15 มิ.ย. 2021 เวลา 01:08 • ข่าว
IMAN Camera นักดำน้ำเผยภาพอวนถล่มครอบแนวปะการัง ที่เกาะโลซิน จ.ปัตตานี อันตรายต่อระบบนิเวศทะเล รมว.ท็อปเดือดสั่งเอาออก และดำเนินคดี ด้านผศ.ดร.ธรณ์ชี้ 3 ประเด็นแก้ไขปัญหา
วันที่ 14 มิถุนายน 2564 IMAN Camera นักดำน้ำถ่ายภาพท้องทะเลได้เผยภาพการสำรวจบริเวณ เกาะโลซิน จ.ปัตตานี ที่ถ่ายได้เมื่อวันที่ 11-13 มิถุนายน 2564 โดยภาพเผยให้เห็นอวนประมงขนาดใหญ่ทับปกคลุมปะการัง ซึ่งเป็นอันตรายต่อระบบนิเวศในทะเล และได้ฝากเรื่องนี้ถึงนา วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
หลังจากนั้นทางด้าน นายวราวุธ ศิลปอาชา ได้เข้ามาแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ โดยได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการเอาออก และชี้ว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
"เสียใจและเสียดายที่คนทิ้งไม่มีสำนึกครับ ผมได้ขอให้ทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเร่งดำเนินการเอาออกแล้วครับ ใครพบเห็นการกระทำผิดเช่นนี้ขอให้แจ้งมานะครับ ผมจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด วันใดที่ทะเลไทยไม่เหลืออะไรแล้วคนพวกนี้ถึงจะรู้สำนึกได้ว่าได้ทุบหม้อข้าวตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว" ท่านรัฐมนตรีกล่าว
ขณะที่ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล และรองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ได้แสดงความเห็นถึงเรื่องดังกล่าว และเผยถึงการแก้ไขปัญหา 3 ประเด็น โดยมีข้อความบางส่วนดังนี้
"คณะนักดำน้ำออกไปสำรวจเกาะโลซิน สิ่งที่พวกเขาเจอคืออวนผืนยักษ์ครอบแนวปะการัง เกาะโลซิน จังหวัดปัตตานี เป็นเกาะไกลฝั่งสุดของอ่าวไทย มีเพียงหินโผล่พ้นน้ำเล็กนิดเดียว แต่ใต้น้ำเป็นแนวปะการังกว้างใหญ่ เป็นที่อยู่ของปลาหลายชนิดที่ไม่พบในที่อื่นของอ่าวไทย ยังเป็นที่อยู่ของปลานกแก้วหัวโหนก ปลานกแก้วพันธุ์ใหญ่ที่สุดและหายากมากในทะเลไทย ไม่ต้องพูดถึงฉลามวาฬ แมนต้า กระเบนนก ฯลฯ ที่แวะเวียนมาประจำ
ในอดีตที่ผ่านมา เคยมีเหตุการณ์อวนถล่มเป็นระยะ รวมถึงร่องรอยระเบิดปลา จากแรงผลักดันของทุกฝ่าย ทำให้เกาะโลซินถูกประกาศเป็นพื้นที่คุ้มครองทางทะเล ผ่านคณะรัฐมนตรีแล้ว แต่ปัญหาโลซินยังไม่หมด ภาพอวนที่เพื่อนๆ นักดำน้ำพบในวันที่ 11-13 มิถุนายน คงเป็นหลักฐานได้ดี
ต่อจากนี้ มี 3 ประเด็นหลัก อย่างแรกคือรีบเอาอวนออกให้เร็วที่สุด เพื่อที่ปะการังจะไม่ตาย ปลาจะไม่ติดมากไปกว่านี้ เรื่องนั้นทำได้ทันที และคิดว่ากรมทะเล/เครือข่ายอาสาสมัคร คงรีบดำเนินการไว้ ณ ที่นี้ครับ
อย่างสองคือการตามหาผู้กระทำผิดดูจากสภาพปะการังที่เสียหาย คิดว่าเกิดได้ไม่นานในหลักเดือน หลังจากหลุด IUU ประเทศไทยมีระบบ VMS ติดตามเรือประมง และยังมีระบบอื่นๆ การตรวจสอบย้อนหลังน่าจะพอทำได้บ้าง จะเจอไม่เจอ อย่างน้อยก็ควรตรวจ หากพบผู้กระทำผิด จะได้ดำเนินการ หากพบปัญหาของระบบ จะได้แก้ไขอุดรอยรั่ว
อย่างสามคือแล้วเราจะทำยังไงต่อไป ? ตั้งแต่สมัยนำเสนอพื้นที่คุ้มครอง พวกเราคุยกันว่า จะดูแลได้ไหม ? เพราะโลซินอยู่ไกลฝั่งสุดๆ บนเกาะคนอยู่ไม่ได้ ต้องเอาเรือไปลอยลำเฝ้าตลอด ซึ่งก็คงเป็นไปไม่ได้เหมือนกัน แต่จะรอให้พร้อมทุกอย่าง แล้วเมื่อไหร่ ? การประกาศจึงน่าจะช่วยยกระดับการเฝ้าระวังดูแล โดยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย แต่เมื่อโควิดมา เศรษฐกิจชะงัก งบประมาณถูกตัด ทำให้ความหวังริบหรี่ จึงอยากเน้นย้ำอีกครั้ง ทะเลสำคัญมากในยุคนี้ เราจำเป็นต้องดูแลทะเลให้มากกว่านี้ ท่ามกลางการจับจ้องของชาวโลก
3
G7 เพิ่งประกาศว่า 30% ของมหาสมุทรต้องได้รับการดูแลภายใน 2030 ยังจัดตั้งกองทุน Blue Planet เพื่อสนับสนุนโดยเฉพาะ ความสูญเสียด้านระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพเป็น 1 ใน 2 ประเด็นหลักที่ G7 พูดถึงอเมริกามี MMPA กำลังจะลุยผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำส่งออก ฯลฯ ที่โลกกำลังคุมเข้มเรื่องการจับสัตว์น้ำแบบทำลายทรัพยากร ภาพอวนถล่มโลซิน คงไม่ส่งผลดีกับจุดยืนของประเทศไทยอย่างแน่นอน ยังรวมถึง Green Tourism ที่เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ BCG ของรัฐบาล
ผมเชื่อมั่นว่าเราพอจะดูแลพื้นที่และเกาะชายฝั่งเราได้บ้าง แต่พื้นที่ห่างฝั่งเป็นปัญหามาตลอด การแก้ปัญหาด้วยวิธีเดิมๆ ที่พิสูจน์แล้วว่า มันก็เกิดเหตุการณ์แบบเดิมๆ ทุกปี มันจึงถึงเวลาที่เราควรต้องหาทางฝ่าวังวนนี้ออกไป ด้วยการยกระดับทำเป็นงานเฉพาะกิจ ดูแลกองหินและเกาะห่างฝั่งของไทย ปรับแนวคิด ปั้นทีมงาน ของบส่วนกลาง เพื่อเริ่มต้นทำอะไรสักอย่าง ก่อนที่โลกจะต่อว่าเรามากไปกว่านี้ ไม่ง่ายและไม่ถูก แต่ความสูญเสียจากทำลายมากมายกว่าเยอะ ทั้งระบบนิเวศ ทั้งภาพลักษณ์ประมงที่ดี ท่องเที่ยวสีเขียว และทั้งความหวังและความรู้สึกของคนรักทะเล
ให้กำลังใจท่านรัฐมนตรีและกรมทะเลฯ ทราบดีว่าปัญหาหนักหนา ขณะที่งบประมาณถูกปรับลด แต่เรายังพอมีหวัง หากเราตั้งใจจริง ฝ่าด่านนี้ด้วยแนวคิดใหม่ๆ การกระทำใหม่ๆ เพื่อดิ้นให้หลัดจากวังวน 'อวนถล่มโลซิน' สักทีครับ"
แหล่งที่มา :
1. ภาพและข้อมูล - https://www.facebook.com/imancamera/posts/1903227749854399/
โฆษณา