7 มิ.ย. 2021 เวลา 13:56 • สุขภาพ
ตอน 4 จะเข้าสู่โหมดขั้นตอนการรักษา
โตมาจนป่านนี้ พูดได้ว่าหาหมอเพื่อรักษาจริงๆจังๆ แทบจะนับครั้งได้ ประสบการณ์​รักษาแบบต้องมีการวางแผน มีการติดตามดูอาการ มีการปรับยา จะมาจากการดูแลและพาแม่ไปหาหมอมากกว่า
แต่สิ่งหนึ่งที่สร้างนิสัยติดตัวมาคือ ทุกครั้งที่ได้ยามา ต้องเข้า google พิมพ์ชื่อยา ตามด้วย รายละเอียด เอกสารกำกับยา สรรพคุณ และผลข้างเคียง จนเป็นนิสัย
รอบนี้ที่สงสัยคือ ทำไมอาการอักเสบ ติดเชื้อ ต้องทำ CT Scan ด้วย (ความจริงคุณหมอสั่งทำ MRI ด้วยนะ แต่พอดีที่ รพ. ไม่มีเครื่อง ต้องส่งไปทำภายนอก จึงต้องระงับไว้ก่อน ส่วนเหตุผลจะเล่าให้ฟังตอนพบหมอตา คนที่ 4)
สมัยเด็กๆจำได้ว่าถ้าตาแดง ก็ไปร้านขายยา ซื้อยาหยอดตามาหยอด พี่ น้อง เป็นทั้งบ้านก็ซื้อหลอดเดียว หยอดมันทั้งบ้านนี่แหละ
จนโตมาสู่ยุคหาหมอคลีนิค ก็ยังมีการแบ่งยาจากหมอมาใช้กันทั้งบ้าน ใช้ไม่หมดเก็บใส่ตู้ยา ครั้งหน้าใช้ใหม่
ซึ่งในสมัยนี้ ทำอย่างนั้นไม่ได้แล้วนะครับ
เปลี่ยนจากหมออายุรกรรม มาหมอจักษุ มีการเปลี่ยน ทั้งยาฆ่าเชื้อ และยาหยอดตา ยาฆ่าเชื้อตัวแรก ชื่อยาอยู่ที่บ้าน ยังไม่ได้หารายละเอียดว่าทำงานอย่างไร จึงไม่สามารถอธิบายถึงสาเหตุที่เปลี่ยนได้ แต่หลังจากผ่านไป 2 วัน หมอเคยเกริ่นๆว่า ยาฆ่าเชื้อตัวใหม่นี้แรงมาก ร่างกายสนองตอบกับยาฆ่าเชื้อต่ำกว่าที่ควร ส่วนยาหยอดตาตัวที่ 2 จะดี และเฉพาะเจาะจงกว่าตัวแรก ที่ค่อนข้างจะครอบจักรวาล
เนื่องจากมีอาการต่อมน้ำลายอักเสบ ก่อนเยื่อบุตาอักเสบ จึงมีการส่ง consult หมอคอ หู จมูก(หมอคนที่ 3)
ได้ข้อสรุปมาว่า
เยื่อบุตาอักเสบสามารถติดเชื้อไปที่ต่อมน้ำลายได้ แต่จะไม่มีการย้อนจากต่อมน้ำลายมาที่ตา กรณีนี้ จึงเป็นการอักเสบที่มาพร้อมกัน โดยมิได้นัดหมาย แต่ไม่ใช่ผลที่ทำให้เยื่อบุตาอักเสบ
ตอนต่อไปจะเป็นหมอตาท่านต่อไป ซึ่งแต่ละท่านก็ชำนาญกันคนละด้าน เป็นที่สนุกสนานยิ่งนัก
ถ้าพลาดจะเสียใจ
วันนี้ไม่มีภาพประกอบเกี่ยวกับอาการป่วย ขอเอาภาพแขกที่มาอยู่เป็นเพื่อนระหว่างถูกกักตัวเป็นภาพประกอบแล้วกัน
โฆษณา