9 มิ.ย. 2021 เวลา 10:25 • การศึกษา
การลิสต์สิ่งที่จะทำในแต่ละวัน เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพจริงหรอนะ ? เรามาไขข้อสงสัยตรงนี้ไปพร้อม ๆ กัน
11
ก่อนที่จะเข้าสู่เนื้อหาอยากให้เข้าใจก่อนว่า สมองของคนเรานั้นแบ่งเป็น 2 ส่วน นั้นคือส่วนที่เก็บความจำระยะสั้น และเก็บความจำระยะยาว แน่นอนว่าอะไรที่สำคัญมันก็จะอยู่ในส่วนของความจำระยะยาว เช่น ชื่อคน ชื่อเพื่อน ชื่อแฟน ฯลฯ
3
แต่ถ้าอะไรที่ไม่ได้มีการใช้บ่อย ๆ พึ่งมาเจอ ผ่านไปแปบเดียวเราก็ทิ้งมันแล้ว แน่นอนมันก็จะอยู่ในความจำระยะสั้น เช่น เลขหวยที่ออกงวดที่แล้ว เว้นแต่ว่าเราจะถูกรางวัล เพราะถ้าถูกเราก็คงจำได้แหละครับ555
1
โอเค แล้วความจำมันมีผลอะไรกับเนื้อหาในวันนี้ ?
ก็เพราะว่าการเขียนหรือบันทึกลงในสมุด เป็นการทำให้สิ่งนั้นอยู่บนกระดาษ โดยที่เราไม่ต้องห่วงว่ามันจะหายไปจากความจำของเราหรือไม่ หยิบขึ้นมาดูแค่ไหน มันก็จะอยู่ เว้นแต่ว่าจะมีใครไปลบ หรือเขียนเละจนลายมืออ่านไม่ออก
2
วิธีนี้เป็นวิธีที่นิยมเป็นอย่างมาก และเราถูกสอนมาตั้งเเต่เด็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการจดเนื้อหารายวิชาต่าง ๆ ตามคุณครูบนกระดาน จดเลคเชอร์ในมหาวิทยาลัย และอื่น ๆ อีกมากมายเลย
นั่นจึงเป็นที่มาของ To-do list เอาง่าย ๆ ก็คือการเขียนเรียงมาว่าวันนี้จะทำอะไรบ้าง วันพรุ่งนี้จะทำอะไร อาทิตย์หน้าหรือเดือนนี้จะทำอะไร แน่นอนว่าพอเขียนไปแล้วก็คงไม่มีทางลืม แต่ปัญหาไม่ใช่อยู่ตรงที่ว่าเราจะลืมหรือไม่ลืม
3
ปัญหามันคือ "แรงจูงใจหรือกำลังใจของเราต่างหาก"
1
หากเราเขียนอะไรลงไปมาก ๆ เข้า เห็นแล้วก็คงท้ออย่างแน่นอน ดังนั้นการเขียนไม่ได้แปลว่าเราจะทำมันอย่างสำเร็จ เพราะเราแค่วางแผนไว้เฉย ๆ เหมือนจองนัดหาหมอ แต่ถ้าไม่ไปหาหมอก็ไม่ได้ไปตรวจเสียที
จริง ๆ แล้ว วิธีนี้เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมาก ถ้าเราเขียนโดยเรียงลำดับความสำคัญของแต่ละสิ่งที่จะทำได้ โดยยึดให้ 3 สิ่งแรกที่เรียบเรียงไว้ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดและด่วนที่สุด แปลว่าในวันนั้นยังไงก็ต้องทำให้ได้
อะไรที่ไม่สำคัญ ให้เราไว้ตอนท้าย และถ้าหากเราทำได้ไม่ครบทั้งหมด อย่ารู้สึกแย่ที่จะตัดมันหรือย้ายมันไปวันอื่น เพราะไม่ว่ายังไงคุณก็ได้ทำ 3 สิ่งแรกที่สำคัญไปแล้ว
แต่ถ้าหาก 3 สิ่งแรกยังยากสำหรับเราเลยที่จะเริ่มทำ ขอแนะนำให้เริ่มจากอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วค่อยเพิ่มระดับความเยอะหรือความยากไปเรื่อย ๆ เหมือนการอุ่นเครื่องครับ ถ้าเราอ่านหนังสือวันละร้อยหน้าในวันเดียว แน่นอนว่าคงจะหลับคาหนังสือเสียก่อน แต่ถ้าเราเคยวอร์มร่างกายมาก่อนแล้ว วันละร้อยหน้าอาจจะไม่ได้ยากแต่อย่างใดเลย
หวังว่าทริคนี้จะเป็นประโยชน์กับหลาย ๆ คนที่กำลังพยายามหาทางทำให้ตัวเองขยันทำงาน หรือขยันที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ยิ่งเฉพาะช่วงนี้ที่เป็นสถานการณ์โควิด-๑๙ ต่างคนต่างต้องปรับตัวอย่างจริงจัง
ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกท่าน แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้าครับ
1
โฆษณา