Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
no name
•
ติดตาม
14 มิ.ย. 2021 เวลา 03:00 • กีฬา
" เช็ก 2004 ยอดทีมที่ถูกลืม "
การจะประสบความสำเร็จในฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ในระดับเมเจอร์ สิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้คุณภาพฝีเท้า และแทคติก นั่นคือเรื่องของสภาพจิตใจ
ฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ น้อยครั้งมากที่ทีมที่ไปถึงแชมป์จะเล่นดีทุกนัดแบบพระเอกยิงยาวเข้าป้าย ส่วนใหญ่ต้องเจอสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันระหว่างทาง มันอยู่ที่จะรวมสติ กลับมาหาทางเอาตัวรอดจากสถานการณ์นั้นได้อย่างไร
หลายทีมทำไม่ได้ แม้จะมองดูแล้วว่าเป็นทีมที่มีขุมกำลังดีที่สุด มีโค้ชเก่งสุด หรือมีแท็คติกที่ยอดเยี่ยมก็ตาม
ขุนพล เดนมาร์ก ชุดแชมป์ยูโร 1992 บอกว่าพวกเขาไปเล่นทัวร์นาเมนต์โดยไม่มีความกดดัน และอีกหนึ่งในสิ่งที่เป็นจุดแข็งคือ หลายคนเล่นด้วยกันมาในระดับสโมสร และติดทีมชาติด้วยกันมาตั้งแต่ทีมเยาวชน มีสปิริตอันยอดเยี่ยม
นักเตะกรีซ ชุดปี 2004 เอง ก็เช่นกัน พวกเขาไปลุยโปรตุเกส แบบปราศจากความกดดันใดๆ ทั้งสิ้น และการชนะนัดแรกก็เหมือนปลดปล่อยความอึดอัดทั้งหมดทั้งปวงออกไป ที่เหลือพวกเขาเล่นไปตามแผนที่วางไว้ สนุกไปกับเกม
สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญมากๆ โดยเฉพาะเรื่องของการเอาชนะความกดดัน
เส้นทางสู่แชมป์ของกรีซ จริงๆ แล้วพวกเขาเอาชนะทีมที่มีสภาพจิตใจแข็งแกร่งสุดมาได้ พวกเขาเอาชนะมาได้ด้วยวิธีที่ไม่เปิดโอกาสให้คู่แข่งแก้ตัวอย่างพอดิบพอดี นั่นก็คือสาธารณรัฐเช็ก
เช็กแห่งยูโร 2004 คือหนึ่งในทีมที่น่าเกรงขามที่สุด ไม่มีทีมไหนยกมือแล้วบอกว่าอยากปะทะกับขุนพลจากกรุงปราก
ทีมของกุนซือ คาเรล บรูคเนอร์ ไม่ใช่ทีมที่มีสตาร์เกรด เอ เต็มทีม แต่นักเตะทุกตำแหน่งอยู่ในขั้นยอดเยี่ยมโดยเฉลี่ย แต่ก็มีแข้งระดับบัลลง ดอร์ เป็นหัวใจขับเคลื่อน นั่นคือ พาเวล เนดเวด กัปตันทีม
คาเรล บรูคเนอร์ ขณะนั้นวัย 64 ปี ก่อนเข้ามาคุมทีมชาติชุดใหญ่ เขาเคยเป็นเทรนเนอร์ให้กับทีมชาติชุดเยาวชน ผลงานน่าประทับใจคือนำเช็ก เป็นรองแชมป์ ยุโรป ในรุ่น ยู-21 ปี เมื่อปี 2000 โดยในนัดชิงชนะเลิศ เช็ก แพ้ให้กับอิตาลี ที่นำโดย อันเดรีย ปีร์โล่ ไป 1-2 อย่างน่าเสียดาย
อย่างไรก็ตาม นักเตะเช็ก ยู-21 ในปี 2000 ก็เติบโตขึ้นมากลายเป็นแข้งชุดลุย ยูโร 2004 มากมายหลายคน
ไม่ว่าจะเป็น ซเดเน็ก กรีเกร่า, มาเร็ค แยนคูลอฟสกี้, โทมัส อูฟาลูซี่, โรมัน ทีเซ่, มิลาน บารอส และ มาเร็ค ไฮน์ซ
นอกจากเด็กๆ ที่ บรูคเนอร์ คุ้นเคยเหล่านี้แล้ว เช็กยังมีนักเตะรุ่นใหม่เปี่ยมพรสวรรค์ เช่น ปีเตอร์ เช็ก, โทมัส ฮุบช์มัน, โทมัส โรซิชกี้, ยาโรสลาฟ ปลาซิล
ส่วนตัวประสบการณ์ ก็นำโดย 3 ขุนพลที่เคยพาเช็ก เป็นถึงรองแชมป์มาแล้วใน ยูโร 96 ที่อังกฤษ ประกอบด้วย พาเวล เนดเวด, คาเรล โพบอร์สกี้ และ วลาดิเมียร์ ชมิเซอร์
ผสมผสานกับ เรเน่ โบล์ฟ, โทมัส กาลาเซ็ค, ยาน โคลเลอร์ และ วลาติสลาฟ ลอคเวนซ์ ที่ผ่านประสบการณ์มาเพียบ
ฟุตบอลของเช็ก แต่ไหนแต่มาแล้วเน้นทีมเวิร์ค ไม่ได้อ้างอิงที่สตาร์คนใดคนหนึ่ง แม้จะมีพวกแข้งพรสวรรค์ในทีม ทุกคนทำงานหนัก พละกำลังเยี่ยมยอด และใจสู้
บอลของเช็กจะดุดันแข็งแกร่ง มีลูกหนัก อาวุธการเข้าทำจะไม่เน้นการทำกันไม่กี่จังหวะ ไม่ต้องลีลาเยอะ แต่อันตรายทั้งลูกภาคพื้น และลูกโด่ง ที่พวกเขามักมีกองหน้ารูปร่างสูงใหญ่อยู่ในทีมเสมอ ตั้งแต่ ยาน โคลเลอร์ กับ วลาติสลาฟ ลอคเวนซ์ จนมาถึงทีมชุด ยูโร 2020 นี่อย่าง พาทริค ชิค และ มิชาเอล เคอร์เมนชิค
จริงๆ แล้วงานในรอบแบ่งกลุ่ม ยูโร 2004 ของเช็กไม่ง่ายเลย เพราะแม้จะมี ลัตเวีย ทีมน้องใหม่ที่อ่อนชั้นกว่าใครเพื่อน แต่อีก 2 ทีมคือ เยอรมัน และฮอลแลนด์ สองมหาอำนาจ
บททดสอบของเช็ก เริ่มต้นตั้งแต่เกมแรก ทั้งที่มันควรเป็นเกมที่ง่ายสุด นั่นคือเจอกับลัตเวีย
ทว่าพวกเขากลับโดนทีมน้องใหม่ออกนำไปก่อน 1-0 จากมาริส เวอร์ปาคอฟสกี้ส์ ตัวจี๊ดประจำทีมลัตเวีย แต่เช็ก ก็นิ่งพอที่จะกลับมาคว้า 3 คะแนน ด้วยประตูตีเสมอของ มิลาน บารอส และประตูชัยของ มาเร็ค ไฮน์ซ ในช่วง 5 นาทีสุดท้าย
1
เกมที่ 2 อีกเช่นกันที่เช็ก ต้องฝ่าอุปสรรค จากการที่เจอกับฮอลแลนด์ มันเป็นเกมที่สนุกตื่นเต้นแบบสุดๆ เพราะโอกาสทำประตูมากมายทั้งสองฝั่ง
ฮอลแลนด์ นำไปก่อน 2-0 ภายในไม่ถึง 20 นาทีแรกของเกมจาก วิลเฟร็ด บูม่า และ รุด ฟาน นิสเตลรอย แต่ ยาน โคลเลอร์ และ มิลาน บารอส ก็ตามตีเสมอ 2-2 ได้สำเร็จ
กระทั่งเวลาเหลือ 2 นาทีสุดท้าย คาเรล โพบอร์สกี้ ก็หลุดไปเปิดให้ วลาดิเมียร์ ชมิเซอร์ ชาร์จจ่อๆ ไม่เหลือ ทำให้เช็ก แซงชนะ 3-2
อีกเช่นกัน เมื่อถึงเกมสุดท้าย เช็ก เจอกับเยอรมัน รองแชมป์โลกเมื่อ 2 ปีก่อนหน้านั้น และเป็นทีมที่หักอกพวกเขาในยูโร 96 แต่ตอนนั้น เช็ก เข้ารอบไปเรียบร้อยแล้ว
มิชาเอล บัลลัค พาทีมอินทรีเหล็กออกนำเช็กไปก่อน แต่ลูกทีมของ คาเรล บรูคเนอร์ มีสภาพจิตใจที่ยอดเยี่ยม พวกเขาผ่านการโดนนำ แล้วแซงชนะมาตลอด 2 เกมแรก พวกเขามั่นใจว่าจะกลับมาได้
แล้วเช็ก ก็ทำได้จริงๆ ทั้งๆ ที่พวกเขาเล่นโดยใช้ชุดสำรองเพราะเข้ารอบไปแล้ว แต่ก็ยังอุตส่าห์แซงชนะเยอรมัน 2-1 จาก มาเร็ค ไฮน์ซ และ บารอส ที่ลงมาเป็นสำรอง นอกจากทำให้พวกเขาผ่านเข้ารอบด้วยสถิติชนะรวด ยังเป็นการเขี่ยเยอรมันตกรอบไปอย่างสุดสะใจ
ถึงตรงนี้ เช็ก ประกาศให้ทุกทีมที่เหลือยูโร รู้ว่าพวกเขาคือทีมที่แข็งแกร่ง ไม่มีใครอยากเจอกับพวกเขาก่อนเวลาอันควร
1
ด้วยเส้นทางที่วางเอาไว้แล้ว สายบน ประกอบด้วย โปรตุเกส, อังกฤษ, สวีเดน และฮอลแลนด์ ทีมรวมกลุ่มในรอบแรก หากจะเจอทีมเหล่านี้ ก็คือนัดชิงชนะเลิศเลย
ส่วนสายล่าง เช็ก จะเข้าไปเจอกับเดนมาร์กก่อน จากนั้น จะผ่านเข้าไปตัดเชือกกับผู้ชนะระหว่าง ฝรั่งเศส กับกรีซ อีกหนึ่งทีมจอมเซอร์ไพรส์ ในแบบ Real time ตอนนั้น
ไม่มีปัญหา เช็ก สอนบอลเดนมาร์กไป 3-0 เป็นครั้งแรกของยูโร หนนี้ที่พวกเขาไม่โดนยิงก่อน และไม่เสียประตู ยาน โคลเลอร์ และอีก 2 ประตูของ มิลาน บารอส ส่งให้พวกเขาเข้าไปตัดเชือก
แต่มันไม่ใช่ฝรั่งเศส ทว่าเป็น กรีซ ที่เป็นด่านต่อไปของพวกเขา
สายบน โปรตุเกสเจอฮอลแลนด์ เท่ากับว่านาทีนั้น เช็ก มองถึงแชมป์ได้เลย สื่อและนักวิเคราะห์ต่างประเทศ ยกให้เช็ก ไม่เป็นรองทีมไหนทั้งนั้น
ทุกคนเชื่อว่า พวกเขาจะหยุดปาฏิหาริย์ของกรีซ ได้เสียที เพราะ เช็ก มีบางอย่างที่คู่แข่งก่อนหน้านี้ของของ กรีซ ไม่มี นั่นคือความเชื่อมั่นที่เต็มเปี่ยม สภาพจิตใจแข็งแกร่งมากๆ อีกทั้ง พวกเขายังมีลูกหนัก ที่สามารถบดบี้กับบอลทรงใช้ร่างกายแบบกรีซ ได้เป็นอย่างดี
แต่ก็อย่างที่รู้ว่าสุดท้ายแล้ว มันดันเป็นเกมที่ กรีซ มีทุกอย่างเข้าข้าง ถูกเวลา เหมาะเจาะที่สุด
พาเวล เนดเวด จอมทัพกัปตันทีมเจ็บในจังหวะพยายามเข้ายิงประตูแล้วปะทะกับกองหลังกรีซ เขาเล่นต่อไม่ไหวต้องเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 40
อันโตนิส นิโคโปลิดิส นายด่านของกรีซ ก็เซฟอย่างไม่เคยเซฟมาก่อน จบ 90 นาทีทำอะไรกันไม่ได้ ต้องไปว่ากันที่ช่วงต่อเวลาพิเศษ
แม้โลกลูกหนังจะยกเลิกกฏ "โกลเด้น โกล์" ไปแล้ว แต่หันมาใช้ "ซิลเวอร์ โกล" แทน
หมายความว่า หากคุณโดนยิงในช่วงต่อเวลาพิเศษ จะยังไม่แพ้ในทันที แต่จะได้โอกาสจนจบครึ่ง หากตีเสมอไม่ได้ จึงจะแพ้
เช็ก ไม่มีลนลาน พวกเขาเดินหน้าเหมือนเครื่องจักร และครึ่งเวลาแรกของการต่อเวลาพิเศษ ก็ดำเนินมาถึงจังหวะสุดท้าย เพลย์สุดท้าย นั่นคือกรีซ ได้ลูกเตะมุม วาซิริส ซาตาส เปิดเข้าไปให้ ตรายานอส เดลลาส โหม่งตุงตาข่าย
มันกลายเป็นประตูชัยทันที เพราะตามกฎซิลเวอร์โกล เมื่อหมดเวลาครึ่งนั้น หากตีเสมอไม่ได้จะแพ้ ซึ่งประตูนี้เกิดขึ้นในเพลย์สุดท้ายพอดี ไม่มีเวลาแม้แต่นิดเดียวให้ เช็ก ได้แก้ตัว เขี่ยบอลก็จบเกมทันที
มันเป็นครั้งแรกในทัวร์นาเมนต์นั้นที่เราเห็นขุนพลเช็ก ทรุดอยู่ในสภาพที่หมดอาลัยตายอยาก พวกเขาหมดพลังเพราะไม่เหลือโอกาสให้พวกเขาแล้ว
หลายคนยังคงเชื่อว่าหากในยูโร 2004 กลับมาใช้กฎการต่อเวลาครบ 30 นาทีแบบปกติ อย่างที่กลับมาเป็นในทุกวันนี้ เช็ก จะกลับมาตีเสมอได้เป็นอย่างน้อย ในช่วงครึ่งหลังของการต่อเวลาพิเศษ
บางทีเทพนิยายของกรีซ ก็อาจไม่เกิดขึ้น แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่เรื่อง "what if..." เท่านั้น
เช็ก แพ้ให้กับกรีซ ไม่ใช่ด้วยเรื่องของขุมกำลัง แท็คติก หรือสภาพจิตใจ พวกเขาแพ้ด้วยจังหวะจริงๆ เพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น
ยูโร 2004 คือสาธารณรัฐเช็ก ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เราเคยเห็น เพราะหลังจากนั้น ตัวหลักหลายรายเริ่มโรย อำลาทีมไป บวกกับการก้าวลงจากตำแหน่งของ คาเรล บรู้คเนอร์ ในปี 2008 เช็กก็ต้องกลับมาสร้างทีมกันใหม่อีกครั้ง
ยูโร 2020 เช็ก ก็ได้เข้าร่วมเหมือนเคย พวกเขาอยู่ร่วมกลุ่มกับ อังกฤษ, โครเอเชีย และสก็อตแลนด์ แม้จะโดนมองว่าเป็นรอง แต่เชื่อว่า ไม่มีทีมไหนประมาทพลังของเช็กแน่
บางที่พวกเขาอาจจะทำได้อย่างที่เคยทำไว้เมื่อ 17 ปีก่อน สร้างเซอร์ไพรส์และทำให้ทุกคนเกรงขามพวกเขาอีกครั้ง อย่างน้อยมันจะเป็นสีสันของฟุตบอลยูโร ทัวร์นาเมนต์ที่มักมีเรื่องให้เราได้ประหลาดใจอยู่เสมอ
สามารถติดตามคลิปได้ที่นี่ครับ ::
http://ow.ly/6SyT30rKsUq
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
www.cheerball.com/news/talk
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
Line :
https://line.me/R/ti/p/@cheerballth
Facebook :
www.facebook.com/cheerball
Twitter :
www.twitter.com/cheerballth
Website :
www.cheerball.com
Youtube :
www.youtube.com/cheerballth
ขอบคุณครับ
1 บันทึก
10
1
10
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย