วัคซีนเข็มที่ 2 ต้องรออีกนานแค่ไหน?
นอกจากกลุ่มเสี่ยงอย่างบุคลากรด่านหน้าของสาธารณสุข พี่น้องชาวภูเก็ตและคนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูงมาก ๆ ที่อาจได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มไปแล้วตามหลักวิชาการ ส่วนใหญ่ก็เป็นวัคซีนซิโนแวค (SV) ที่เข้ามากู้สถานการณ์เฉพาะหน้าหลังระบาดระลอก 3
แต่ตอนนี้ซึ่งเป็นเดือนที่ cick off ปูพรมฉีดวัคซีนทั่วประเทศและวัคซีนหลักที่ได้ใช้ก็จะเป็นแอสตร้าเซเนกา (AZ) กลับพบข้อแตกต่างประการหนึ่งนั่นคือ "ไม่มีกำหนดรับวัคซีนเข็ม 2 ที่ชัดเจน"
ตามหลักวิชาการแล้วในช่วงแรกที่เราทราบกันดี ระยะห่างระหว่างการฉีดเข็มแรกกับเข็มสองนั้นอยู่ที่ 4 สัปดาห์ แต่ล่าสุดมีการปรับเป็น 16 สัปดาห์หรือ 4 เดือนไปแล้ว!
แน่นอนครับว่ามันเกี่ยวเนื่องกับการบริหารทรัพยากร เพราะวัคซีนที่เราได้รับนั้นไม่เป็นไปตามแผนสักเท่าไหร่จึงจำเป็นต้องปรับแผนจัดลำดับความสำคัญใหม่ซึ่งดันไปสอดคล้องกับการศึกษาในสกอตแลนด์ที่พบว่าเข็มแรกของแอสตร้าฯ มีประสิทธิภาพ ถึง 80% ขณะที่เข็มที่ 2 จะเพิ่มประสิทธิภาพเป็นกว่า 90% (ขึ้นมาไม่เยอะถ้าเทียบเข็มแรก)
รัฐจึงมองว่าปูพรมเข็มแรกให้มากที่สุด แล้วค่อยเติมเข็ม 2 น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า ในการควบคุมการระบาดของโรคซึ่งอังกฤษเคยทำไว้เป็นแบบอย่างแล้วในเรื่องนี้เพราะวัคซีนไม่พอ จึงปูพรมฉีดเข็มแรกก่อนแล้วเว้นไว้ 16 สัปดาห์จึงค่อยฉีดเข็มที่ 2 ครับ
เท่านั้นยังไม่พอครับ การถ่างระยะห่างออกไปนอกจากภูมิจะขึ้นเยอะกว่าแล้ว นั่นหมายถึงการที่ภูมิจะอยู่ในร่างกายเราได้นานกว่าด้วยนั่นเอง
สรุปว่ารัฐจะฉีดเข็มแรกให้มากที่สุดก่อนเพื่อควบคุมสถานการณ์ จากนั้นค่อยฉีดเข็มสองเพื่อยกภูมิและทำให้อยู่ได้นานขึ้นเพื่อรับมือกับแนวโน้มการระบาดขาขึ้นในประเทศนั่นเองครับ
เรียบเรียงจากบทความของศ.นพ.ยง ภู่วรวรรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
กลับมาที่ใบบันทึกการรับวัคซีนที่ยังไม่มีวันนัดที่ชัดเจนที่ผมและหลายคนคงได้รับไม่ต่างกัน พยาบาลแจ้งว่ารอวันนัดอีกครั้งทาง sms นะคะ ถ้าผมเอาข้อมูลข้างต้นมาคิดคร่าว ๆ กว่าจะได้ฉีดอีกครั้งก็ 4 เดือนถัดไป กลางเดือนตุลาคมอาจจะได้เข็มที่สองครับ เข้าไตรมาสสุดท้ายของปีที่หวังว่าจะได้เปิดประเทศและฟื้นเศรษฐกิจกันอีกครั้ง
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
