"เรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่พยายามถีบตัวเองเพื่อหนีให้พ้นจากสิ่งที่ตัวเองเกลียด แต่กลับไม่รู้เลยว่าแท้ที่จริงแล้วไม่ใช่ความเกลียดที่ผลักดันเธอ ความรักที่เธอไม่เคยได้ต่างหากคือสิ่งที่เธอต้องการอย่างแท้จริง" 😡🏥🧟♀️
.
#ชวนอ่าน #อ่านจบแล้วเอามาเรียงๆ
.
🌟 ไร้เสน่หา
👩🦳 ผู้เขียน ว.วินิจฉัยกุล
📚 สำนักพิมพ์ ทรีบีส์
.
🖍 “นงราม” สาวโสดวัยสี่สิบ อดีตครูมากว่ายี่สิบปี ปัจจุบันทำงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ชีวิตของนงรามค่อนข้างราบเรียบ สันโดษ มัธยัสถ์ ตลอดเวลาที่ทำงานมาหลายปี นงรามได้เก็บสะสมเงินอย่างคนมีวินัย เธอจัดสรรปันส่วนเงินออกมากู้ซื้อบ้านเป็นของตัวเองและแบ่งให้ “ประอร” นิสิตสาวมาเช่าอยู่ด้วยเพื่อแบ่งเบาค่าใช้จ่าย
.
🖍 ชีวิตของนงรามดำเนินอย่างไม่หวือหวาจนกระทั่งวันหนึ่งน้องสาวที่ห่างหายไปหลายปีมาหาเธอที่บ้านเพื่อจะให้นงรามช่วยฝากงานให้กับลูกสาวที่เพิ่งเรียนจบจากต่างประเทศ
.
🖍 “นัยนา” น้องสาวแท้ๆ ของนงราม มีเส้นทางชีวิตที่แตกต่างจากพี่สาวอย่างสิ้นเชิง นัยนาเลือกแต่งงานตั้งแต่แตกเนื้อสาวได้ไม่นานผิดกับนงรามที่เลือกขวนขวายจนได้เป็นนักเรียนทุนปริญญาคนเดียวในจังหวัด
.
🖍 ชีวิตสมรสของนัยนาค่อนข้างมีสีสัน นัยนาแต่งงานครั้งแรกตั้งแต่อายุเพียงสิบเจ็ดกับ ”นิกร” นายทหารชั้นผู้กอง มีลูกสาวหนึ่งคน ชื่อ “แนท เนตรนลิน” เมื่อครั้งที่เด็กหญิงเนตรนลินอายุได้สิบขวบบิดาก็ตายจาก ไม่นานนัยนาก็แต่งงานครั้งที่สองกับนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ตลอดชีวิตนัยนาไม่เคยต้องทำงานอย่างจริงๆ จังๆ เลย
.
🖍 แรกเริ่มกับสามีคนที่สอง นัยนาเป็นเพียงบ้านเล็ก ต่อมาไม่นานภรรยานายทหารเสียชีวิต นัยนาก็ขยับขึ้นมาเป็นภรรยาหลวงแทน ส่วนลูกสาวนัยนาก็ส่งเสียให้เรียนจบเลขานุการจากอเมริกา
.
🖍 ในอดีต ครอบครัวของนงรามเป็นครอบครัวชนชั้นหาเช้ากินค่ำ ในครอบครัวมีพ่อ แม่ พี่ชาย นงรามและนัยนาเป็นน้องสาวคนเล็ก ประกอบอาชีพขายปลูกดอกไม้ไปขายในตลาด แต่ไหนแต่ไรมา นงรามเป็นเด็กที่ช่วยพ่อแม่ทำงานจัดการงานทุกอย่าง แต่นัยนาด้วยความเป็นเด็กน่ารัก ช่างฉอเลาะจึงเป็นที่รักของพ่อแม่และพี่ชาย นัยนาจึงไม่เคยต้องทำงานหนักเหมือนกับนงรามเลย
.
🖍 สมัยนงรามอายุเพียงสิบขวบเคยตบตีนัยนาที่อายุเพียงหกขวบเมื่อครั้งที่ไม่มีใครอยู่บ้าน พร้อมกับขู่ว่าหากนัยนาบอกใครจะฆ่าให้ตาย ซึ่งนัยนาก็ไม่เคยบอกใคร หลังจากนั้นอีกหลายปี เมื่อนงรามรู้ว่าผู้กองนิกรที่เธอรู้จักและพามาบ้านกลับขอน้องสาวเธอแต่งงาน นั่นทำให้เธอรู้สึกเหลือทน จนเลือกออกจากบ้านไปในที่สุด
.
🖍 ในขณะที่นัยนาเลือกเส้นทางแต่งงาน นงรามกลับขยันเรียน สอบได้ทุนจนจบปริญญารับราชการเป็นอาจารย์ ภายหลังจากที่นัยนาไปเป็นบ้านน้อยให้นายทหาร นงรามรู้สึกไม่เห็นด้วย มองว่าเป็นการหมิ่นเกียรติ หมิ่นศักดิ์ศรี แต่พ่อกับแม่กลับเห็นดีเห็นงาม สุดท้ายนงรามจึงเลือกที่จะห่างเหินจากครอบครัว ย้ายไปเป็นครูที่ต่างจังหวัด และส่งเงินมาให้พ่อแม่เป็นครั้งคราวเท่านั้น ไม่ได้กลับมาเยี่ยมเยียนหรือดูแลแต่อย่างใด
.
🖍 ในวัยสี่สิบปี สีสันอย่างเดียวในชีวิตของนงรามคือ “ทวีลาภ” เซลล์แมนหนุ่มหน้าตาคมคาย ปากฉอเลาะ เป็นคนเดียวในบริษัทที่นงรามมองว่ามีน้ำใจกับเธอ ทวีลาภมักจะมาส่งนงรามหลังเลิกงานเสมอ ทั้งคู่ค่อยๆ สนิทกัร มักจะไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่ทุกอย่างนงรามล้วนเป็นคนจ่าย ไม่เว้นแม้กระทั่งการมาฝากท้องทานข้าวเย็นทุกวัน นงรามยังเป็นธุระจ่ายตลาด ทำกับข้าวให้ มีเพียงประอรเท่านั้นที่มองว่าทวีลาภเป็นคนกระล่อน ส่วนนงรามยังคงไม่รู้ตัว
.
🖍 และแล้วในวันหนึ่งนงรามก็ต้องแปลกใจ เมื่อเนตรนลินเข้าไปหาเธอที่บริษัทเพื่อสอบถามเรื่องตำแหน่งงานว่าง นั่นเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เธอได้เจอหลานสาว หากแต่อคติที่มีอยู่เดิมต่อน้องสาว เนตรนลินก็หน้าตาคล้ายนัยนาจนแทบจะเป็นคนเดียว >> เรื่องราวต่อจากนี้แนะนำให้อ่านต่อในเล่มค่ะ 🥰
.
🌼 ตอนเราหยิบไร้เสน่หามาอ่าน ช่วงครึ่งแรกแทบไม่รอด รู้สึกอืดมาก คล้ายกับอ่านเรื่องราวของคนป่วยทางจิตในนิยายทั่วไป นางเอกก็จะได้ครองคู่กับพระเอกอะไรแบบนี้ แต่พอถึงกลางเรื่องหลังจากที่ทวีลาภหายไป นงรามมีอาการหลุดจนถูกส่งเข้าโรง’บาล พอฟื้นขึ้นมา คล้ายกับเป็นคนละคน เพราะนงรามคิดได้ว่า หากทำตัวเหมือนเมื่อก่อนก็คงเอาชนะคนที่ตัวเองเกลียดไม่ได้ พออ่านถึงตอนนี้เรารู้สึกตื่นเต้นและว๊าวมาก
.
🌼 ด้วยความที่นิยายไทยหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะนิยายสะท้อนสังคมเก่าๆ มักดำเนินเรื่องแบบราบเรียบ จุดเริ่มไปจุดจบ ท้ายสุดได้ข้อคิด แต่ไร้เสน่หากลับมีจุดพลิกตรงกลางเรื่องเลยชวนให้น่าติดตามมากๆ
.
🌼 แต่แล้วมันก็พลิกได้ไม่นาน เพราะด้วยความที่นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องของนงราม นงรามเป็นคนป่วย แล้วคนป่วยก็ต้องมีอาการป่วยแสดงออกมา นงรามกลับมาเป็นผู้เป็นคนได้ไม่นาน ยังไม่ทันเอาชนะใคร อาการทางจิตก็แสดงออกมา ในแบบที่เห็นจุดจบออกมารำไร สุดท้ายนงรามก็พ่ายไปแบบเรียบๆ 55+
.
🌼 ก่อนหน้านี้เราได้อ่าน #เทวาพาคู่ฝัน ซึ่งก็จะมีตัวละครชื่อว่า #สารา เป็นหญิงสาวที่มีนิสัยคล้ายกับนงราม เรียนเก่ง โดดเดี่ยว ถือตัว มัธยัสถ์ ทะเยอทะยาน ทำทุกอย่างด้วยมือของตัวเอง รวมไปถึงอาการทางจิตอย่างคิดเข้าข้างตัวเองจนผิดจากความเป็นจริง แยกไม่ออกระหว่างความเป็นจริงกับความฝัน และลงท้ายด้วยการป่วยทางจิตจนในที่สุดต้องเข้าโรง’บาล ตัวละครสองตัวนี้เหมือนกันอย่างแยกไม่ออก คล้ายๆ นงรามก็คือ สารา ในนิยายชุด spin-off ยังไงอย่างนั้น
.
🌼 สำหรับเรา สิ่งที่ผลักดันให้นงรามมาถึงจุดที่เลวร้ายนี้คือ ครอบครัว ไม่ใช่ตัวของนงรามเอง เรื่องราวมันเริ่มจากครอบครัวที่ให้ความรัก ให้การเลี้ยงดูเด็กผู้หญิงสองคนในแบบที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง เด็กหญิงคนพี่เอาการเอางาน พ่อกับแม่จึงโยนหน้าที่ทุกอย่างมาให้เพราะคิดว่าลูกสาวทำได้ ขณะที่อีกคนเกิดมามีน่าตาน่ารัก พ่อแม่และพี่ชายจึงพร้อมใจกันทะนุทนอมจนไม่เคยต้องทำอะไรเลย
.
🌼 อีกทั้งยังมีการเปรียบเทียบจากคนรอบข้าง เด็กหญิงคนเล็กที่น่าตาน่ารัก ได้รับความชื่นชม แตกต่างจากเด็กหญิงคนพี่ พ่อแม่ก็ไม่เคยปลอบหรือให้กำลังใจ ไม่เคยกล่อมเกลาว่าคนเรามีข้อดีที่แตกต่างกัน ท้ายที่สุดนงรามถึงต้องพยายามทุกอย่างเพื่อให้มีจุดยืนที่คนอื่นจะมองเห็นเด็กหญิงที่โดดเดี่ยวในวันวานบ้าง
.
🌼 ในตอนท้ายของเรื่อง หลังจากที่นงรามเข้าโรง’บาลแล้ว เนตรนลินพาแม่และยายมาเยี่ยมนงราม คำพูดของยายที่ว่า “โธ่เอ๋ย! เวรกรรมอะไรก็ไม่รู้ของเอ็ง ถึงต้องมาเป็นยังงี้ พ่อแม่อุตส่าห์เลี้ยงมา นึกว่าจะได้ดี” เป็นคำพูดที่ทำให้เรามองเห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด นงรามก็แค่คนที่น่าสงสารที่เกิดมาในครอบครัวที่ไม่เคยให้เธอได้เลยแม้กระทั่งความรัก
.
🌼 สำหรับนิยายเรื่องนี้ เราว่าดี อ่านสนุกกว่านิยายไทยเก่าๆ หลายเรื่อง แต่ก็มีความคล้ายกับนิยายสืบสวน นั่นคือ อ่านครั้งเดียวก็คงเพียงพอให้รู้เรื่องราวและจุดจบ ไม่ใช่นิยายที่มีเนื้อหาสุนทรีย์ที่จะหยิบมาอ่านซ้ำ จะอย่างไรนิยายก็เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยทางจิต เราอ่านให้พอรู้เรื่องเข้าใจได้ แต่จะให้อ่านซ้ำๆ ก็สงสารนงรามเกินไป เพราะในสายตาเรานงรามเป็นเหยื่อไม่ใช่ผู้กระทำ
.
🌼 อ้อ แต่ถึงจะบอกว่าเป็นนิยายที่เล่าเรื่องราวของคนที่เจ็บป่วยทางจิต แต่เราก็รู้สึกว่าอาจเพราะนิยายถูกเขียนออกมานานหลายปีแล้ว ก็จะมีข้อมูลบางจุดที่ดูแปลกหากหยิบมาพูดในปัจจุบัน อย่างการที่จิตแพทย์ในเรื่องบอกว่า "...พ่อแม่เลิกกันเพราะยึดเอาแต่ความสุขของตัวเองเป็นหลัก หย่าร้างกันง่ายแบบเดียวกับสังคมตะวันตก สุดท้ายคนที่ต้องรับผลคือลูก..." ซึ่งในปัจจุบันเราก็รับทราบกันดีว่า เด็กที่มีสุขภาพจิตดี ไม่จำเป็นว่าพ่อแม่ต้องอยู่ด้วยกัน ครอบครัวที่พ่อแม่หย่าร้างก็เลี้ยงดูลูกให้มีความสุขได้ มันขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ที่มีต่อกันมากกว่าการทนหรือจำใจอยู่แบบที่คนในอดีตยึดถือ เป็นต้น
.
🌼 ไร้เสน่หานี้ถูกนำเอาไปทำเป็นละครด้วย เรายังไม่ได้ดู แต่ก็จะไปหามาดูเพราะอยากรู้ว่านงรามจะถูกตีความยังไงเมื่อเป็นบทละคร ซึ่งแน่นอนค่ะว่า เรื่องนี้ เรา #แนะนำอ่าน อ่านได้เพลินๆ อ่านถึงกลางเรื่องก็เริ่มสนุกค่ะ โทนเรื่องถึงจะเกี่ยวกับอาการป่วยแต่ก็ไม่ได้เป็นโทนเครียดนะคะ เนื้อหาไม่ได้ดำดิ่งขนาดนั้น อีกทั้งยังมีเรื่องความรัก เรื่องครอบครัวด้วย ก็อ่านเอาสนุกค่ะ #เชียร์ ค่ะเล่มนี้ 😊😊
.
#ไร้เสน่หา #ววินิจฉัยกุล #ทรีบีส์ #นิยายไทย #พิมพ์ครั้งที่ห้า #2559