจืดลง...คุณปลูกขวัญ
.
🍭 ติดกินขนมของหวานของขบเคี้ยว ติดกาแฟ ติดดูฟุตบอลตอนดึกๆ ติดส้มตำ ...ลูกๆหลายคนที่ปฐมอโศก
💦 ได้ฟังความจริงจากใจจากลูกส่งถึงพ่อครู ผ่านบุญนิยมทีวีในงานอโศกรำลึก 2564 แล้วประทับใจทุกท่านเลย โดยเฉพาะ ญาติธรรมที่ปฐมอโศก ได้บอกถึง รูป-นาม ของ “สักกายะ” ที่ตั้งใจลดละถวายพ่อครู
🙏 5 วรรคทองของ คุหัฏฐิสูตรที่ว่าด้วย “การข้องอยู่ในถ้ำ”
พ่อครูเน้นย้ำเรื่องของการติดถ้ำ คือ กาย ในคุหัฏฐกสุตตนิทเทส ที่มีวรรคแรกของสูตรว่า
_“นรชนเป็นผู้ข้องอยู่ในถ้ำ(สตฺโต คุหายํ)
_เป็นผู้อันกิเลสมากปิดบังไว้แล้ว(พหุนาภิฉนฺโน)
_นรชนเมื่อตั้งอยู่ ก็จมลงในที่หลง(ติฏฺฐํ นโร โมหนสฺมํ ปคาโฬฺห)
_นรชนเช่นนั้น ย่อมอยู่ไกลจากวิเวก(ทูเรวิเวกา)”
_ก็เพราะกามทั้งหลายในโลก ไม่เป็นของอันนรชนละได้โดยง่าย.
.
💣 รู้จักถ้ำของตน จึงพ้นสักกายทิฏฐิ
ได้ฟังชาวปฐมอโศกแล้วก็ประทับใจ ในความกล้าเปิดเผยกิเลสออกอากาศกันอย่างสดๆ จึงเป็นผู้พ้นจากการเป็นผู้อันกิเลสมากปิดบังไว้แล้ว น่าจะได้เป็นผู้อันกิเลสไม่มาก แล้วเปิดเผยแล้ว ย่อมไม่ตั้งอยู่ ย่อมไม่จมลงในที่หลง และย่อมเข้าใกล้วิเวกมากยิ่งขึ้น
.
เพราะ คำว่า ถ้ำ นี้พระพุทธเจ้ากำหนดหมาย กายนี้เรียกว่า ถ้ำ.... คำว่า กายก็ดี ถ้ำก็ดี ร่างกายก็ดี ร่างกายของตนก็ดี เรือก็ดี รถก็ดี ธงก็ดี จอมปลวกก็ดี รังก็ดี เมืองก็ดี(หลงเมือง) กระท่อมก็ดี ฝีก็ดี(หลงในสิ่งที่เป็นความทุกข์ทรมาน) หม้อก็ดี(สิ่งของเครื่องใช้) เหล่านี้เป็นชื่อของกาย(รวมถึงเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของมนุษย์ที่พากันหลงติดยึดต่างเรียกได้ว่าถ้ำ)
.
หากไม่รู้จัก “กาย” ที่พ่อครูเน้นนักหนาว่า ต้องมีทั้งรูปและนาม ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่นับว่าเป็น “กาย” ก็ไม่มีทางได้เป็นพระอาริยะแม้แต่พระโสดาปัตติมรรค เพราะไม่อาจพ้นสังโยชน์ข้อที่ 1 คือ“สักกายทิฏฐิ” ได้เลย ดังนั้น ที่ชาวปฐมอโศกบอกมาไม่ว่าจะเป็น ติดกาแฟ ติดมือถือ ติดของหวาน เป็นต้น จึงบ่งบอกถึง รูปและนาม ของ “สักกายะ” ครบพร้อม
🐱 ผู้ข้องอยู่ในถ้ำคือผู้มีความเป็นสัตว์
คำว่า เป็นผู้ข้องอยู่ในถ้ำ คือ ข้อง เกี่ยวข้อง ข้องทั่วไป ติดอยู่ พันอยู่ เกี่ยวพันอยู่ในถ้ำ เหมือนสิ่งของที่ข้อง เกี่ยวข้อง ข้องทั่วไป ติดอยู่ พันอยู่ เกี่ยวพันอยู่ที่ตะปู ซึ่งตอกติดไว้ที่ฝา หรือที่ไม้ขอ ฉะนั้น. สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ความพอใจ(ฉันทะ) ความกำหนัด(ราคะ) ความเพลิน(นันทิ) ความปรารถนาในรูป ความเข้าไปถือ ความเข้าไปยึดในรูป อันเป็นความตั้งมั่น ความถือมั่น และความนอนตามแห่งจิต(ความนอนแน่แช่นิ่งแห่งจิต) บุคคลมาเกี่ยวข้องอยู่ในความพอใจเป็นต้นนั้น เพราะเพราะนั้น. จึงเรียกว่า สัตว์. คำว่า สัตว์เป็นชื่อของผู้เกี่ยวข้อง
💥 เปิดเผยกิเลสจึงเป็นทางสะดวกออกจากถ้ำ
ส่วนการเป็นผู้อันกิเลสมาก ปิดบังไว้แล้ว ก็คือ อันความกำหนัด ความขัดเคือง ความหลง ความโกรธ ความผูกโกรธ ความลบลู่ความตีเสมอ ความริษยา ความตระหนี่ ความลวง ความโอ้อวด ความดื้อ ความแข่งดี ความถือตัว ความดูหมิ่น ความเมา ความประมาท ปิดบังไว้แล้ว อันกิเลสทั้งปวง อันทุจริตทั้งปวงอันความกระวนกระวายทั้งปวง อันความเร่าร้อนทั้งปวง อันความเดือดร้อนทั้งปวง อันอภิสังขารคืออกุศลธรรมทั้งปวง บังไว้ คลุมไว้ หุ้มห่อไว้ ปิดไว้ ปิดบังไว้ ปกปิดไว้ ปกคลุมไว้ครอบงำไว้แล้ว
.
ก็เพราะกิเลสมาก ปิดบังไว้แล้ว ตนเองก็เลยไม่รู้ว่าอยู่ในถ้ำ จะออกจากถ้ำได้ จึงต้องเปิดเผยพิกัดของถ้ำแก่ผู้เชี่ยวชาญ คือสัตบุรุษ ท่านจะได้นำทางออกจากถ้ำได้เหมือนช่วย 13 หมูป่า
🌼 เปิดเผยกิเลสจะนำให้พ้นสีลัพพตปรามาส
ทำไมต้องเปิดเผยกิเลสต่อสัตบุรุษ...ก็เพราะพระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า “ก็เพราะกามทั้งหลายในโลก ไม่เป็นของอันนรชนละได้โดยง่าย” หากไม่เปิดเผยแล้วต่อสัตบุรุษแล้ว ความละอาย(หิริ) โอตตัปปะ(เกรงกลัว) จะไม่แรงกล้าพอที่ทำให้นรชน(คน) ตั้งใจลดละกิเลสได้
.
ทั้งกิเลสและอุปกิเลส 16 หากได้เปิดเผยต่อสัตบุรุษแล้ว สัตบุรุษจะให้สัมมาทิฏฐิ ก็จะทำให้ชัดเจนในกิเลสและอุปกิเลสของตนจนพ้นวิจิกิจฉาสังโยชน์ เกิดปัญญาข้อแรกคือเข้าไปตั้งความละอายอย่างแรงกล้า เกรงกลัวอย่างแรงกล้า เคารพรักอย่างแรงกล้าต่อสัตบุรุษ ตนเองก็จะเกิดพลังในการลดละสักกายะให้พ้นสีลัพพตปรามาส ไม่ปฏิบัติลูบคลำกิเลส แต่เอาจริงเอาจังลดละกิเลสได้จริงนั่นเอง
👪 มิตรดีสหายดีสังคมส่ิงแวดล้อมดี พาให้ออกจาก ความตั้งอยู่-หยั่งลงในที่หลง
คุณกลั่นไฟ แห่งปฐมอโศกเล่าไว้ตอนหนึ่งว่า ที่ผ่านมาก็กินกาแฟครับ! เช้าซอง เย็นซอง ก็เอาให้มันขาดซักที กินจนหลานเรียก.. “ลุงดม แฟ ลุงดม แฟ” ...ทุกเช้าๆ ได้ยินหลานว่าอย่างนั้น เขาจึงเกิดความละอาย และในวาระครบ 87 ปีของพ่อครู ก็เลยถือโอกาส ตั้งศีล ตั้งตบะเพื่อลดละสักกายะของตนเอง คือติดกาแฟ เอาให้เด็ดขาดไปเลย อย่างนี้เป็นต้น
🍩 ความตั้งอยู่ของนรชน คือการ เพลิดเพลิน ชมเชย ยึดถือ กามคุณ 5
พระพุทธองค์ตรัส...รูป-เสียง-กลิ่น-รส-สัมผัส ที่พึงรู้ด้วย ตา-หู-จมูก-ลิ้น-สัมผัสกาย อันเป็นที่น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ น่ารัก ประกอบด้วยกาม เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด มีอยู่ หากว่าภิกษุเพลิดเพลิน ชมเชย ยึดถือรูปนั้น “ตั้งอยู่” เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า นรชนเมื่อตั้งอยู่แม้ด้วยประการอย่างนี้. (เมื่อนามคือจิต เข้าไป เพลิดเพลิน ชมเชย ยึดถือ ในรูป ก็เกิดเป็นวิญญาณ)
.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย วิญญาณที่เข้าถึงรูป เมื่อตั้งอยู่ย่อมมีรูปเป็นอารมณ์ มีรูปเป็นที่ตั้ง ซ่องเสพความเพลิดเพลินตั้งอยู่ ย่อมถึงความเจริญงอกงามไพบูลย์
.
เมื่อความกำหนัด ความเพลิดเพลิน ความปรารถนา มีอยู่ในกวฬิงการาหาร-ผัสสาหาร-มโนสัญเจตนาหาร-วิญญาณหาร เมื่อวิญญาณหยั่งลง นามรูปก็หยั่งลง สังขารก็หยั่งลง ภพ ชาติ ชรา มรณะ โศกะ ความหม่นหมอง ความคับแค้น ย่อมหยั่งลงในที่นั้น
🌸 หยั่งลงในที่หลง คือหลงพร้อม หลงเสมอ ในกามคุณ 5
คำว่า หยั่งลงในที่หลง มีความว่า กามคุณ 5 คือ รูปที่พึงเห็นแจ้งด้วยจักษุ ที่น่าปรารถนาน่าใคร่ น่าพอใจ น่ารัก ประกอบด้วยกาม เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด เสียงที่พึงรู้แจ้งด้วยโสต ...กลิ่นที่พึงรู้แจ้งด้วยฆานะ ... รสที่พึงรู้แจ้งด้วยชิวหา ... โผฏฐัพพะที่พึงรู้แจ้งด้วยกาย ที่น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ น่ารัก ประกอบด้วยกาม เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด
.
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ที่หลงเพราะเหตุไร กามคุณ ๕ พระผู้มีพระภาคจึงตรัสว่า ที่หลง. เพราะเหตุว่า เทวดาและมนุษย์โดยมาก ย่อมหลง หลงพร้อม หลงเสมอ เป็นผู้หลง เป็นผู้หลงพร้อม เป็นผู้หลงเสมอในกามคุณ 5 เป็นผู้อันอวิชชาทำให้ตาบอด หุ้มห่อไว้ ปิดไว้ ปิดบังไว้ ปกปิดไว้ ปกคลุมไว้ครอบงำแล้ว เพราะเหตุนั้น กามคุณ 5 พระผู้มีพระภาคจึงตรัสว่า ที่หลง. คำว่า หยั่งลงในที่หลงคือ หยั่งลง ก้าวลง หมกมุ่น จมลงในที่หลง เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า นรชนเมื่อตั้งอยู่ก็หยั่งลงในที่หลง.
😈 คนพาลมีการเพ่งโทษคนอื่นเป็นกำลัง บัณฑิตมีการเพ่งตนเป็นกำลัง
คนพาลคือผู้มีกิเลสเป็นอันมาก ปิดบังเอาไว้แล้ว เพลิดเพลิน ชมเชย ยึดถือ ในกามคุณ 5 ยอมเกิดรูปนาม เกิดวิญญาณ สังขาร ภพ ชาติ ชรา มรณะ ความหม่นหมอง ความคับแค้น ย่อมหยั่งลง เมื่อคับแค้นใจ จึงมีการเพ่งโทษผู้อื่นเป็นกำลัง นั่นเพราะเหตุแห่งความเพลิดเพลิน ชมเชย ยึดถือ ในกาม และอัตตาของตน นรชนเช่นนั้นย่อมไกลจากวิเวก
.
ส่วนบัณฑิต มีการเพ่งตนเป็นกำลัง เพราะกิเลสเบาบาง เปิดเผยกิเลสแล้วต่อสัตบุรุษ จึงเกิดความละอายอย่างแรงกล้า เกรงกลัวอย่างแรงกล้า ด้วยเคารพรักอย่างแรงกล้าต่อสัตบุรุษ มีสัมมาทิฏฐิปัญญาละกิเลสที่จะปฏิบัติตามจรณะ 15 วิชชา 8 ย่อมละความเพลิดเพลิน ชมเชย ยึดถือ ในกามและอัตตาของตน มีการเพ่งกิเลสตนเป็นสำคัญ จึงเห็นสักกายทิฏฐิ พ้นวิจิกิจฉา ปฏิบัติให้พ้นสีลัพพตปรามาสได้ และปฏิบัติสังโยชน์อีก 7 ที่เหลือได้ในที่สุด
.
...🌍 ภูมิพุทโธ... 7 มิถุนายน 2564
🙏 ยึดติดคืออุปาทาน ต้องการคือตัณหา ยังอยากได้ในสิ่งที่ไม่มีจริงก็คืออวิชชา...💚 พ่อครู 7 พ.ย.2560
โฆษณา