7 มิ.ย. 2021 เวลา 22:02 • กีฬา
ความล้มเหลวของ “นิชิโนะ” ที่ต้องรับผิดชอบด้วยการสานงานต่อ
4
ทีมชาติไทยตกรอบ ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รอบ2 ถือเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง เพราะมาตรฐานเมื่อครั้งก่อน เราเข้าได้ถึงรอบ 3 (รอบ 12 ทีมสุดท้าย)
3
แต่สิ่งที่ถือว่าล้มเหลวแบบชัดเจนคือการที่เพื่อนร่วมสายมีทีมจากอาเซียนถึง 3 ทีม ดังนั้นคำที่ สมาคมฟุตบอลชุดนี้พร่ำบอกอยู่ตลอดเวลาว่า ต้องการก้าวข้ามอาเซียน มันเหมือนเป็นการแสดงให้เห็นว่า ทำไม่ได้อย่างที่พูด
1
อย่างไรก็ตามแม้ทุกอย่างจะไม่ได้ตามเป้าหมายที่ทุกฝ่ายวางเอาไว้ แต่สำหรับผมแล้วการเปลี่ยนแปลงโค้ช ไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้องที่สุดในตอนนี้
เพราะการหาโค้ชใหม่ ก็ไม่ต่างจากการนับหนึ่งใหม่ ซึ่งทีมชาติไทยผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง นับแค่ช่วงสิบกว่าปีหลัง เราใช้โค้ชมาหลายคนมาก และทุกครั้งที่เปลี่ยนมันก็เป็นการตั้งไข่ใหม่ ยิ่งถ้าเปลี่ยนแล้วไปเจอคนที่ไม่ใช่ ก็เสียเวลาไปอีก วนเวียนแบบนี้อยู่ร่ำไป
ที่สำคัญอย่าลืมว่าทีมชาติไทยไม่ใช่ทีมที่สมบูรณ์แบบ โค้ชคนไหนมาหยิบจับแล้วจะประสบความสำเร็จทันที เรายังมีข้อบกพร่องให้แก้ไขอีกเยอะ เพียงแต่ยังหาคนที่ใช่ไม่เจอสักที
อากิระ นิชิโนะ ยังมีข้อดีพอที่จะสานงานต่อ ด้วยประสบการณ์ด้านโค้ชของเขายังมีประโยชน์กับฟุตบอลไทย จิตวิทยาที่ถ่ายทอดสู่นักเตะยังเป็นจุดแข็งที่หลายคนพูดถึง
แต่ปัญหาที่ผมสัมผัสได้คือ นิชิโนะ ยังเข้าใจวิถีฟุตบอลของเมืองไทยน้อยไป นั้นอาจจะเป็นเพราะทั้งชีวิตการทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่นมาโดยตลอด ซึ่งแน่นอนว่าความเป็นมืออาชีพในทุกๆ ด้านในบ้านเกิดของเขามันห่างไกลกับฟุตบอลไทยลิบลับ
ที่เมืองไทยทุกอย่างอาจจะไม่มีความเพอร์เฟคมาเสริฟถึงที่ นักบอลบางคนยังไม่รู้หน้าที่รับผิดชอบของตัวเอง สโมสรบางแห่งไม่มีความเป็นมืออาชีพในการจัดการ หรือแม้แต่สมาคมฟุตบอลก็อาจจะยังมีการบริหารงานที่ขาดตกบกพร่อง
ทุกอย่างล้วนหมุนกลับมาหาทีมชาติไทย ถ้าทุกอย่างไม่พร้อม ปลายทางอย่างทีมชาติก็ได้รับผลกระทบไปด้วย ดังนั้นโครงสร้างฟุตบอลสำคัญมากๆ และเราเองก็พยายามสร้างจุดนี้มาตลอดหลายปี แต่มันยังคงต้องใช้เวลา
ถ้าเปรียบนิชิโนะเป็นเชฟ ฟุตบอลไทยในตอนนี้ยังมีทรัพยากรไม่พอ วัตถุดิบยังไม่ครบเครื่องที่จะมาปรุงอาหารแล้วให้เกิดความอร่อยทันที
2
ส่วนผสมบางอย่างเหี่ยวเฉาไปหมดแล้วเพราะแก่เกินใช้งาน บางอย่างโตไม่เต็มที่ยังต้องรอวันเก็บเกี่ยว หรือบางอย่างไม่มีให้ใช้เพราะยังไม่ได้ปลูกเลยก็มี
3
ในเมื่อความไม่พร้อมของฟุตบอลไทยยังมีอีกมากมายหลายเรื่อง ดังนั้น นิชิโนะ เองก็ต้องทำความเข้าใจในวิถีของบ้านเราด้วย และทำงานให้หนักมากขึ้นกว่าเดิม
จะทำงานชิลๆ คิดอยากจะบินกลับบ้านตอนไหนก็กลับ แล้วปล่อยให้หน้าที่ติดตามผลงานของนักเตะเป็นของทีมงานเหมือนเดิมไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะจากการคัดเลือกตัวผู้เล่นรอบนี้เห็นได้ชัดว่า นักเตะที่เขาเลือกในทีมชุดแรกแทบจะเป็นหน้าเดิมๆ วนเวียนไม่เปลี่ยนแปลง
อีกข้อคือต้องให้ความสำคัญกับทุกทัวร์นาเม้นต์ที่ทีมชาติไทยลงเล่น โดยเริ่มตั้งแต่รายการในอาเซียน ที่ต้องนำทีมชาติไทยกลับมายิ่งใหญ่ให้ได้
1
ยกตัวอย่างรายการซีเกมส์ล่าสุดที่ฟิลิปปินส์ ที่ นิชิโนะ ปล่อยทีมตกรอบแรกแบบไร้ทรงทั้งที่ยกผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดไปทำการแข่งขัน
บทสรุปตอนนั้นกุนซือชาวญี่ปุ่นให้เหตุผลว่า ซีเกมส์เป็นทัวร์นาเม้นต์ที่ไม่มีมาตรฐานการจัดการแข่งขัน และคิดว่าทีมชาติไทยควรมองข้าม เพื่อไปโฟกัสรายการที่มีคุณภาพสูงกว่า
1
สิ่งที่น่าแปลกคือ สมาคมฟุตบอลไทย ก็เชื่อในสิ่งที่นิชิโนะบอก ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเอาเป็นเอาตายกับการแข่งขันรายการนี้มาโดยตลอด โค้ชบางคนได้เหรียญทองกลับมายังโดนไล่ออก แต่กับนิชิโนะแม้จะร่วงตกรอบแบบหมดสภาพ ยังกลับหนุนหลังเชิดชู
1
ทั้งที่จริงแล้วทัวร์นาเม้นต์แบบนี้ แม้มันจะดูไม่สากล ต่อยอดไปสู่รายการที่สูงขึ้นไม่ได้ แต่ด้วยการที่มีการถ่ายทอดสดให้คนไทยได้ชมกันทั้งประเทศ การแสดงศักยภาพให้ทุกคนได้เห็น และการคว้าความสำเร็จมาครอง ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
1
เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่หากจะติดตามกีฬา ก็มักเป็นเพราะความสำเร็จ ทีมชนะก็เฮไปด้วย แต่ถ้าทีมแพ้คนหมู่มากที่ไม่ได้ติดตามตลอด พวกเขาไม่มานั่งรับรู้หรอกว่าเหตุผลเป็นเพราะอะไร ขาจรเหล่านี้ก็เอาแต่ด่าและเบือนหน้าหนีกันทั้งนั้น
เราปฏิเสธไม่ได้ว่าคนไทยจำนานมากดูกีฬาเพราะกระแส ดังนั้นถ้าจะทำให้เกิดกระแสได้ก็ต้องทำให้ทีมชนะ และถ้าเราต้องการชนะมันก็ควรจะเริ่มต้นตั้งแต่รายการเล็กๆ เพื่อต่อยอดไปสู่รายการที่ใหญ่ขึ้น
ถ้าในวันนี้ถ้าระดับซีเกมส์ทีมชาติไทยยังไม่ชนะ แล้วจะหากระแสจากแฟนบอลขาจรที่มีจำนวนมากกว่าขาประจำที่ไหนมาหนุนหลังทีมชาติไทย
1
สิ่งเหล่านี้สมาคมต้องตระหนักให้มากว่าการแข่งขันทุกรายการสำคัญกับประเทศเล็กๆ ที่กีฬามันยังไม่ลงในสายเลือดของทุกคนในชาติ มันจึงต้องอาศัยกระแสเพื่อจุดติดความนิยม
สมาคมฟุตบอลต้องทำความเข้าใจกับนิชิโนะ ว่าความสำเร็จที่อาจจะดูจิ๊บจ๊อยในสายตาของเขา มันมีความสำคัญมากๆ สำหรับเรา
เหมือนที่ ปาร์ค ฮัง ซอ สร้างทีมชาติเวียดนามกวาดความสำเร็จทุกรายการที่ลงเล่น จะเล็ก จะใหญ่ สำคัญมากหรือน้อยไม่สน ผลลัพธ์คือกระแสฟุตบอลในเวียดนามทุกวันนี้พุ่งแบบไม่มีตก
ดังนั้นสำหรับผมแล้ว นิชิโนะ ควรได้สานงานต่อ เพราะระยะเวลาที่ผ่านมายังถือว่าน้อยเกินไปที่เขาจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงทีมชาติไทยให้ประสบความสำเร็จได้
2
แต่สิ่งสำคัญคือ เขาต้องเปิดใจและปรับตัวในการทำงานร่วมกับวิถีและวัฒนธรรมฟุตบอลไทย รวมถึงช่วยสร้างความเป็นมืออาชีพให้กับวงการลูกหนังบ้านเราด้วยเช่นกัน
3
ผมหวังว่าสิ่งที่คาดฝันเอาไว้จะเกิดขึ้นจริง จะช้าหรือเร็ว ผมรอได้ เพราะรอความสำเร็จของฟุตบอลมาทั้งชีวิตแล้วครับ แค่นี้รอได้สบาย
1
มด สุรเดช
โฆษณา