คุ้นเคยกันมาตลอดว่า
ไม่ว่ากระทำกิจการงานใด ๆ
จะต้องมีความอดทน
คำถาม คือ ทำไม
.
Photo by Luigi Pozzoli on Unsplash
นั่นสินะ
การจะตอบคำถามนี้ให้ได้นั้น
ต้องถามว่า เป้าหมาย คืออะไร ?
เป้าหมายในทางโลกและทางธรรม
เกิดการสวนทางกันอยู่
ทางหนึ่งมุ่งเน้นเพื่อการสั่งสม โกยเข้า
ทางหนึ่งมุ่งเน้นเพื่อการสละออก
ถ้าเป้าหมาย คือ ความสำเร็จทางโลก
คำตอบ ก็คือ เพื่อผลตอบแทนบางอย่างที่จับต้องได้
ที่ถูกผลักดันมาจาก "กิเลสตัณหา"
ถ้าเป้าหมาย คือ ความสำเร็จทางธรรม
อาจไม่ใช่เรื่องที่ตอบกันได้ง่าย ๆ
บางคนอาจจะตอบว่า ก็เพื่อทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน
ซึ่งไม่ได้ผิดอะไร
แต่คำถามที่ยิ่งกว่านั้น คือ
นิพพาน คืออะไร ?
น้อยคนที่จะตอบคำถามนี้ได้
เพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่เคยได้สัมผัสเอง
จึงเป็นเรื่องที่ยากแก่การอธิบาย
ยากเพราะไม่รู้
ถ้ารู้แล้ว ก็ไม่มีอะไรยาก
วันแรกที่ก้าวเท้าเข้าสู่เส้นทางธรรม
จึงควรทำเข้าใจกันก่อนว่า
ปลายทางที่แท้จริง คืออะไร
ถ้าพูดภาษาที่เราพอจะเข้าใจกัน
นิพพาน คือ สภาวะที่สิ้นตัณหา
ในทางโลก เราอดทน
เพื่อรอคอยผลตอบแทนที่ให้เราได้มากกว่าสิ่งที่เป็นอยู่
ว่ากันอีกอย่างก็คือ เรายังไม่พอใจในสิ่งที่มี
ต้องการความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น
อาจจะเป็นบ้านหลังโต รถคันหรู ฯลฯ
สมมุติว่า มีคนที่ไม่สนใจสมบัติทางโลกเลย
พอใจเท่าที่มี เท่าที่เป็น ทำให้ดีที่สุดในแต่ละขณะ
เค้าคนนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องอดทนรออะไร
...
ในทางธรรม เราอดทนพากเพียร
เพื่อความรู้แจ้ง วิชชา และวิมมุติ
เพื่อให้เกิดปัญญาเห็นแจ้งทุกสิ่งตามความเป็นจริง
ไม่ใช่การรอคอยเพื่อหวังผลอะไรบางอย่าง
หวังน้ำบ่อหน้าไปเรื่อย ๆ
แล้วเมื่อไหร่ จะพบ
ทำไมต้องรอ
นิพพาน อยู่ที่นี่ และเดี๋ยวนี้
ความอดทนทั้งหมดที่เพียรพยายามกัน
เพื่อให้สามารถสงบเย็น ที่นี่ และเดี๋ยวนี้
ไม่ใช่ไปรอเอาความสุขที่ไหน ...
ขวนขวายในกิจที่ควรกระทำ
คือ การเจริญอริยมรรคมีองค์แปด
รู้ลงปัจจุบัน
ตัดคำว่า "รอ" ออกไป
ธรรมะอยู่ในทุกหนแห่งตลอดเวลาอยู่แล้ว
นิพพาน หรือ นิโรธ มีหลายระดับ
เพิ่มระดับขึ้นเรื่อย ๆ จากการปฏิบัติภาวนา
เรื่องยากไม่มี ถ้าอดทนปฎิบัติให้ได้ในแต่ละขณะจิต
การปักธงในใจจึงสำคัญมาก
ถ้าปักใจว่าเป็นไปไม่ได้ มันก็จะเป็นไปไม่ได้
ถ้าปักว่าเป็นไปได้ มันก็จะเป็นไปได้เสมอ
จิตสัมผัสกับนิโรธได้ตลอดเวลาตามภูมิธรรมกันอยู่แล้ว
เพราะทุกขณะจิต ที่มีการเจริญอริยมรรคมีองค์แปดอย่างถูกต้อง
ผล คือ นิโรธ
จนกระทั่ง สัมผัสกับนิโรธในระดับสูงสุด
เส้นตรงมาจากจุดเล็ก ๆ นำมาเรียงต่อกัน
จากจุดกลายเป็นเส้น
นิโรธแต่ละขณะ
จะกลายเป็นนิโรธตามธรรมชาติตลอดเวลาอย่างไร้รอยต่อ
คนที่สามารถอยู่กับปัจจุบันได้จริง ๆ
อยู่กับความจริงตามความเป็นจริง ได้จริง ๆ
จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
นี่แหละ คือ งานที่หินที่สุด
เพราะคนส่วนใหญ่ไม่มีความต่อเนื่อง
ยากหรือง่าย มันอยู่ที่การฝึกฝน
ทำให้บ่อย ให้จิตเคยคุ้นกับการไม่ดิ้นรน
ให้จิตวิเวกจากความว้าวุ่นทั้งปวง
ธรรมชาติของจิตที่ยังไม่บริสุทธิ์
จะมีการดิ้นรนปรุงแต่ง มีความทะยานอยาก
ไม่สามารถยอมรับความจริงตามความเป็นจริง
ต้องเท่าทันอาการต่าง ๆ
ยิ่งอยาก ยิ่งห่างไกล
ยิ่งมีการรอคอย ก็ยิ่งห่างไกล ...
เพราะมีตัณหาผลักดัน
จึงเกิดการรอคอย
เจริญกิเลสตัณหา ผลจึงเกิดเป็นทุกข์
เจริญอริยมรรค ผลคือ ความพ้นทุกข์
สัมมาทิฏฐิ สำคัญมาก
เมื่อเกิดสัมมาทิฏฐิในเบื้องต้น
ไม่มีใครต้องบอกให้ใครทำอะไร
คนที่มุ่งหวังเฉพาะความสำเร็จทางโลก
จึงรู้สึกว่าตัวเองขาดอะไรบางอย่าง
การมีสมบัติทางโลกมาก มีชื่อเสียง เงินทอง ฯลฯ
จึงไม่เท่ากับประสบความสำเร็จในชีวิต
การประสบความสำเร็จในชีวิต
จึงเป็นเรื่องที่มองไม่เห็น จับต้องไม่ได้
หากไม่เลือกเข้าสู่ทางธรรม
ซึ่งทางธรรม จริง ๆ แล้วก็คือ การทำความรู้จักกับจิตใจตัวเอง
จะไม่มีวันไขปริศนา ความลับของความสำเร็จ ได้เลย ...
- 6
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
