9 มิ.ย. 2021 เวลา 14:43
ท้าทายตัวเองในวัย 30 ด้วยการเปลี่ยนสายงาน
จากที่ได้เคยตั้งสเตตัสไป (ไม่แน่ใจว่าคนเห็นขนาดไหน) ว่าตอนนั้นาสภาพจิตใจไม่ปกติ จึงไม่ได้เขียนบทความต่อในเพจนี้ เพราะเพจนี้จากความตั้งใจแรกคืออยากให้กำลังใจของคนที่วัยใกล้เคียงกันให้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปด้วยกัน แต่สภาพจิตใจ ณ ตอนนั้นไม่สามารถให้กำลังใจใครได้ แม้แต่ตัวเองเลยขอหยุดการเขียนบทความไปก่อน แต่ตอนนี้สภาพจิตใจกลับมาได้ประมาณนึงแล้ว เลยอยากขอแชร์ประสบการณ์ของตัวเองในการเปลี่ยนสายงานการทำงานตอนวัย 30 เผื่อคนที่มีความคิดว่าอยากลองเปลี่ยน หรือสนใจจะได้เตรียมรับมือกับสภาพและเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น
จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนสายงานครั้งนี้เริ่มมาจาก การทำงานที่เดิมแล้วรู้สึกว่าเราทำงานได้ไม่เต็มที่ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเราน่าจะไม่ได้เรียนรู้ในสิ่งที่เราคาดหวังว่าเราจะได้รู้หรือได้ทำแน่นอน เลยเริ่มหางาน ซึ่งการหางานก็ไม่ได้ต่างจากคนอื่นนั่นก็คือเข้าเว็ปรับสมัครงานทั่วไป ซึ่งสายที่ตั้งใจหา ณ ตอนนั้นค่อนข้างสะเปะสะปะ งานไหนที่เราอยากทำก็กดสมัครไปเลย และตำแหน่ง AE เอเจนซี่โฆษณาก็เป็นอีกตำแหน่งที่แอดมินอยากลองทำ ต้องบอกก่อนว่าก่อนหน้านี้คนรอบตัวเคยบอกว่าแอดมินเองดูน่าจะเหมาะกับ AE เอเจนซี่นะ ทำไมไม่ลองทำ แต่สิ่งที่ยึดแอดมินไม่ให้เปลี่ยนไปทำตอนนั้น ส่วนนึงเพราะแอดมินกลัวการเริ่มใหม่กับสายงานใหม่ และสังคมแบบใหม่ที่เราไม่คุ้นเคย จึงไม่เคยก้าวข้ามเส้นไปได้สักที จนกระทั่งวันนี้ที่ตัดสินใจส่งใบสมัครไปเพราะตอนนั้นคิดว่า ตัวแอดมินน่าจะทำได้ เพราะตัวงานที่แอดมินทำก็มี scope of work ไม่ต่างกันมากเท่าไหร่ แล้วแอดมินเองก็อยากรู้ขั้นตอนการคิดงานของเอเจนซี่ด้วย เลยตัดสินใจสมัครไป แต่หลังจากกดสมัครไปแล้ว แอดมินได้ไปถามเพื่อนและรุ่นพี่ที่ทำอยู่ในบริษัทนี้ ทั้ง 2 คนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า มาสิ! มาทำงานด้วยกันไม่ต้องไปทำทีมอื่นหรอก ประโยคนี้ทำให้แอดมินรู้สึกอุ่นใจมากขึ้น ที่เราจะได้เริ่มงานใหม่กับคนที่เราคุ้นเคย และเชื่อว่าทุกอย่างต้องราบรื่นอย่างแน่นอน
การสัมภาษณ์ผ่านไปได้ด้วยดี แอดมินได้เข้าไปเริ่มงานด้วยพลังที่เต็มเปี่ยมพร้อมลุยกับทุกงาน พร้อมเรียนรู้งาน ในตำแหน่ง Account Supervisor ซึ่งตอนแรกที่เห็นตำแหน่ง แอดมินก็เริ่มรู้สึกกดดันเพราะเราไม่เคยทำงานในสายงานนี้แต่ต้องมาทำในตำแหน่งหัวหน้างานระดับกลาง แล้วเราจะสามารถอธิบายงานให้คนที่ตำแหน่งเล็กกว่าเราได้หรอ ตอนนั้นในหัวคิดแค่ว่า งั้นเราต้องรีบเรียนรู้งานให้เร็วที่สุด จะได้ให้คำปรึกษาคนอื่นๆได้ หลังจากที่เริ่มงานได้ 1 เดือน แอดมินได้พบว่างานเอเจนซี่ มีความละเอียดมาก ทุกอย่างต้องมีที่มาที่ไปอย่างชัดเจน ข้อมูลทุกอย่างต้องถูกต้องและได้รับการคอนเฟิร์มมาแล้ว เริ่มโปรเจคแรก แอดมินยังดูเง่อะๆ งงๆ ในขั้นตอนการทำงาน โชคดีที่มีเพื่อนร่วมงานที่เก่ง ทุกคนเก่งในสายงานของตัวเอง และคอยตบให้แอดมินเข้าลู่เข้าทางของการทำงานที่ควรจะเป็น หลังจากจบงานโปรเจคแรกไปในเดือนที่ 4 ผลการทดลองออกมาว่าผ่าน แต่ในใจแอดมินยังรู้สึกว่า เรายังไม่เหมาะแม้แต่จะผ่านการทดลองงานด้วยซ้ำ ด้วยเงินเดือนและตำแหน่งแอดมินคิดว่าตัวเองควรทำได้มากกว่านี้ แต่หัวหน้าบอกว่าเค้าเห็นบางอย่างในตัวแอดมินและคิดว่าแอดมินจะพัฒนาขึ้นได้ จึงได้เข้าสู่โปรเจคที่ 2 เมื่อเข้าสู่โปรเจคนี้ แอดมินตั้งใจกับตัวเองแล้วว่าเมื่อจบโปรเจคนี้แอดมินต้องสามารถทำงานด้วยตัวเองได้แล้ว โดยไม่ต้องมีคนมาคอยช่วยซัพอร์ตทุกขั้นตอนเหมือนตอนนี้ เมื่อทำงานโปรเจคที่ 2 ไปเรื่อยๆ แอดมินกลับยิ่งทำผิดพลาดมากขึ้น แทนที่จะทำได้ดีขึ้น เหมือนสิ่งที่แอดมินคิด จะไม่ใช่สิ่งที่เอเจนซี่ควรทำยิ่งนานไป ความมั่นใจในการทำงานก็เริ่มลดน้อยลงเหมือนต้นไม้ที่ใบไม้ค่อยๆร่วง แต่การผ่านการทดลองมาได้ มันทำให้แอดมินยังมีแรงที่จะทำงานและปรับตัว เรียนรู้ และแก้ไขงานให้มากขึ้น จนมาถึงงานโปรเจคที่ 3 ซึ่งโปรเจคนี้ต้อง pitching ซึ่งเป็นการทำงานรูปแบบใหม่ ทีมใหม่ ลูกค้าใหม่ แอดมินทั้งประหม่า และกดดันเพราะใช้ภาษาอังกฤษทั้งหมดตั้งแต่ส่งเมล์ เอกสาร และการพูดคุยในรายละเอียด และโปรเจคนี้เป็นจุดหักสำคัญที่ทำให้แอดมินเครียดและรู้สึกตัวเองไม่มีคุณค่า หนักสุดคือรู้สึกตัวเองเป็นตัวถ่วงของทีม การทำงานยังดำเนินต่อไป แต่ความกดดันกลับเพิ่มขึ้น หัวหน้าของแอดมินต้องการผลักดันให้แอดมินเก่งและพัฒนาให้เร็วขึ้นกว่าเดิมจึงพยายามถามและคุยงานกับแอดมินมากขึ้น แต่ผลคือแอดมินกลับยิ่งรู้สึกไร้ค่ามากขึ้น รู้สึกตัวเองไม่เหมาะกับคนที่นี่ เราไม่เก่งพอที่จะยืนตรงนี้ ถ้าตรงที่เราทำงานเป็นคนอื่นที่มีความสามารถมากกว่าเราทีมเราจะเป็นยังไง เกิดความคิดแบบนี้วนอยู่ในหัวตลอดเวลาเป็นเวลาเกือบ 2 อาทิตย์ จนสุดดท้ายแอดมินได้ตัดสินใจขอลาออกเมื่อตอนต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เป็นการขอลาออกครั้งแรกที่ไม่มีการหางานเตรียมไว้ก่อน เพราะคิดว่าจะขอออกมาพักและฟื้นฟูจิตใจก่อน
จากที่ได้ลองนั่งคิดจนตกผลึกแล้ว สาเหตุที่ทำให้แอดมินลาออกมาจากการกดดันตัวเองที่ต้องการจะทำงานให้ได้ในสายงานใหม่ที่ไม่คุ้นชิน ด้วยตำแหน่งที่ไม่ใช่แค่เด็กเพิ่งเข้าทำงาน ทำให้รู้สึกว่าตัวเองทำงานดีไม่พอ ไม่เหมาะกับตำแหน่งงานและเงินเดือน
เพราะฉะนั้นสำหรับใครที่อยากลองเปลี่ยนสายงานในวัย 30 นี้สิ่งที่สำคัญคืออย่ากดดันตัวเองมากเกินไปจนทำให้เสียความมั่นใจในการทำงาน เรียนรู้งานให้มากกว่าคนอื่น ทำให้มากกว่าคนอื่น เพื่อที่เราจะได้ตามคนอื่นทัน หรืออย่างน้อยก็เข้าใจคนในทีมมากขึ้น ขอให้ทุกคนมีความสุขกับวัย 30 ครับ
โฆษณา