16 มิ.ย. 2021 เวลา 01:02 • หุ้น & เศรษฐกิจ
เราจะถือหุ้นนานถึงเมื่อไหร่ดี? Ep2
จาก Ep1 เรารู้จักกับการลงทุนระยะสั้นไปแล้ว ต่อมาพบกันระยะยาวและระยะกลางกันจ้า
สำหรับคนที่วางเเผนจะถือหุ้นนั้นระหว่างประมาณสามปีขึ้นไป เราจะขอจัดกลุ่มการลงทุนเเบบนี้อยู่ในการลงทุนระยะยาว
ระยะเวลา: คิดว่าจะถือตั้งมากกว่า 3 ปีขึ้นไป เเบบนี้เราว่าก็ยาวพอตัวจ้าา
ความต้องการใช้เงินก้อนนี้: เงินก้อนที่จะใช้ในการลงทุนประเถทนี้ ควรจะเป็นเงินที่เย็นมากก เพราะเป็นจำนวนเงินที่เราจะไม่ได้นำออกมาใช้เลยจนกว่าจะพอใจ
สิ่งที่ต้องศึกษา: การที่เราจะฝากเงินไว้กับใครนานๆ ก่อนอื่นเราต้องรู้จักเค้าให้ดีก่อน ดังนั้นสิ่งที่ต้องศึกษาสำหรับการลงทุนระยะยาวคือ ความสามารถในการเติบโตของธุรกิจ วิสัยทัศน์ของผู้บริหาร อาจจะดูผลการดำเนินงานในอดีตประกอบว่าที่ผ่านมา เมื่อบริษัทได้ตั้งเป้าหมายอะไรไว้ บริษัทสามารถบรรลุเป้าหมายนั้นได้หรือไม่ โดยราคาหุ้นต้องสมเหตุผลและไม่เหวี่ยงขึ้นๆลงๆในระยะยาว
โดยสิ่งเหล่านี้จะสะท้อนออกมายังงบการเงินของบริษัท เช่น การเติบโตดูจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ต่อไตรมาส ต่อปี ความเก่งในการบริหารต้นทุนที่เราสามารถดูได้จากรายจ่ายต้นทุนของบริษัทในงบการเงิน ดูความสามารถในการบริหารเงิน การใช้หนี้จากอัตราส่วนของรายได้ที่หาได้ต่อภาระหนี้สินที่มีอยู่ เป็นต้น เพราะฉะนั้นถ้าอยากลงทุนระยะยาวต้องมั่นใจว่าเราเข้าใจการดำเดินงานของธุรกิจนั้นๆได้อย่างลึกซึ้ง
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญสำหรับผู้ลงทุนระยะยาวคือรายได้เงินปันผล เพราะการถือยาวนั้นเราไม่ได้เงินจากส่วนต่างของราคาที่มาจากการขายหุ้นเป็นเวลาหลายปีเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีผลตอบแทนที่เราจะได้คือเงินปันผลระหว่างที่ถือหุ้นอยู่ด้วย สิ่งที่ต้องคำนวณด้วยก็คือผลตอบแทนจากเงินปันผล (คิดจากปันผลต่อหุ้น หาร ราคาต่อหุ้นที่เรามี) และทางที่ดีโดยอัตราผลตอบแทนที่ได้ก็ควรจะมากกว่าการที่เรานำเงินไปฝากธนาคาร (เพราะถ้าน้อยกว่า เราเอาเงินไปฝากไม่ดีกว่าเหรอ ไม่มีความเสี่ยงที่เงินจะลดลงจากผลต่างราคาด้วย)
สิ่งสุดท้ายที่สำคัญคือการทยอยสะสมหุ้นเพื่อจะได้เฉลี่ยต้นทุน ลดความเสี่ยงในการใช้เงินก้อนเพื่อซื้อหุ้นครั้งเดียว เพราะโดยปกติแล้วเราไม่สามารถทราบได้ว่าราคาที่ซื้อตอนนั้นเป็นราคาที่ดีที่ถูกที่สุดหรือไม่ และการซื้อแบบนี้ทำให้เรายังสามารถค่อยๆติดตามสถานการณ์ของบริษัทได้ตลอดอีกด้วย หนึ่งในวิธีการที่นิยมสำหรับการเฉลี่ยต้นทุนก็คือ DCA นั่นเอง (อยากรู้จัก DCA ไปอ่านได้นะ https://bit.ly/3uxeNFC)
ต้องอัพเดทข่าวหุ้นนั้นบ่อยขนาดไหน: สิ่งที่คนลงทุนระยะยามวมองก็คือการเติบโตของธุรกิจ ลองนึกภาพการทำธุรกิจ หากเป็นการผลิต ก็มีขั้นตอนมากมายตั้งแต่การทำการตลาด การหาลูกค้า การรับออเดอร์ การวางแผนการผลิต การขนส่ง การบำรุง ปรับปรุงระบบโรงงาน การขนส่งไปหาลูกค้า การรับชำระเงินจากลูกค้า ซึ่งกิจกรรมทั้งหมด กว่าจะออกมาเป็นรายได้และกำไรของบริษัทนั้นต้องใช้เวลา ไม่ใช่สิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ในชั่วข้ามคืน ดังนั้นการเช็คข่าวหุ้นทุกวันอาจจะไม่ตอบโจย์การลงทุนประเภทนี้ เพราะเป้าหมายของเราไม่ใช่การเก็งกำไรรายวัน แต่มาจากผลลัพธ์และความคาดหวังของนักลงทุนในช่วงเวลาหนึ่ง ความถี่ในการติดตามก็อาจจะเป็นรายปี รายไตรมาส (เพราะมีการออกงบการเงิน) รายเดือน หรือถี่ขึ้นหากมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ
Mindset ที่ต้องมีสำหรับวิธีนี้:
1) การขึ้นลงของหุ้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่จิตใจเราต้องไม่หวั่นไหวสำหรับการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในรายวัน (แต่ถ้าหากเปลี่ยนแปลงในทางลบนานๆติดกันก็ดูหน่อยจ้า)
2) อย่ายึดติดกับจำนวนปีในการลงทุน เช่น หุ้นตัวนี้จะไม่ขายเลย 3 ปี แต่ควรดูจากผลการดำเนินงานของธุรกิจเป็นหลักว่าในแต่ละไตรมาสในแต่ละปีมีการเปลี่ยนแปลงไปยังทิศทางใด
3) เรามองว่าธุรกิจนี้จะเป็นอย่างไรและเหมาะสมหรือไม่สำหรับถือระยะยาว เพราะถ้าเราไม่มั่นใจว่าธุรกิจนี้จะไปรอดไม่รอดในระยะยาวก็ไม่ควรเลือกหุ้นเเบบนี้เข้ามาในพอร์ตเรา
สำหรับคนที่เลือกไม่ถูกว่าจะลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาว งั้นลองมาดูการทุนระยะกลางเเล้วกัน
ระยะเวลา: ตั้งเเต่ 6 เดือน จนถึง 3 ปี หรือก็คือตรงกลางระหว่างสั้นกับยาวนั่นเอง
ความต้องการใช้เงินก้อนนี้: เช่นเดียวกันกับในทุกๆข้อที่ผ่านมา เงินที่เราเอามาลงทุนควรเป็นเงินเย็นจ้าา
สิ่งที่ต้องศึกษา: เราควรที่จะศึกษาส่วนผสมระหว่างระยะสั้นเเละยาว เริ่มจากการศึกษาข้อมูลธุรกิจว่าน่าสนใจหรือไม่ ถ้าน่าสนใจ เราค่อยไปดูกันว่าตอนนี้มี Signal ให้ซื้อหรือยัง หรือยังเป็นช่วงราคาตกอยู่
ต้องอัพเดทข่าวหุ้นนั้นบ่อยขนาดไหน: ถึงเเม้ว่าจะไม่ต้องเช็คข่าวถี่เท่าการซื้อขายระยะสั้น เเต่เราก็ควรเช็คข่าวสารถี่กว่าการถือระยะยาว เพราะอาจมีบางเหตุการณ์ที่อาจส่งผลต่อธุรกิจเเละราคาหุ้นนี้ในช่วง 6 เดือนถึงสามปีได้ เช่น การต้องปรับตัวจากการมีคู่เเข่งเพิ่มขึ้น หรือนโยบายรัฐระยะสั้นถึงกลางที่อาจส่งผลต่อธุรกิจของบริษัท เป็นต้น
Mindset ที่ต้องมีสำหรับวิธีนี้:
ผสมผสานระหว่าง Mindset ของการลงทุนระยะสั้นระยะยาว โดยพิจารณาว่าเรามองเห็นอะไรจากธุรกิจเเละ Signal จากราคาตลาดบ้าง ถ้าเราเห็นว่าการตกของราคาหุ้นที่เราสนใจเป็นเรื่องชั่วคราว เราอาจมีการซื้อเพิ่มเพื่อให้ต้นทุนเฉลี่ยต่อหุ้นเราถูกลง หรือเราอาจขายหากเห็นว่าตัวธุรกิจไม่ได้น่าสนใจขนาดนั้นและมีความเสี่ยงอยู่พอสมควร นอกจากนี้ยังเกิด Signal ราคาตกเเล้วด้วย
นี่คือหลักการคร่าวๆของการลงทุนเเต่ละรูปเเบบจ้า
ถ้าคุณคิดว่าระยะสั้น กลาง หรือยาวคือ Timeline ที่เหมาะสมกับคุณก็อย่าลืมศึกษารายละเอียดและการจัดการความเสี่ยงสำหรับเเต่ละรูปเเบบเพิ่มเติมนะ ถ้าอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมของวิธีการไหน คอมเม้นบอกเรากันได้เลยย~
โฆษณา