Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ม
มูซา วันเเอเลาะ
•
ติดตาม
8 มิ.ย. 2021 เวลา 03:14
ประโยชน์ ค้าสุวรรณ คือ ตำนานนักวิทยุ นักเขียนมุสลิมไทย ผู้ตั้งพรรคการเมืองไทยในหนึ่งราตรี หนึ่งทิวา
ย้อนจากวันนี้ไปไม่นานนิด ของสยามไทย มีนักจัดรายการวิทยุ นักเขียนวรรณกรรมมุสลิมคนหนึ่ง กำเนิดมา
ในระดับประเทศ ชื่อเสียงอาจไม่โด่งดัง แต่สำหรับสังคมมุสลิมแล้ว เสียงของท่านดังอึกทึก ยิ่งกว่าชื่อเสียอีก ด้วยงานที่นำพา
เพราะช่วงย่ำค่ำ กลางค่ำกลางคืน เสียงของท่าน ที่เพราะ ๆ เย็น ๆ มาจากช่องรายการคลื่นวิทยุภาคมุสลิม จะลอยละลิ่วมาหา
ยุคสมัยนั้น สื่อโซเชียล ยูทูป อินเทอร์เน็ต เฟสบุ๊ค ยังเป็นเรื่องนิยายวิทยาศาสตร์ ประเภท ไซไฟ หรือ นิยายสมมุติแฟนตาซี
สื่อโทรทัศน์ ยังเป็นที่นิยมไม่มาก และ มีราคาแพง เด็กนักเรียนที่เรียนคลองตะเคียน จ.อยุธยาในสมัยนั้น อยากจะดูโทรทัศน์คราใด จะวิ่งไปที่สะพานยาว เพราะมีร้านขายของชำ ชื่อ โต๊ะหนู เป็นคุณยายใจดี
โต๊ะหนูก็ดีใจหาย เด็กจะดูโทรทัศน์ ไม่เคยว่า ไม่เคยดุ ร้านโต๊ะหนูจึงกลายเป็นวิกย่อม ๆ ที่มีหลังคาสังกะสี
คลื่นวิทยุจึงเป็นสื่อเดียวที่เข้าถึงง่ายที่สุด อยากจะรู้อะไร อาศัยช่องวิทยุเป็นหลัก ดังนั้น เกือบทุกครัวเรือนจำต้องมี
บุรุษนิรนาม ที่กำลังจะเขียนถึง มีนามกรว่า ประโยชน์ ค้าสุวรรณ หรือ อัลมัรฮูม อาจารย์ประโยชน์
เห็นนามสกุล ค้าสุวรรณ หลายคนอาจจินตนาการว่า น่าจะเกี่ยวข้องกับร้านทอง เช่น ฮั่วเซ่งเฮง เยาวราช แม่ทองใบ สะพานควาย หรือ ที่ตลาดบางบัวทอง ห้างทองรุ่งโรจน์
นามสกุลไปคล้องจองกับทองเท่านั้นเอง เพราะท่านไม่เคยขายทอง ขายเงิน ทองหยิบ ทองหยอด หรือแม้แต่ ขายภาชนะทองคำที่เรียกว่าโกศ
อาจารย์ประโยชน์ ไม่ใช่โต๊ะครู และไม่เคยอ้างตัวว่าเป็นผู้รู้ทางศาสนา แต่ศาสนาอิสลามเป็นความเชื่อที่ท่านโปรด
เพียงแต่ ชีวิตของท่านช่วงวัยเยาว์ เคยเรียนศาสนามาบ้าง อ่านอัลกุรอ่าน ที่ ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พอแตกพานเป็นหนุ่มรุ่นกระทง ท่านชอบไปพูดคุยกับอาจารย์อับดุลลอฮ์ ( สอน ) อับดุลลากาซิม หรือ ครูเลาะห์สอน โต๊ะครูใหญ่
อีกช่วงหนึ่งขณะเป็นครูสามัญ โดยเป็นครูที่โรงเรียนอิสลามศรีอยุธยา และ หาเวลาว่าง เรียนหนังสือกับ อาจารย์มูซา ฮานาฟี หรือ ครูมูซอ โต๊ะครูเด่นที่นั้นที่ชาวบ้านรักใคร่
" เรียนเอาทาง " เป็นคำหนึ่งที่คนไทยเราชอบพูดกัน หมายถึงคนไม่มีเวลามากนัก แต่พอจะหาเวลาว่างเรียนหนังสือไป
เรียนแบบจับใจความสำคัญ ไม่ใช่ลงลึกในรายละเอียด และหวังว่า เมื่อเลิกเรียนแล้ว จะต่อยอดอ่านหนังสือเองได้
อีกความหมายหนึ่ง อาจจะหมายถึง เรียนกับโต๊ะครูเพียงแค่ให้รู้วิธีการค้นคว้าหาหนังสืออ่านเอง
อาจารย์ประโยชน์ เรียนกับครูมูซอ จึงเป็นการศึกษาแบบ " เรียนเอาทาง " ไม่ใช่เรียนเพื่อเอาไปอวดเก่ง หรือ เอาไปเถียง
อาจารย์ประโยชน์ แม้นจะ " เรียนเอาทาง " แต่ท่านมีลักษณะอย่างหนึ่ง คือ ชอบขีดเขียน ชอบบันทึก อะไรที่ครูมูซอ สอน ท่านจะรีบจดและเรียบเรียง
ที่น่าทึ่งคือ จดละเอียดยิบเก็บข้อมูล เก็บตัวบทอายะฮ์กุรอาน และ ซูเราะห์ ได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ จากนั้น ท่านต่อยอดด้วยการค้นคว้าด้วยตนเอง
ดังนั้น ทุกครั้งที่อ่านงานเขียน ของอาจารย์ประโยชน์ ที่เกี่ยวข้องกับศาสนา จึงประหลาดใจ ที่พบว่า ท่านได้แปลงร่างจากปุถุชนธรรมดา เป็น โต๊ะครูจำลองที่สร้างบทเขียนด้วยความรู้เอกอุ
อาจารย์ประโยชน์ เกิดลืมตาดูโลก เมื่อปี พ.ศ. 2471 มีนิวาสถานบ้านช่องอยู่ที่ฝั่งธนบุรี ตำบลบางอ้อ ใกล้สถานีรถไฟบางบำหรุ
ท่านชอบงานสื่อตั้งแต่วัยเยาว์ สื่อวันนั้นที่ฮิตสุด คือ หนังสือพิมพ์ และ วิทยุ
คนชอบซ่อมรถ ก็ต้องเรียนช่างยนต์ คนชอบตลาดหุ้น ก็ต้องอ่านหนังสือของ วอนเรน บัฟเฟตต์ ท่านชอบสื่อ จึงเรียนสื่อตามที่ความตั้งใจยุ
โดยเรียนจบหลักสูตรวิชาการหนังสือพิมพ์ รุ่นแรก ของคณะวิชาการหนังสือพิมพ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ต่อมา จบหลักสูตร วิชาการประชาสัมพันธ์รุ่นพิเศษ กรมประชาสัมพันธ์ ของเมืองไทย
จริงแล้ว แววนักจัดรายการวิทยุ ฉายออกมาตั้งแต่เป็นเด็ก อายุแค่ 14 ปี ก็แสดงความสามารถได้
วันนั้น เด็กชายประโยชน์ ได้อ่านออกอากาศบทความอำนวยพรวันอีดฮารีรายอ ปี พ.ศ. 2485 และ พ.ศ. 2486 ที่สถานีวิทยุกรมโฆษณาการ ที่ออกอากาศได้กว้างไกล
ปี พ.ศ.2487 หลังสงครามเอเซียมหาบูรพาหมาด ๆ มีสถานีวิทยุ ชื่อ วิทยุ 1 ป.ณ. ตั้งอยู่หน้าวัดเลียบ เชิงสะพานพุทธ ทดลองออกอากาศทั่วประเทศ และที่นี้ ที่ท่านเริ่มเข้าสู่วงการวิทยุเป็นราวเป็นเรื่อง
ปีนั้น เลือดเข้มข้นของหนุ่มมุสลิมที่อยากทำสื่อ อาจารย์ประโยชน์ไม่รีรอ ไปขอสถานีเพื่อนำบทความศาสนาอิสลามออกอากาศ และ ทำรายการ 3 ปี อย่างต่อเนื่อง
ปี พ.ศ. 2492 ท่านบุกงานวิทยุต่อ โดยร่วมงานกับ คุณมานพ วงศ์เสงี่ยม เช่าสถานีวิทยุ กองพล ป.ต.อ. และคุณมานพ เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด นับว่าคุณมานพเป็นผู้มีอุดมการณ์ และความมุ่งมั่นครบเครื่อง
ทำรายการล้ำหน้า พลิกทฤษฎีสื่อวิทยุยุคนั้น แทนที่จะเชิญวิทยากร มาบรรยายทางสถานีที่เช่าแบบคนรุ่นเก่า กลับแบกเครื่องบรรทึกเสียงครบชุดที่มีขนาดใหญ่มาก ไปหาอาจารย์ที่เป็นวิทยากร เพื่อบรรทึกเทปออกอากาศตามที่พล็อตเรื่อง
เช่น ไปคลองกุ่ม บันทึกเสียงอาจารย์ อาบิดีน วิทยานนท์ ไปอยุธยา เพื่อบันทึกเสียง อาจารย์มูซา ฮานาฟี โดยทีมงานทั้งหมด เดินทางไปด้วยกับเรือนาวา
ปี พ.ศ.2495 ทำรายการวิทยุเป็นบางครั้ง เพราะไปเป็นครูสอนวิชาสามัญที่ โรงเรียนอิสลามศรีอยุธยา จ.อยุธยา
และที่อยุธยานี้ มีเรื่องน่าตื่นเต้น เพราะได้พบกับ เหม เวชกร ตำนานจิตรกรของไทย ที่เรือเอี้ยมจุ๊นลำหนึ่งที่ท่าน้ำคลองตะเคียน ซึ่งท่านพูดคุยกับเหมอย่างถูกชะตา
เหม เวชกร มาเที่ยวงานสมาคมของโรงเรียนกับเพื่อนฝูงที่เป็นมุสลิม ด้วยต่างชวนกันมา
เหม เวชกร บอกว่า ชอบให้คนเรียกว่า บังเฮม ทั้งที่ เหม เวชกร เองไม่ใช่มุสลิม เหตุผลก็เพราะ หมู่บ้านไทยอิสลามที่บ้านสมเด็จ อยู่ใกล้บ้าน
เรื่องราวอันแสนจะตื่นเต้นระหว่าง อาจารย์ประโยชน์ กับ ยอดจิตรกร เหม เวชกร เคยถูกตีพิมพ์ในนิตยสาร ฟ้าเมืองไทย ที่มีอาจินต์ ปัญจพรรค์ เป็นบรรณาธิการ
และที่อยุธยาเช่นกัน ท่านได้มีโอกาส เรียนเอาทาง จากโต๊ะครู และ ทำให้ความรู้ทางศาสนาของท่านพัฒนาอย่างมาก แตกต่างไปจากวันวาน
ปี พ.ศ. 2500 ท่านลาออกจากโรงเรียนที่อยุธยา เลิกประกอบอาชีพเป็นครู เป็นอาจารย์
ต่อมาท่านได้ทำสิ่งที่ทุกคนในเมืองไทย ที่ได้ยินต้องตกตะลึง โลกทั้งโลก คงเป็นหนึ่งในล้าน หรือ หนึ่งในร้อยล้าน ก็ว่าได้
อาจารย์ประโยชน์ตั้งพรรคการเมือง ในหนึ่งราตรีกับหนึ่งทิวา พูดให้ง่ายคือ ภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงหลังจากมี แนวคิดตั้งพรรคการเมือง และเสร็จอย่างฉับไว
เหนือพื้นแผ่นดินมีฟ้าเหนือ สิ่งเหลือเชื่อเมื่อดินเหนือฟ้า ทุกคนฉงนทึ่งเป็นไปได้อย่างไร
มันยิ่งกว่าเหลือเชื่อ เมื่อแผ่นดินเหนือฟ้า ท่านตั้งพรรคการเมืองในหนึ่งวัน เกิดขึ้นจริง มีหลักฐานบันทึกชัดเจน และเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และไม่ใช่เรื่องแหกตา ไม่ใช่เรื่องยกเมฆไปหลอกใคร
25 มกราคม 2500 ได้รับจดทะเบียนเป็นพรรคการเมือง ชื่อ พรรคไทยมุสลิม ที่มี นายประโยชน์ ค้าสุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค ลงนามประกาศโดย รามราชภักดี ปลัดกระทรวงมหาดไทย
หลังจากตั้งพรรคการเมืองแบบเหลือเชื่อ ที่เปรียบเสมือน นิยายอาลาดินพาเจ้าหญิงจัสมินขี่พรมเหนือเมฆ เหนือฟ้าใส
แต่ด้วยชีวิตที่ต้องทำงานเลี้ยงปาก เลี้ยงท้อง ทำให้ อาจารย์ประโยชน์ไม่ค่อยมีเวลา เลยไม่ได้ทุ่มให้กับการเมืองอย่างเต็มตัว ดังแต่แรกที่ตั้งใจ
กระนั้น ท่านก็ยังไม่ออกนอกวงการ พอนึกออกว่า ราว ๆ ปี พ.ศ. 2518 เคยลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อเป็น ส .ส . ที่อยุธยา เบอร์ 12 ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีนายชวน หลีกภัย
ปรากฏว่า ท่านสอบผ่านท่ามกลางเสียงกองเชียร์ในหน่วยเลือกตั้งโรงเรียนวันครู ที่คลองตะเคียน แต่อยุธยาทั้งจังหวัด ท่านสอบไม่ผ่าน น่าเสียดายจัง
ส่วนจัดรายการวิทยุ ท่านชอบลึกเกินกว่าจะเลิก และ ไม่เคยเลิกทำ ภาคมุสลิมช่องใหน ถ้าท่านมีโอกาส จะขอเข้าร่วมหมด โดยไม่เคยเอยขอใครเรื่องสตางค์
เช่น สถานีวิทยุ อส. สถานีวิทยุ จ.ส. 4 สถานีวิทยุ ป.ณ.หลักสี่ วิทยุภาคมุสลิม สมาคมสื่อสารมวลชนมุสลิม และ คลื่นวิทยุอื่น ๆ อีก จนนับไม่ถ้วน ทั้งคลื่นที่อยู่จีรัง และไม่อยู่จีรัง
คลื่นวิทยุนี้แหละที่สร้างชื่อเสียงให้อาจารย์ประโยชน์ โดยน้ำเสียงของท่านทำให้ท่านดังยิ่งกว่าชื่อ เพราะผู้ฟังเปิดวิทยุเสียงดัง
วันนั้น รายการที่ท่านพูดออกอากาศ จะมาตามเวลาประมาณ 21.00 น. คือ หลังข่าววิทยุภาคค่ำตอนสองทุ่ม ยังไม่ถึงกับดึกสงัด
จำไม่ได้ว่า สถานีวิทยุช่องใหน ที่จำได้คือ ท่านมักจะพูดออกอากาศ โดยเล่าประวัตินบี เช่น นบียูสุฟ นบีมุฮัมมัด
พอรายการท่านมา จะได้ยินเสียงผู้ใหญ่ตะโกนเรียกเด็ก ๆ ว่า อาจารย์ประโยชน์มาแล้ว พร้อมร่วมกันฟังเสียงเล่าประวัตินบีของท่าน จนกระทั่งเด็ก ๆ หลับ โดยฟังกันในมุงเพื่อไม่ให้ยุงกัด
บ้านเราเมืองไทย นักจัดรายการวิทยุที่เป็นมุสลิมต่างมีเสียงเป็นเอกลักษณ์ และ จะเป็นตำนานในอนาคต ที่คนรุ่นนี้จะเล่าให้ลูกหลานรุ่นต่อไป ฟังอย่างชัด ๆ
ยกตัวอย่าง ถ้าน้ำเสียงก้อง เสียงกังวาล เช่น อาจารย์สุวิทย์ อนันต์นับ อาจารย์ปริญวิทย์ อิสมาแอล และ อาจารย์บรรจง โซ๊ะมณี
ถ้าเป็นเสียงสบาย ๆ ฟังได้เรื่อย ๆ เช่น อาจารย์สมหวัง เจริญสุข อาจารย์โยธิน ยะก๊บ และ อาจารย์วิศรุต เลาะวิถี
สำหรับ เสียงของอาจารย์ประโยชน์ ชีวิตจริง พูดตะกุกตะกัก แต่พอเป็นน้ำเสียงที่ดังจากคลื่นวิทยุ จะมาแปลก เพราะท่านพูดช้า ๆ ไพเราะ เสียงเย็น ถึงเย็นจัด จึงไม่น่าแปลกใจที่ เด็ก ๆ ฟังเสียงท่านเล่าประวัตินบีมักจะเคลิ้มหลับไปกับคลื่นวิทยุอย่างสุขี
งานวรรณกรรม เป็น งานที่อาจารย์ประโยชน์ทำได้เยี่ยมเช่นกัน ทั้งเรื่องสั้น เขียนอะไรต่อมิอะไรลงหนังสือพิมพ์ ประวัติเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม และบทกวี
บทกวีที่ประทับใจที่สุด คือ นิราศนนท์ ที่อาจารย์ประโยชน์รจนานิราศ ดั่งสุนทรภู่หลงยุค ร่ายถ้อยคำถึงจังหวัดนนทบุรี ยุคที่พี่น้องมุสลิมส่วนมาก ไปมาหาสู่กันทางเรือ ทางน้ำ อาศัยอยู่ตามสายน้ำ และคันนา
งานหนังสือพิมพ์ เป็นงานที่ท่านชอบมาก ยิ่งถ้าท่านเขียนหนังสือพิมพ์ของมุสลิมด้วยแล้ว ท่านจะเขียนแบบให้เปล่าเป็นวิทยาทาน มากกว่าที่จะเขียนเพื่อหาเลี้ยงชีพ หรือ ปัจจัยแสวงหา
ท่านเคยทำงานร่วมกับ สอ เสถบุตร ผู้เขียนพจนานุกรมอันลือลั่น อดีตนักโทษการเมืองเกาะตะรุเตา ตอนนั้น ร่วมกันทำหนังสือพิมพ์ชื่อ เดอะ ลิเบอร์ตี้ และ นิตยสาร เดอะ ลีดเดอร์ ซึ่งนับว่าเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่า
ส่วนหนังสือพิมพ์มุสลิม ที่อาจารย์ประโยชน์มีส่วนร่วมในกองบรรณาธิการ เช่น เมืองหลวง สัญญลักข์ อินซาน และ ทางนำ ที่สมัยก่อนขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
วรรณกรรมเรื่องสั้น เป็นงานหนึ่งที่ท่านแสดงฝีไม้ลายมือได้อย่างน่าหลงใหล และเกือบทุกชิ้นงานจะมีกลิ่นอายของแนวคิดอิสลามผสมผสาน โดยเฉพาะ เรื่องสั้นที่ท่านเขียนลง นิตยสาร ฟ้าเมืองไทย ที่มี อาจินต์ ปัญจพรรค์ เป็นบอกอใหญ่
ท่านเขียนอย่างนักเขียนที่มีชั้นเชิงทางภาษา และอุดมสมบูรณ์ ด้วยเสน่ห์ทางเนื้อหาอย่างไร้ที่ติ มีความงดงามทางภาษา ที่อ่านแล้วต้องหลงใหล
เช่น เรื่องสั้นที่ชื่อ " บังเฮม .... ผู้นอนยิ้มมองความเย็นของวารี " ที่ท่านเขียนถึง เหม เวชกร จิตรกรผู้เป็นตำนาน ผู้มีชื่อเสียงระดับชาติไทย
และเรื่อง " หนึ่งชีพสองหีบศพ " ที่เขียนถึง อิศรา อมันตกุล อดีตนักหนังสือพิมพ์มุสลิมนามอุโฆษ ผู้เคยต่อสู้กับทรราช เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย
และเรื่องสั้นที่ยอดและเยี่ยมที่สุด คือเรื่องสั้นที่ชื่อ " มองหาพระเจ้า " ที่วารสาร สมิอนา วะอะตอนา เอามาตีพิมพ์ เนื้อหาคัดค้านแนวคิด ทฤษฎีชาลส์ ดาร์วิน ที่ว่าด้วยการกำเนิดของสิ่งมีชีวิต
ได้อ่านเรื่องนี้แล้ว ต้องบอกว่า สุภาพบุรุษที่ชื่อ ประโยชน์ ค้าสุวรรณ นามนี้ ไม่ธรรมดา ปล่อยทีเด็ดงานเขียนที่งดงามทางวรรณกรรมสุดวิจิตร
ไม่ว่าจะเป็นโครงเรื่อง ฉากหลัง หักเหลี่ยมหักมุมของภาษาอักษร ราวกับตัวอักษรมีรูจมูก มีความรู้สึก และมีปอดที่ต้องการลมหายใจ และมีสมองที่ไหลเยิ้มด้วยความคิด
อาจารย์ประโยชน์ เกิดมาสู่โลกดุนยา อย่างปุถุชน ใช้ชีวิตอย่างปุถุชน แต่กลับให้ประโยชน์กับสังคมมุสลิมดุจญาติมิตร
สมัยท่านเกิดเป็นยุคศักดินาครองบ้าน ครองมือ ท่านเคยเขียนบอกประวัติตนเองว่า เป็นเศษศักดินา ที่ค่าไร้
แต่เศษศักดินาอย่างท่านได้พิสูจน์แล้วว่า เศษศักดินาอย่างท่านไม่ใช่ เศษเหล็ก หรือ เศษขยะ เพราะธรรมชาติของมนุษย์ที่อัลลอฮ์สร้าง เท่าเทียมกันหมด เพียงแต่ซัยตอนมารร้าย มาสร้างภัย
อาจารย์ประโยชน์ ค้าสุวรรณ จากโลกนี้ไปราว 20 ปีแล้ว โลกดุนยาที่ท่านเดินทางมาในฐานะเศษศักดินา แต่การจากของท่านดั่งท่านพระยา เพราะผลงานแห่งความเสียสละของท่านที่ให้แก่พี่น้องมุสลิมไทย
แม้นท่านไม่ใช่โต๊ะครู และไม่ใช่ผู้อ้างว่าตัวเองเชี่ยวชาญความรู้ทางศาสนา แต่ที่เอาประวัติท่านมากล่าวถึง เพราะเห็นคนธรรมดาอย่างท่านมีมุมที่ไม่เหมือนใคร
ยามนี้ วิกฤตชีวิตที่เรากำลังเผชิญในวันร้ายแห่งโควิด ไม่เกิดขึ้นกับใคร คงไม่หยั่งรู้ถึงความลำบาก ไม่รู้ถึงหัวใจที่รวดร้าว และ ปวดใจ
นาทีนี้ และ วินาทีนี้ การสร้างแรงบันดาลใจในหมู่พวกเรา เพื่อให้ผ่านการทดสอบ ที่อัลลอฮ์กำหนด จึงไม่อาจมองข้าม และมองผ่านไป
ชีวิตในมุมหนึ่งของอาจารย์ประโยชน์ อาจเป็นหนึ่งในปัจจัยบวกที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับชีวิตของใครคนหนึ่งที่ขาดแรงจูงใจ
สำหรับโลกอาคีเราะห์นั้น ขอดุอาต่ออัลลอฮฺทรงตอบรับอามั้ล และ คุณงามความดีที่ท่านได้เสียสละให้กับพี่น้องมุสลิมด้วยเทอญ อามีน และ ดุอานี้ จะขอให้ท่านตลอดไป
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย