7 มิ.ย. 2021 เวลา 14:21 • นิยาย เรื่องสั้น
จดหมายพระลูกชาย
ในยุคที่ไร้มือถือ โทรทัศน์เป็นดั่งเครื่องประดับบารมีของคนมีฐานะ ชาวบ้านฟังแต่วิทยุ เอเอ็ม หลานสาวตัวน้อยวิ่งหน้าตื่น พร้อมยื่นซองจดหมายให้คุณย่า คุณย่าเองก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อย ที่ได้รับจดหมายจากบุรุษไปรษณีย์ ก็ย่าอ่านหนังสือไม่ออก จะมีใครเขียนจดหมายมาหา แต่ลายมือที่จ่าหน้าซองช่างเป็นลายมือที่คุ้นเคยนัก . ... ไม่ใช่ใคร จดหมายจากพระลูกชายนั่นเอง... ลูกชายคนเล็กของย่าหายไปหลายปี ตั้งแต่คราวบวชเป็นพระราชกุศลถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่วัดบวรนิเวศวิหาร แล้วก็หายเข้าป่า ฝึกฝนภาวนาอยู่กับพ่อแม่ครูบาอาจารย์ แต่ก็ไม่ได้หายไปจากความทรงจำของผู้เป็นแม่ สิ่งแรกที่ย่าทำหลังจากความดีใจล้นอกซาลง คือใช้กรรไกรตัดซองจดหมายอย่างเบามือ แล้วคลี่กระดาษออก มองดูแล้วส่งให้ลูกสะใภ้อ่านให้ฟัง จดหมายฉบับนี้เขียนมาจากวัดป่าแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี ใจความว่าพระลูกชายได้มาศึกษาข้อวัตรกับพ่อแม่ครูอาจารย์ที่ทรงข้อปฏิบัติ ท่านพาทำความดี พาฝึกหัดตน ด้วยศีล สมาธิ และปัญญา ตามคำสอนขององค์พระศาสดา พระลูกชายสบายดี ตามอัตภาพของพระภิกษุ ครูบาอาจารย์ท่านเคร่งครัดและเมตตา ทำให้เป็นสุขอยู่ได้ในผ้ากาสาวพัสตร์ ท่านอนุญาตให้เขียนจดหมายถึงที่บ้านได้ปีละ 1 ฉบับ จดหมายฉบับนี้ท่านได้อ่านและตรวจสอบแล้วว่าไม่เป็นภัยต่อเพศบรรพชิต พร้อมทั้งให้โยมแม่อนุโมทนาในการบวช การฝึกหัด และการทำความดีของพระลูกชาย ภาษาแม้จะง่ายๆ แต่ก็ไพเราะยิ่งสำหรับโยมมารดา ย่าเก็บจดหมายฉบับนั้นอย่างที่คิดว่าดีที่สุด โดยใส่ในกล่องขนมคุกกี้ทรงกลม เพราะกันน้ำได้ ขนาดไม่ใหญ่ ถือไปไหนมาไหนได้ เมื่อขึ้นไปนอนก็เอาไว้ข้างหมอน พอลงจากเรือนก็วางไว้ข้างเชียนหมาก ย่ามักดูมีความสุขเสมอเมื่อได้พูดถึงพระลูกชายให้ใครต่อใครฟัง แต่ด้วยความสามารถของย่ามีเพียงการเก็บรักษา อ่านจดหมายเองไม่ออก เวลาคิดถึงพระลูกชายย่าทำได้เพียงไหว้วานให้ลูกหลานอ่านให้ฟัง นานเข้าก็เริ่มเกรงใจตามประสาคนสูงอายุ การรบกวนลูกหลานน้อยลง แต่ความคิดถึงก็ไม่ได้น้อยตาม หลานสาวย่ากำลังเรียนอยู่วัยประถม เริ่มหัด ก. ข . ก. กา เสียงหลานอ่านการบ้านให้ลูกสะใภ้ฟัง ทำให้ย่าเกิดความคิด ย่าไปตลาดแล้วซื้อขนมที่หลานสาวชอบเตรียมไว้ แล้วเริ่มทำการบ้านพร้อมๆกับหลานสาวทุกวัน ผู้สูงอายุแต่ต้องมาเริ่มอ่าน ก.ไก่ ข.ไข่ มันไม่ได้ง่าย ไหนจะเรื่องสายตาที่เริ่มพร่าเลือน แต่มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่ เพราะเป้าหมายนั้นคืออยากอ่านจดหมายของพระลูกชาย ย่าเรียนหนังสือพร้อมหลานสาวทุกวัน เสียค่าร่ำเรียนเป็นขนม โดยมีครูเป็นหลานสาว ผ่านวัน ผ่านคืน ย่าก็อ่านจดหมายเองได้ และไม่ใช่แค่ จดหมายจากพระลูกชาย แต่มันหมายรวมเอา ตัวหนังสือภาษาไทยทุกตัวที่ผ่านตา ย่าอ่านได้หมด ขอเเพียงมีแว่นตา และจดหมายจากพระลูกชายก็มาถึงมือโยมแม่ทุกๆปีตามนัด ผ่านมาถึงปีที่ 10 จดหมายของพระลูกชายก็ไม่ได้ส่งมาอีก เพราะปีนี้พระลูกชายกลับมาบ้านเอาตัวเป็นๆมาให้โยมแม่เห็น วันนี้พระลูกชายเป็นพระเถระพรรษา 10 เต็มตัว ภาพแรกที่ย่าเห็น ย่าอยากกระโดดเข้าไปกอดให้หายคิดถึง แต่ทำได้เพียงนิมนต์ให้นั่งบนแคร่ไม้ไผ่และกราบทั้งน้ำตาแห่งความปิติ พระลูกชายเดินธุดงค์ผ่านมาก็ตั้งใจแวะมาหา ลูกชายคนเล็กของย่าช่างต่างไปมากนัก 10 ปีแห่งการบวชเรียน ทำคนธรรมดาให้เป็นพระได้เพียงนี้ กิริยางดงาม เสียงพูดชัดเจนแต่ฟังแล้วสงบ มันทำให้ใจของโยมพองโต ก่อนที่โยมแม่จะนิมนต์ให้พักที่สวนสักคืน พระลูกชายรับนิมนต์ คืนนั้นย่าเตรียมข้าวปลาอาหารอย่างที่จำได้ว่าพระลูกชายชอบอย่างดีที่สุด จนคืนนั้นย่านอนหลับไปทั้งยิ้มที่ปลื้มปิติ ตอนเช้าย่าไปถวายอาหารพร้อมกับลูกหลานและเพื่อนบ้านที่รู้ข่าว พี่ชายเอ่ยปากนิมนต์ให้สร้างวัดที่สวนนี้ ส่วนพระน้องชายได้แต่อมยิ้ม กล่าวแต่เพียงว่า ขอให้ธุดงค์จบก่อน ถ้ารับนิมนต์จะมาปรากฎตัวให้เห็นถือเป็น "คำตอบ" แล้วท่านก็แบกกรดสะพายบาตรหายไป ย่าทั้งยิ้มและทั้งลุ้น ดีใจที่ได้เห็นผ้าเหลืองพระลูกชาย การเกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์มันคงเป็นแบบนี้ ย่ายังไม่ทันลาโลก ย่าก็เหมือนอยู่บนสวรรค์แล้ว ส่วนที่ลุ้นก็คือ ลุ้นคำตอบ ผ่านไป 2 ปี พระลูกชายก็ปรากฎตัวอีกครั้ง การปรากฎตัวนี้คือ คำตอบ จากนั้นเป็นต้นมา วัดน้อยๆในสวนก็เริ่มต้นขึ้น
โฆษณา