9 มิ.ย. 2021 เวลา 14:36 • การเมือง
“การไม่เพิกเฉยต่อการหนีภาษี” ฝรั่ง VS ไทย
สิ่งที่ประเทศพัฒนาแล้วให้ความสำคัญ แต่ประเทศที่ยังไม่พัฒนาไม่ทำ เขามีแนวคิดอย่างไร จัดการอย่างไรกับสิ่งนี้ และ ทำไมสิ่งนี้จึงมีความสำคัญกับเขามาก ในขณะที่ประเทศกำลังพัฒนาเมินเฉย มาจับเข่าคุยกันจ้า😊
ตอนที่แล้วเราได้คุยกันเรื่อง ประเทศสวีเดนทำอย่างไรเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนของเขาให้ความร่วมมือ และ ให้ความสำคัญต่อการจ่ายภาษี รวมถึงองค์ประกอบที่ช่วยให้เขาประสบสำเร็จในการเก็บภาษี
ตอนนี้เราจะมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับการ ฉ้อโกง หรือ หนีภาษี
🔺 “ทำไม” ประเทศสวีเดนไม่เพิกเฉย หรือ ไม่ปล่อยให้เกิดการหลบเลี่ยง หนี หรือ ฉ้อโกงการจ่ายภาษี🔺
👉🏻 เพราะเงินภาษีเรียกได้ว่าเป็นแหล่งรายได้หลักของประเทศ ที่มีความสำคัญในการบริหารและพัฒนาประเทศมาก ๆ
👉🏻 เพราะสวีเดนกำลังพยายามทำให้การหนีภาษีเป็น “ศูนย์” หมายถึง เมื่อใดที่มีคนหนีภาษี 1 คน โดยไม่ได้รับการลงโทษตามกฎหมาย
เมื่อนั้นก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีคนที่ 2, 3, 4 และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กฎหมายที่เคร่งครัดนี่เอง ที่ทำให้ "กฎหมายเป็นกฎหมาย" ในบ้านเมืองของเขา
แต่คำว่า "ศูนย์" เป็นเพียงทฤษฎี เพราะในเป็นความจริงยังคงมีกลุ่มคนที่คอยแอบ หรือ หนีภาษี อยู่ในสังคมของบ้านเขา
เพียงแต่ เมื่อใดที่ตรวจพบ หรือ มีการแจ้ง เขาจะไม่เพิกเฉยหรือปล่อยปะ แต่ลงมือดำเนินการใดๆ ทันที
👉🏻 เพราะสวีเดนพยายามทำให้เกิดความยุติธรรมและความเท่าเทียมที่สุด
หากปล่อยใครสักคนหนีภาษีได้ ก็หมายถึงปล่อยให้เกิดความไม่ยุติธรรม หรือ ความไม่เท่าเทียมกับประชาชนที่จ่ายภาษีอย่างถูกต้อง
หากเราจำลองภาพให้เล็กลง ในหมูบ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ที่มีสวัสดิการให้ลูกบ้านอย่างดีและมีคุณภาพ
คอยทำความสะอาดถนนหนทางให้ มีสนามเด็กเล่นที่ดี มีร้านอาหาร สระว่ายน้ำ ฯลฯ
ทำให้หมู่บ้านดูน่าอยู่น่าอาศัย ลูกบ้านก็ควรมีหน้าทีช่วยกันจ่ายเงินบำรุงให้กับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น และ เพื่อเป็นเงินเดือนของพนักงานด้วย
**เรามีข้อสังเกตนิดหนึ่ง แต่ต้องขออนุญาตข้าราชการทุกท่านในที่นี้ด้วย
ในประเทศไทยประชาชนทุกอาชีพร่วมกันจ่ายภาษี แต่ทำไมข้าราชการเท่านั้นที่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ รวมถึงเบิกให้ครอบครัว
(การเบิกให้ครอบครัวนี้เราไม่แน่ใจว่าตอนนี้เป็นอย่างไง ต้องขอโทษด้วยถ้าผิด) รวมถึงภาษีของประชาชน ที่ต้องจ่ายเป็นเบี้ยบำเหน็จ-บำนาญให้ข้าราชการอีกด้วย
ทำไมคนที่ทำงานให้รัฐบาลเท่านั้น ที่มีสิทธิพิเศษจากภาษีของทุกคน ทั้งที่อาชีพอื่น ๆ ก็ทำงานจ่ายภาษีเหมือนกัน
ทำให้หลายๆ คนพยายามที่จะทำงานให้รัฐเพื่อให้ได้รับสวัสดิการนี้ แต่งานก็มีตำแหน่งจำกัด แถมใครไม่มีเส้นสายก็ยากขึ้น
คือ เราต้องขอโทษท่านที่เป็นข้าราชการด้วยจริงๆ ข้าราชการทุกท่านไม่ได้ทำอะไรเพื่อให้เกิดระบบนี้ แต่รัฐที่สร้างระบบนี้ไว้ตั้งแต่ในอดีต
วิธีสร้างความเท่าเทียมในกรณีนี้ที่ประเทศสวีเดนทำคือ เขามีสวัสดิการการรักษาที่มีมาตราฐานเดียวกันทั้ง คนจน คนรวย คนธรรมดา หรือ ข้าราชการ และฟรีเหมือนกันทั่วประเทศ
เบี้ยผู้สูงอายุก็ใช้เกณฑเดียวกันทั่วประเทศ และ เหมือนกันทุกอาชีพ
แต่สวัสดิการอื่นๆ ของข้าราชการของเขา อาจจะต่างไปบ้างจากบริษัทเอกชน เช่น วันหยุด วันลาป่วย เงินสวัสดิการเพื่อสุขภาพต่อปี แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายขององค์กร บางบริษัทเอกชนก็มีสวัสดิการส่วนนี้ดีกว่า
แต่ทั้งนี้ กว่าที่เขาจะได้สิ่งที่เขามีดั่งทุกวันนี้ ประชาชนก็ต้องต่อสู้ดิ้นรน ต้องร่วมแรงร่วมใจกันเรียกร้อง และมีการสูญเสียมากมายในอดีต 😔
ออกนอกเรื่องไปไกลถึงในอดีต กลับมาที่เดิมกัน😅 🔺“ทำไม” ประเทศสวีเดนไม่เพิกเฉย หรือ ไม่ปล่อยให้เกิดการหลบเลี่ยง หนี หรือ ฉ้อโกงการจ่ายภาษี🔺
👉🏻 เพราะการหนีภาษีเป็นการฉ้อโกง และ เป็นกระทำที่ผิดกฎหมาย
ภาษีรายได้เป็นภาษีที่ประชาชนจ่ายตามรายได้จริง ส่วนภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นภาษีที่ผู้ขายผลักภาระหน้าที่การจ่ายภาษีให้ผู้ซื้อ
เช่น น้ำ 1 ขวด ราคาทุน + ค่าใช้จ่ายทั้งหมด +กำไร ต้องขายที่ 100 บาท😱 (น้ำทิพย์ 😄)
หลังจากได้ราคาขาย จึงมีการบวกเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งที่ประเทศไทยคิด 8% ดังนั้นราคาขายน้ำหนึ่งขวด คือ 108 บาท
8 บาทนี้ ประชาชนจ่ายไปเพื่อให้เป็นเงินภาษี และ ต้องนำไปพัฒนาประเทศ
หากเจ้าของบริษัทน้ำ หรือ ผู้ขายน้ำ ขายน้ำได้ 108,000 บาท แสดงว่าภาษีมูลค่าเพิ่มที่ต้องจ่ายคือ 8 พัน
แต่ถ้าผู้ขายยอมจ่ายพิเศษ 2 พัน อาจจะทำบัญชีปลอมหรือด้วยวิธีใดๆ เพื่อจะสามารถจ่ายภาษีลดลงเหลือ 4 พัน (8 – (2 + 2) = 4)
นั้นแสดงว่าเงินภาษีมูลค่าเพิ่มที่ประชาชนจ่ายไว้เต็มๆ 8 พัน ไปถึงมือหน่วยงานรัฐแค่ 4 พัน มันคือการฉ้อโกง
และนี่คือเหตุผลที่ชาวสวีดีสส่วนหนึ่ง พยายามช่วยกันเป็นหูเป็นตาในการตรวจสอบการออกใบเสร็จรับเงินของผู้ขาย
เพราะการออกใบเสร็จรับเงิน ต้องออกโดยเครื่องบันทึกเงินสด ที่เมื่อรับเงินผ่านเครื่องนี้แล้วก็จะถูกตรวจสอบได้ หรือโกงได้ยากขึ้น
นอกจากนั้นการหนีหรือฉ้อโกงภาษีรายได้ ในลักษณะเดียวกัน เช่น บริษัทขายน้ำได้ทำบัญชีรายได้ปลอมเพื่อหลีกเลี่ยงและทำให้จ่ายภาษีถูกลง
แทนที่ภาษีที่ถูกต้องทั้งหมดจะถูกนำมาเป็นรายได้ให้ประเทศ เพื่อนำมาพัฒนาโรงเรียน โรงพยาบาล ถนนหนทาง ฯลฯ แต่ภาษีที่ผู้ขายน้ำตั้งใจหลบเลี่ยงนั้น ก็หายไปกลายเป็นรายได้ของตัวเองอีกชั้นหนึ่ง
โรงเรียน โรงพยาบาล ถนนหนทาง ก็มีเพื่อ เจ้าของโรงงาน พนักงานและลูกๆ ของพนักงานได้ใช้ มันเป็นค่าบริการสังคมที่ทุกคนต้องร่วมกันจ่าย
ดังนั้นทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลให้การฉ้อโกง หรือ การหนีภาษีในประเทศสวีเดน เป็นความผิดร้ายแรงอย่างหนึ่ง
🔺ประเทศสวีเดน “ทำอย่างไร” เพื่อไม่ให้เกิดการเลี่ยง หนี หรือฉ้อโกงภาษี🔺
👉🏻 เขาใช้วิธีทั้ง
“การกระตุ้นให้เกิดการให้ร่วมมือ” โดยให้ความรู้ทำให้ประชาชนเข้าใจถึงความสำคัญของภาษี
“การบังคับ” โดยกำหนดให้การเสียภาษีเป็นหน้าที่ทางกฎหมายที่ทุกคนต้องทำ และ
“มีการควบคุมที่มีประสิทธิภาพ” ด้วยบทลงโทษทางกฎหมาย ที่เคร่งครัดและเป็นธรรม
👉🏻 เขาพยายามช่วยให้ประชาชนมีงานทำ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนเองและความสามารถในการจ่ายภาษี
เราใช้คำว่า “พยายาม” เพราะในความเป็นจริงก็ยังมีชาวสวีดีสส่วนหนึ่งที่ไม่มีงานทำ
👉🏻 รัฐบาลทำเป็นตัวอย่าง
ประเทศสวีเดนได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่ามีความโปร่งใสในการทำงานเป็นอันดับต้นๆ ของโลก (มีลิ้งค์ด้านล่านถ้าท่านสนใจ)
เมื่อรัฐบาลมีความโปรงใส สามารถเปิดเผยและตรวจสอบการทำงานได้ ก็ไม่กลัวที่จะให้ความรู้ เพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจทุกแง่มุมเกี่ยวกับเรื่องของภาษีและการตรวจสอบ
👉🏻 ให้เสรีภาพกับสื่อ
สื่อ ทำหน้าที่เป็นเหมือนนักสืบที่จะคอยสืบและเปิดเผยความจริง เช่น การทุจริตหรือฉ้อโกง ทั้งการทำงานของฝั่งรัฐบาล ฝั่งประชาชน และ นิติบุคคล เช่น ธุรกิจขนาดใหญ่ บริษัท ห้างร้านต่างๆ
ทุกประเทศมีสื่อ แต่สื่อในแต่ละประเทศมีความเป็นอิสระต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อความน่าเชื่อถือต่อสื่อ
สื่อในประเทศสวีเดนได้รับการยอมรับว่ามีดัชนีเสรีภาพสื่อเป็นอันดับต้นๆ ของโลก (มีลิ้งค์อยู่ด้านล่านถ้าท่านสนใจ)
ขอบคุณภาพจาก : https://www.pptvhd36.com/news/สังคม/143214
🔺 ทำไมประเทศที่ยังไม่พัฒนาส่วนใหญ่ยังเพิกเฉยต่อการฉ้อโกงภาษี🔺
ปัญหาสำคัญของประเทศที่ยังไม่พัฒนา คือ การมีคอร์รัปชั่นสูง เงินที่ได้จากภาษีของประชาชนที่มีจำนวนมหาศาลนั้น ไม่ถูกนำมาใช้เพื่อคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง
จึงทำให้ประเทศนั้นๆ ไม่พัฒนาสักที หรือ พัฒนาได้ยากและช้า
โลกนี้มีทั้งคนดีคนชั่ว แม้จะมีรัฐบาลในบางช่วงเวลาบริหารและนำประเทศไปสู่เส้นทางที่มีเป้าหมายการเป็นประเทศพัฒนาได้
แต่รัฐบาลลักษณะนี้ ในประเทศที่ยังไม่พัฒนา ก็มักจะถูกค้นล้มด้วยการรัฐประหาร และด้วยข้ออ้างต่างๆ นาๆ
การที่ประเทศที่ยังไม่พัฒนาส่วนใหญ่ยังไม่ให้ความสำคัญกับการปราบปรามการฉ้อโกงภาษี เพราะตัวเองยังคงฉ้อโกงเงินภาษีของประชาชนอยู่นั้นเอง
และรวมถึงการฉ้อโกงการจ่ายภาษีของ บริษัท ห้างร้าน หรือธุรกิจใหญ่ๆ ฯลฯ การจ่ายเงินพิเศษของพวกเขา เพื่อให้สามารถจ่ายภาษีลดลง ยังเป็นการสร้างรายได้ให้กับการคอร์รัปชั่นอีกด้วย
ในประเทศสวีเดนนั้น เขา “พยายาม” ที่จะทำให้เกิดความเท่าเทียมกับทุกคนบนพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน
ทุกคนช่วยกันจ่ายภาษี ทุกคนช่วยกันดูแล และทุกคนก็มีสิทธิที่จะมีชีวิตที่มีคุณภาพภายใต้สวัสดิการที่ได้มาจากภาษีเท่าๆ กัน
พวกเขาพยายามเดินหน้าไปด้วยกันและไม่ละทิ้งใครให้อยู่เบื้อหลังกับชีวิตที่ไร้ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
ผู้บริหารประเทศหรือผู้นำ ก็เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งที่ทำงาน ทำหน้าที่ เพื่อบริหารเงินภาษีของประชาชน
พวกเขาทุกคนถูกปลูกฝั่งให้มีความเป็นเจ้าของภาษี และ เป็นเจ้าของประเทศร่วมกัน ไม่ใช่ ใคร คนใด คนหนึ่ง
เราเชื่อว่าผู้อ่านหลายท่านเข้าใจสิ่งเหล่านี้ดีอยู่แล้ว และขอบคุณที่ท่านอ่านและร่วมสนทนากันในสไตส์การเล่าของเรา😊
ยังมีเรื่องราวความเหมือนที่ต่าง และ ความต่างที่เหมือนอีกมากมาย
ทุกอย่าง ไม่ใช่เพื่อการเปลี่ยนตัวเองให้เหมือนใคร แต่เป็นการได้รู้จักและเรียนรู้ผู้อื่น เพื่อสะท้อนได้เห็นตัวเองในอีกมุมที่่ต่างออกไป
ขอบคุณทุกท่านอีกครั้ง วันนี้เราต้องไปก่อนละ บาย บาย 🤗 🤗
ปล.
⭐️ บทความนี้เป็นการวิเคราะห์จากประสบการของผู้เขียน จึงไม่สามารถตัดสินได้ว่าผู้อื่นจะคิดเช่นเดียวกัน
⭐️ บทความเขียนจากประสบการณ์ในประเทศสวีเดนเท่านั้น
⭐️ ดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชัน
⭐️ เปิดดัชนีเสรีภาพสื่อ 2020
⭐️ 5 อันดับการจัดเก็บรายได้ภาษี ของกรมสรรพากรปี 2562
โฆษณา