เด็กรุ่นใหม่ที่แอดรู้จักหลายคนเริ่มต้นทำธุรกิจเล็กๆน้อยๆตั้งแต่ยังเรียนหนังสือ ซึ่งเป็นเทรนด์ท่ีดีมาก เพราะการพยายามหารายได้จะสอนเราหลายเรื่องโดยเฉพาะ Entrepreneur Mindset ซึ่งที่สุดแล้วกลายเป็นหัวข้อสำคัญที่บริษัทฯอยากได้คนทำงานที่มีชิปแบบนี้ฝังอยู่ในหัว
ถ้าวันนี้คุณคิดจะก่อร่างสร้างธุรกิจ ขอให้ตอบ 3 คำถามที่เป็น Foundation สำหรับทุกธุรกิจในโลกนี้
📌 ลูกค้าของคุณเป็นใคร 📌
การทำธุรกิจคือการเอาเงินของคนอื่นมาใส่กระเป๋าของเรา คุณจึงต้องรู้ให้หมดว่าสินค้าหรือบริการที่จะขายนั้นเหมาะกับใคร คนเหล่านั้นอยู่ที่ไหน มีไซส์(หรือปริมาณ)มากพอที่จะ scale up ธุรกิจของคุณหรือไม่ คุณต้องรู้ลึกลงไปถึงพฤติกรรมของลูกค้าว่าชอบอะไร ใช้เวลาอยู่บน Digital Platform แบบไหน ปัญหา(Pain point) ของเขาที่สินค้าและบริการของคุณสามารถตอบโจทย์ชีวิตเขาได้ … ฯลฯ
หลายคนเริ่มต้นแบ่งกลุ่มลูกค้าด้วย Demographic ตามตำราการตลาด ซึ่งวันนี้ต้องลงรายละเอียดให้ลึกซึ้งขึ้น เช่น เรามุ่งเน้นหากลุ่มลูกค้าอายุ 50 ขึ้น เงินเดือน 6 หลักต้นๆ แต่ถ้ามองให้ชัด เราจะเห็นว่า คนกลุ่มอายุดังกล่าว ถ้าแยกเป็นคนทำงานออฟฟิศ เจ้าของธุรกิจ หรือข้าราชการ ย่อมมีความชอบและทัศนคติแตกต่างกัน พื้นที่ที่ใช้ชีวิต กิจกรรม ก็ไม่เหมือนกัน เช่น ลูกโตและแยกบ้านแล้ว ชอบยิงปืน ยังเที่ยวกลางคืน ไม่เที่ยวไทยแต่ไปต่างประเทศ อยู่ กทม หรือ ต่างจังหวัด ฯลฯ ทั้งหมดย่อมส่งผลให้คนกลุ่มอายุเท่าๆกันกลับมีไลฟ์สไตล์แตกต่างกัน
ทุกวันนี้กลุ่มลูกค้าแบ่งซอยเป็นกลุ่มเล็กกลุ่มน้อย เราต้องอ่านให้ขาดและอย่ามองข้าม เช่น คนรุ่น Baby boomer ในความคิดของคนรุ่นใหม่อาจจะดูเชย เข้าถึงยาก แต่อย่าลืมว่าคนกลุ่มนี้มีเงินเก็บ บริหารการใช้จ่ายจนลงตัว หลายคนไม่ต้องรับผิดชอบอะไรแล้ว คนกลุ่มนี้ถ้าชอบแล้วชอบเลยไม่เปลี่ยนใจง่าย และในความเป็นจริง Baby boomer จำนวนมากยังเที่ยว แต่งตัว ใช้เงินเพื่อความสุขของตัวเอง ดังนั้นถ้าคุณจะทำธุรกิจคุณต้องคิดคำตอบเรื่องลูกค้าของคุณว่าเป็นใคร ไลฟ์สไตล์เป็นอย่างไรให้แตก
ภาพจาก Google
📌 ทำไมลูกค้าเหล่านั้นต้องซื้อคุณ 📌
ทุกวันนี้ถ้าคุณคิดจะขายอาหารใน Grab หรือ Line Man ลูกค้าจะเห็นคู่แข่งของคุณนับหมื่นๆรายในแพลตฟอร์มเหล่านั้น แต่นี่คือคำถามสำคัญเพราะมันจะนำคุณไปสู่การสร้างธุรกิจที่ตอบโจทย์ของลูกค้าได้อย่างตรงเป้า มันจะช่วยให้คุณชัดเจนกับการสื่อสารแบรนด์ การสร้างมาตรฐานคุณภาพสินค้าและบริการ ตลอดจนการดูแลลูกค้า ฯลฯ ถ้าคุณตอบตัวเองได้ชัดในข้อนี้ ลูกค้าจะยอมจ่ายเงินให้คุณ แทนที่จะไปซื้อสินค้าแบบเดียวกันแต่เป็นยี้ห้ออื่น
จุดสำคัญของการสร้างจุดแข็ง จุดเด่นให้กับสินค้าและบริการนั้นอยู่ตรงที่ต้องตอบโจทย์ลูกค้าเป้าหมาย แก้ปัญหาให้เขาได้ หรือนำเสนอสิ่งที่ตอบสนองความฝันความต้องการของเขา ถ้าธุรกิจของคุณเริ่มต้นจากตรงนี้ย่อมมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็๋จสูง เช่น ธุรกิจแฟรนไชส์ร้านก๋วยเตี๋ยวที่มีเครือข่ายทั่วประเทศนับหมื่นแห่ง เขารู้ว่าคนทั่วไปต้องการหารายได้จึงหยิบความเป็นเจ้าของกิจการขึ้นมาขาย โดยจัดหาวัตถุดิบคุณภาพมาตรฐานเหมือนกันทั่วประเทศ และให้คำปรึกษาในเรื่องการขาย
จำไว้ว่า แค่การสร้างจุดเด่นด้วยสโลแกนติดหูนั้นไม่พอ ธุรกิจที่ดีต้องเริ่มจากมาตรฐานคุณภาพสินค้าและบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ คำว่าดีจนต้องบอกต่อยังใช้ได้แม้ในยุคดิจิตอล ถ้าเป็นเมื่อก่อนลูกค้าอาจบอกได้แค่คนในครอบครัว แต่กับยุคนี้ถ้ามีคนชื่นชอบสินค้าของคุณแค่ไม่กี่คนอาจจะทำให้คนทั้งประเทศรู้จักได้ไม่ยาก การจะรู้ว่าอะไรที่ตอบสนองเขาได้ คุณต้องหัดฟังเสียงของลูกค้า ออกแบบสินค้าและบริการที่เป็นธุรกิจของคุณจากตรงนั้น
📌 ตัวคุณ มีจุดอ่อนจุดแข็งที่มีผลต่อธุรกิจของคุณอย่างไร 📌
แม่ทัพที่แข็งแกร่งต้องตระหนักว่าตนเองมีข้อดีข้อด้อยอย่างไร ยอมรับให้ได้ว่าเราทุกคนมีจุดอ่อน มีทักษะที่ต้องพัฒนา ยิ่งเมื่อตัดสินใจทำธุรกิจแล้วจะปล่อยให้จุดอ่อนในตัวคุณมีอยู่ไปเรื่อยๆไม่ได้ โดยเฉพาะจุดอ่อนที่เป็นเรื่องพื้นฐานของธุรกิจ เช่น ความสามารถในการวิเคราะห์ ทักษะการขาย ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการตลาด การสื่อสาร การบริหารคน ความเข้าใจทางบัญชี ฯลฯ
แอดแนะนำนักศึกษาหรือคนทำงานหลายคนว่าให้นำเทคนิค SWOT ที่ใช้ในธุรกิจมาใช้วิเคราะห์ตัวเอง การทบทวนตัวเองด้วยสติจะทำให้เราพัฒนาขึ้น เห็นโอกาสมากขึ้น สามารถบริหารจัดการตัวเองได้ดีขึ้น (โดยเฉพาะการลบจุดอ่อน) แน่นอนว่าถ้าคุณดีขึ้น คุณสมบัติที่มีแต่จุดแข็งย่อมช่วยผลักดันธุรกิจให้มีโอกาสประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น หรือแม้แต่ช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาที่จี้จุดอ่อนเรา
อย่าคิดตื้นๆว่าอันไหนไม่รู้ก็จ้างเอา ที่ SMEs มากมายขาดทุนก็เพราะคิดแบบนี้
เช่น ผู้ประกอบการที่ขาดทักษะทางบัญชีและกลยุทธ์การเงินมักจ้างคนทำ โดยปล่อยให้เขาจัดการซึ่งส่วนใหญ่สุดท้ายถูกโกง ดังนั้นในฐานะคนทำธุรกิจอย่างน้อยคุณต้องรู้รายละเอียดในประเด็นสำคัญ ให้เวลากับการเสริมจุดแข็งละลายจุดอ่อน มันหมดยุคที่คิดแค่ใช้เงินสร้างความเป็นเจ้าคนนายคนแล้ว ในเมื่อธุรกิจยังต้องสร้างจุดเด่น ดังนั้นจุดแรกที่ต้องเด่นและดีต้องเป็นเจ้าของนั่นเอง
ภาพจาก thinkaboutwealth.com
📝 คำถาม 3 ข้อนี้ไม่เพียงเป็นพื้นฐานของคนทำธุรกิจ แต่ apply ใช้ได้กับการทำงานออฟฟิศ หรือแม้แต่อาชีพอย่างข้าราชการ(ถ้าใฝ่รู้และพัฒนาตนเอง) นอกจากถามตัวเอง 3 ข้อนี้แล้ว สุดท้ายควรรู้ไว้ด้วยว่า สำหรับการเริ่มต้นธุรกิจ, โอกาสที่จะเกิดความล้มเหลวนั้นมากกว่าความสำเร็จ พื้นฐานสำคัญของคนที่คิดทำธุรกิจจึงต้องมีคือ ความสามารถจัดการกับความล้มเหลว (Resilience) ซึ่งมีทั้งความอดทน วินัย Growth Mindset การมุ่งมั่น (Focus)กับธุรกิจว่าจะทำอย่างไรให้ดีขึ้นเมื่อเกิดปัญหา 📝
ลองตอบ 3 คำถามนี้ เพื่อไปถึงเป้าหมายกันครับ
- 7
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
