11 มิ.ย. 2021 เวลา 08:56 • ข่าว
#เจาะคดีแทงยับอาจารย์มหาวิทยาลัยจีนชื่อดังตายคาคณะ
#เปิดด้านมืดแวดวงวิชาการของจีน
ข่าวที่กำลังเป็นที่วิพากษ์ วิจารณ์กันอย่างมากในจีนช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หนีไม่พ้นข่าวลุงพล
เอ้ย! ไม่ใช่! ข่าวฆาตกรรมสุดสยองภายในมหาวิทยาลัยฟู่ตั้น มหาวิทยาลัยเก่าแก่ มีชื่อเสียงระดับ Top 5 ของจีน ในใจกลางเมืองเซี่ยงไฮ้ ที่เกิดขึ้นเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
2
เหตุการณ์จริงๆนั้นเกิดขั้นเมื่อวันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน 2021 ช่วงราวๆบ่าย 3 โมง มีการแจ้งเหตุฆาตกรรมนายหวัง หย่งเจิน ศาตราจารย์วัย 49 ปี ของภาควิชาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยฟู่ตั้น และ อาจารย์หวัง ผู้ตาย ยังเป็นหนึ่งในเลขาธิการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ ควบคุมดูแลบุคลากรทั้งหมดในคณะนี้ด้วย
ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุอุกอาจ ก็ไม่ต้องไปสืบหาไกล ก็คือ นาย เจียง เหวิน ฮว่า วัย 39 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นรองศาสตราจารย์ของภาควิชาคณิตศาสตร์แห่งนี้เหมือนกัน โดยมีการจับกุมตัวได้ทันทีในที่เกิดเหตุ ในขณะที่เสื้อผ้ายังเปื้อนเลือด พร้อมของกลางเป็นมีดที่ใช้แทงผู้ตาย
และอาจารย์เจียงก็ให้การสารภาพ ยอมรับโดยดุษฏีว่าฆ่าจริง และไม่ใช่เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ โมโหจนเลือดขึ้นหน้าจนต้องคว้ามีดมาไล่แทง แต่เป็นความตั้งใจมานานแล้ว คิดแล้วคิดอีก จนตัดสินใจแล้วว่าวันนี้เขาจะมาเชือดคออาจารย์หวัง ให้ตายคามือให้มันจบๆกันไป
ส่วนเหตุผล แรงจูงใจที่ทำให้อาจารย์ เจียง เหวินฮว่า ยอมที่จะดับอนาคตของตัวเองด้วยการฆาตกรรมเพื่อนร่วมงาน หรือจะพูดให้ถูกก็คือหัวหน้า ผู้บังคับบัญชาประจำคณะ เกิดจากแรงกดดัน และแรงแค้น ที่ นายหวัง หย่งเจิ้น กระทำต่อเขามานานหลายปี จนถึงที่สุดแล้วคือ กำลังจะทำเรื่องไล่เขาออก ด้วยเหตุผลเรื่องประสิทธิภาพการทำงานของเขาไม่ดีพอสำหรับสถาบันแห่งนี้
1
และข่าวการไล่แทงกันตายของคนระดับอาจารย์มหาวิทยาลัยฟู่ตั้นถึง 2 คนกลางมหาวิทยาลัย กว่าจะยืนยันชัดเจนก็ต้องผ่านมาอีกวัน โดยทางมหาวิทยาลัยได้ขึ้นรูปศาตราจารย์ หวัง หย่งเจิน ผู้ที่เสียชีวิตเป็นภาพขาวดำ พร้อมคำไว้อาลัย ส่วนรูป และ โปรไฟล์ของอาจารย์ เจียง เหวินฮว่า ถูกลบออกไปจากหน้าเว็บไซท์ของมหาวิทยาลัยไปแล้ว และให้รายละเอียดข่าวเพียงสั้นๆว่า เป็นเรื่องของความแค้นส่วนตัวระหว่างอาจารย์ 2 คน
1
เลยทำให้คดีนี้ กลายเป็นประเด็นที่ถูกหยิบขึ้นมาวิพากษ์ วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ที่มองว่าเบื้องหลัง ความแค้นของอาจารย์เจียง ผู้ก่อเหตุมีมากกว่านั้น และสะท้อนให้เห็นมุมมืดภายในแวดวงวิชาการของจีนที่เป็นอยู่ในขณะนี้
ประเด็นที่ถูกหยิบขึ้นมาพูดถึงมากคือ บทบาทของศาตราจารย์ หวัง หย่งเจิน ในภาควิชาคณิตศาสตร์แห่งนี้ ที่ยังมีตำแหน่งถึงเลขาธิการในพรรคคอมมิวนิสต์จีนด้วย
แหล่งข่าวจีนเปิดเผยว่า ในมหาวิทยาลัยแทบทุกแห่งในจีน จะต้องมีผู้แทนจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนเข้ามาประจำในมหาวิทยาลัย เพื่อทำหน้าที่ควบคุมคุณภาพบุคลากร และการเรียนการสอนในสถาบันการศึกษาให้เป็นไปตามหลักอุดมการณ์ของจีน
1
หรือพูดง่ายๆก็คือ เข้ามาสอดส่อง ดูแล ว่ามีอาจารย์คนไหนแอบเสริมแนวคิด ค่านิยมแบบตะวันตกเข้ามาปะปนในการสอนหรือไม่ หรือหากมีการจัดกิจกรรมในมหาวิทยาลัยในเนื้อหาที่เข้าข่ายต่อต้านรัฐบาลจีน หรือประเด็นที่อ่อนไหวมากๆสำหรับจีน เช่น สิทธิมนุษยชน หรือ เหตุการณ์ในเทียนอันเหมิน ก็จะได้รีบตัดไฟกันเสียแต่ต้นลม และด้วยการสอดส่องอย่างเข้มงวดโดยตัวแทนของรัฐบาลจีนนี้เอง ที่ทำให้สถาบันการศึกษาของจีนมักถูกโจมตีในแง่เสรีภาพทางวิชาการ จากฝั่งโลกเสรีตะวันตก
4
ซึ่ง อาจารย์ หวัง หย่งเจิน ก็คือคนที่ถูกพรรคคอมมิวนิสต์จีนส่งให้มาทำหน้าที่นี้ประจำที่มหาวิทยาลัยฟู่ตั้นนี่เอง
แต่เรื่องการสอดส่อง หรือปิดกั้นทางวิชาการก็คงไม่ใช่เหตุผลเดียว ที่กดดันจนทำให้อาจารย์ในคณะคนหนึ่งถึงกับสติแตก ต้องคว้ามีดมาไล่เชือดคอปานนี้
2
แต่สิ่งที่กลายเป็นแอกวิชาการของบรรดาอาจารย์มหาวิทยาลัยของจีนทั่วประเทศอยู่ในขณะนี้ก็คือ การกดดันให้อาจารย์มหาวิทยาลัยต้องผลิตผลงานวิชาการ เพื่อหาทุนวิจัยให้กับมหาวิทยาลัย
2
โดยมหาวิทยาลัยจีนจะจ้างด็อกเตอร์จบใหม่ๆ โดยมีสัญญาว่าจะต้องผลิตผลงานวิชาการเพื่อหาทุนทำวิจัย และตีพิมพ์ในวารสารวิชาการชั้นนำให้ได้ภายในระยะเวลา 5 ปี หากทำไม่ได้ก็จะมีการลดขั้น จากศาตราจารย์ ให้เป็นระดับอาจารย์เฉยๆ หรืออาจถึงขั้นปลดออก แล้วรับอาจารย์จบใหม่เข้ามาแทน วนลูปเช่นนี้ไปเรื่อยๆ
6
หากมองในแง่หนึ่ง ก็ดูเหมือนเป็นการกระตุ้นในอาจารย์ระดับอุดมศึกษาต้องทำงานวิชาการอย่างต่อเนื่อง และสรรหาองค์ความรู้ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มผลงานด้านวิชาการให้กับตัวเองตลอดเวลา ที่มหาวิทยาลัยต้นสังกัดก็จะได้เครดิตไปด้วย
แต่ในทางกลับกัน หากมุ่งหาแต่เงินทุนวิจัยจากรัฐบาลจีน หรือจากต่างประเทศ หรือเพื่ออ้างอิงชื่อเสียงบนวารสารวิชาการหรูเป็นหลัก ก็ไม่ต่างจากความหิวกระหายเงินชื่อเสียง เงินทุน ที่มีอยู่อย่างจำกัดมากๆ ในแต่ละปี
3
และเป็นการบีบอาจารย์ให้ทำแต่หัวข้อวิจัยที่สามารถขายได้ง่ายใน "ตลาดทุน" แทนที่จะเปิดกว้างให้อาจารย์สร้างผลงานวิชาการตามความถนัด และความสนใจของตัวเอง
2
และความกดดันเหล่านี้ ก็จะถูกส่งผ่านไปยังบรรดาอาจารย์มหาวิทยาลัยต่างๆทั่วประเทศ ที่ต้องบี้ผลงานให้ได้ตามเป้าหมายของคณะ จนถึงขั้นขโมยลอกงานวิชาการของคนอื่น ก็มีตัวอย่างให้เห็นอยู่เนืองๆ
นี่อาจเป็นต้นเหตุการคดีฆ่ากันตายกลางมหาวิทยาลัยดังของจีนในครั้งนี้ กับการตัดสินใจของอาจารย์คนหนึ่งที่กำลังจะถูกไล่ออก ด้วยเหตุผลของประสิทธิภาพในการทำงาน ที่อาจไม่ใช่บทบาทเรื่อง "การสอน" แต่เป็นศักยภาพในการ "หาทุน" ที่บีบคั้นให้ต้องทิ้งปากกา มาจับมีด แล้วก่อคดีเศร้าเช่นนี้
2
หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็นับเป็นเรื่องน่าเศร้าในวงการวิชาการที่มุ่งแสวงหาทุนเป็นหลัก ซึ่งสถาบันจีนอาจจะไม่ใช่ประเทศเดียวที่ยึดหลักนี้ในระบบอุดมศึกษาก็เป็นได้
4
แหล่งข้อมูล
โฆษณา