8 มิ.ย. 2021 เวลา 00:30 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
สวัสดีค่ะ🙏🏼 เมื่อวานนี้เราได้ดูซีรีย์เรื่องหนึ่งจบไปใน Netflix เลยอยากมาป้ายยาทุกคนผ่านมุมมองของเราค่ะ **บทความนี้จะเขียนไม่ยาวมากนะคะกลัวผู้อ่านเบื่อซะก่อน 😆
อันที่จริง~เรื่องนี้ออกมาได้ซักพักแล้ว แต่เราเพิ่งได้มาดู
เรื่องนี้มีชื่อเรื่องว่า “”Move to Heaven”” นั่นเอง
เอาหล่ะ—ในส่วนของเนื้อเรื่องนั้น ได้เล่าถึงบริษัทชื่อ มูฟทูเฮเว่น ซึ่งเป็นบริษัทเก็บกวาดที่เกิดเหตุ [ก็คือพนักงานที่เข้ามาเคลียร์ของและทำความสะอาดหลังจากย้ายผู้เสียชีวิตออกไปแล้วนั่นหล่ะค่ะ] โดยเรื่องนี้ได้ถ่ายทอดและสะท้อนปัญหาของสังคมในรูปแบบที่เรียบง่าย ผ่านการเก็บกวาดที่เกิดเหตุในแต่ละครั้ง เรียกได้ว่าปัลลาเองถึงกับเสียน้ำตาให้กับทุกสถานที่ๆมูฟทูเฮเว่นไปเก็บกวาดเลยค่ะ …อ๊ะๆ !! แต่เรื่องนี้ยังมีปมอื่นๆอีกด้วยนะคะ แล้วก็ไม่ได้มีแต่ความเศร้า เพราะบางฉากก็สามารถสร้างรอยยิ้ม ความสนุก และความอบอุ่น ซึ่งเรื่องมูฟทูเฮเว่นนี้มีตัวละครที่ดำเนินเรื่องหลักๆอยู่ 2คนคือ ฮันกือรู และโจซังกู
•ฮันกือรู คือลูกเจ้าของมูฟทูเฮเว่น ซึ่งฮันกือรู เป็นเด็กอายุ20ปีที่มีภาวะแอสเพอร์เกอร์ [เป็นภาวะที่มีปัญหาด้านการเข้าสังคม การสื่อสาร และยังยึดติดอยู่กับสิ่งเดิมๆ ประมาณนี้ค่ะ]…ฮันกือรูเป็นเด็กที่จริงจังสุดๆ มีเป้าหมายก็จะต้องทำให้สำเร็จ แต่ก็จะมีความตลกผสมนิดๆและก็เป็นเด็กที่น่ารักมากเลยทีเดียว
•โจซังกู คืออาของฮันกือรู ที่ถูกใส่ชื่อในพินัยกรรมว่าให้เป็นผู้ปกครองของฮันกือรู และช่วยฮันกือรูทำงาน [ถึงแม้พี่แกจะช่วยบ้างไม่ช่วยบ้าง ปากไม่ตรงกับใจบ้าง แต่โจซังกูเองก็ตามใจฮันกือรูมากๆ]…ในส่วนของโจซังกูนี้ก็จะมีปมเรื่องของตัวเองที่ไม่เกี่ยวกับมูฟทูเฮเว่น เรียกได้ว่าค่อนข้างหน้าสงสารเลยหล่ะค่ะ
สุดท้ายนี้ มีประโยคหนึ่งในเรื่องที่เราชอบมากๆเลยคือ
“”จะเริ่มการขนย้ายครั้งสุดท้ายของคุณครับ””
เป็นประโยคที่ฟังแล้วรู้สึกให้เกียรติมากๆกับสิ่งทีเค้าทำ มันรู้สึกอบอุ่นแบบบอกไม่ถูกค่ะ😂
ท้ายที่สุดและสุดท้ายจริงๆ อยากเชิญชวนทุกคนที่ชอบหนังเรียบง่าย ฟีลกู๊ดด ไปดู Move to Heaven กันค่ะ แล้วมาคุยกันใน comment ได้นะคะ ว่าทุกคนมองซีรีย์เรื่องนี้ว่ายังไงบ้าง
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ
ขอให้เป็นวันที่ดีของทุกคนค่ะ Have a nice days นะคะ 😁😄🧡
โฆษณา