16 มิ.ย. 2021 เวลา 10:33 • หุ้น & เศรษฐกิจ
Exact Sciences Corporation (Nasdaq: EXAS) ผู้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีพัฒนา Screening Test ตรวจหามะเร็งอันดับต้นๆ ของโลก โดยโฟกัสไปที่การตรวจหามะเร็งในระยะเริ่มแรก ก่อนที่จะมีการแพร่กระจาย ซึ่งถือเป็นหัวใจของการลดอัตราการตายจากโรคมะเร็ง โอกาสรักษาหายสูง โดยใช้ค่าใช้จ่ายที่ต่ำ บริษัทมีเป้าหมายเพื่อจะกำจัดมะเร็งให้สิ้นซาก
บริษัทมีผลิตภัณฑ์เด่น 2 อย่าง คือ Cologuard® และ Oncotype DX®
1. Cologuard® -- สกรีนเทสใช้ตรวจมะเร็งลำไส้
Cologuard® Test เป็นการตรวจหามะเร็งโดยใช้อุจจาระ โดยจะตรวจดูจากการเปลี่ยนแปลงของ DNA และฮีโมโกลบินในเลือด ซึ่งเป็นตัวชี้วัดทางชีวภาพที่มีประสิทธิภาพในการแยกเซลล์ที่เป็นมะเร็งกับไม่เป็นออกจากกัน
มะเร็งลำไส้เป็นมะเร็งที่เป็นสาเหตุของการตายอันดับ 2 ในสหรัฐ
มีผู้ป่วยใหม่ที่เป็นมะเร็งลำไส้ถึง 148,000 คนต่อปี
และมีคนตายถึง 53,000 คนต่อปีจากโรคนี้
หากเราตรวจเจอในระยะที่ 1 จะมีอัตราการรอดสูงถึง 90% เลยทีเดียว
ข้อดีของการตรวจ Cologuard® คือ สะดวก รวดเร็ว ซื้อมาทดสอบที่บ้านได้ และ ไม่เจ็บตัว ถ้าอยู่ในระบบประกันสุขภาพในสหรัฐการตรวจก็จะฟรี แต่ถ้าไม่ชุดตรวจก็จะราคาอยู่ที่ ราว 500 เหรียญ ตรวจซ้ำทุก 3 ปี มีความแม่นยำสูงถึง 92%
Cologuard® มี Market Share ที่ 5.4% ของตลาดการตรวจมะเร็งลำไส้ในสหรัฐ และยังได้รับการแนะนำจาก United States Preventive Services Task Force ให้คนที่มีอายุตั้ง 45 ปีขึ้นไปได้รับการตรวจ
ซึ่งมีคนตรวจไปแล้วราว 2,000,000 คน คิดเป็นแค่ 2% ของผู้มีความเสี่ยงทั้งหมดเท่านั้นเอง (ประชากรอายุ 45-85 ปีขึ้นไป มีประมาณ 110 ล้านคนในสหรัฐ) ซึ่งทำให้ขนาดตลาดสำหรับการตรวจมะเร็งลำไส้อยู่ที่ 19,000 ล้านเหรียญ
บริษัทตั้งเป้าว่าภายใน 1-2ปี Market Share จะมีถึง 40% ซึ่งนั่นจะทำให้รายได้ของบริษัทเติบโตได้อีกมหาศาล
Cologuard® ได้รับการยอมรับให้เป็น National Guideline จาก The American Cancer Society (ACS) มีผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพถึง 227,000 แห่งใช้ Cologuard® ในการตรวจหามะเร็งลำไส้
และยังถือว่าเป็นเทสแรกและเทสเดียว ที่ใช้อุจจาระในการตรวจที่ได้รับการรับรองจาก FDA และขายในเชิงพาณิชย์ได้
2. Oncotype DX®
แพลตฟอร์มที่ให้บริการในการตรวจจีโนมจากเนื้อเยื่อและของเหลวเพื่อดูการก่อตัว การแพร่กระจายของมะเร็ง โดยให้ข้อมูลและแนวทางการรักษาเป็นรายบุคคล ซึ่งจะแปลผลออกมาเป็นคะแนนความเสี่ยง (Risk Score) ตั้งแต่ 1-100% โดยที่ตัวเลขยิ่งน้อย ความเสี่ยงในการแพร่กระจายก็ยิ่งน้อยตาม
แพทย์จะแนะนำให้ตรวจเพื่อดูความน่าจะเป็นของการแพร่กระจาย เช่น ถ้า Risk Score น้อยอาจเลือกใช้เป็นแนวทางอื่นในการรักษาแทนการให้ยาคีโม วิธีนี้ตรวจหาการแพร่กระจายได้ทั้งมะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งลำไส้ และ มะเร็งตับ
การตรวจมะเร็งเต้านมโดย Oncotype DX® ถือว่าเป็น Flagship Product ในส่วนนี้เลย ได้รับการยอมรับเป็นแนวทางปฏิบัติสากล สามารถตรวจได้ใน 90 กว่าประเทศ รวมทั้งในประเทศไทยด้วย ค่าตรวจก็สูงเอาการอยู่ ราว 120,000 บาท เท่านั้นเอง
Oncotype DX® เป็นผลิตภัณฑ์ที่ Exact ได้มาจากการซื้อบริษัท Genomic Health ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการเปิดประตูเข้าสู่ตลาดต่างประเทศแล้ว Oncotype DX® ยังถือว่าเป็นส่วนที่ทำกำไรได้สูง และสร้างกระแสเงินสดให้บริษัทได้ดีอีกด้วย
.
.
✨ในส่วนของรายได้ของบริษัท ได้มาจาก 3 ทาง คือ
Cologuard® -- 55%
Oncotype DX® -- 30%
และ COVID-19 -- 16%
.
.
ปี 2018 – รายได้ 454 ล้านเหรียญ
ปี 2019 – รายได้ 876 ล้านเหรียญ โตขึ้น 93%
ปี 2020 – รายได้ 1,490 ล้านเหรียญ โตขึ้น 70%
ในปี 2020 ด้วยสถานการณ์โควิด ทำให้กระทบรายได้ของบริษัทอย่างมาก ส่วน Screening Test ไม่โตเลย ที่ดูเหมือนรายได้รวมโตขึ้นมาจากส่วน Oncotype DX® ที่มาจากการซื้อกิจการอื่นเข้ามา
.
✨แน่นอนว่า....บริษัทขาดทุน
ปี 2018 – ขาดทุน 175 ล้านเหรียญ
ปี 2019 – ขาดทุน 84 ล้านเหรียญ
ปี 2020 – ขาดทุน 849 ล้านเหรียญ
.
✨บริษัทเริ่มมี Operating Cash Flow ที่ดีขึ้น เป็นบวกได้ในปีแรก
ปี 2018 – ลบ 68 ล้านเหรียญ
ปี 2019 – ลบ 112 ล้านเหรียญ
ปี 2020 – บวก 136 ล้านเหรียญ
.
😁จุดเด่นของ EXACT บริษัทเริ่มต้นจากการเป็นผู้เชี่ยวชาญแค่การตรวจมะเร็งลำไส้และก็ทำได้ดี มีผลิตภัณฑ์ที่ดีเยี่ยมอย่าง Cologuard® ที่ถือว่ายังไม่มีเจ้าไหนทำได้ หลังจากนั้นบริษัทก็เริ่มไล่ซื้อกิจการอื่นๆเข้ามาประกอบพอร์ตโฟลิโอเพื่อต่อยอดธุรกิจและแชร์ความรู้ข้ามกัน เริ่มจากซื้อ
Biomatrica บริษัทพัฒนาอุปกรณ์น้ำยาในการเก็บตัวอย่าง DNA และ RNA และให้บริการ Biobanking รับฝากเพื่อการเก็บตัวอย่างที่คงคุณภาพสูงสุด
Genomic Health ผู้นำในการตรวจหามะเร็งจากจีโนม และมีแพลตฟอร์ม
Oncotype IQ® ที่กลายมาเป็นรายได้หลักอีกทางให้บริษัท
Viomics เชี่ยวชาญในการตรวจหามะเร็งปอดจากการตรวจเลือด สามารถตรวจเจอได้ตั้งแต่ระยะแรกๆของมะเร็งเลย
Paradigm Diagnostics ให้บริการตรวจจีโนมโดย Next-Gen Sequencing (NGS) โดยสามารถให้รายละเอียดเชิงลึกในการรักษามะเร็งเฉพาะบุคคลได้ โดยเฉพาะคนที่เป็นมะเร็งในระยะท้ายๆแล้ว
Base Genomics บริษัทผู้นำนวัตกรรม Epigenetics และการวิเคราะห์ DNA Methylation ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่ใช้วัดในการตรวจหามะเร็งได้ ซึ่งบริษัททำได้เหนือชั้นกว่าแบบมาตรฐานที่ใช้กันอยู่ สามารถช่วยในการตรวจจับหามะเร็งได้แม่นยำ รวดเร็ว ได้แต่ระยะแรก ซึ่ง Exact คาดว่าจะเอามาช่วยพัฒนา Cologuard® ให้มีความถูกต้อง แม่นยำ มากขึ้นได้
Exclusive License of TARDIS Technology เป็นเทคโนโลยีที่สามารถตรวจหาสารตกค้างแม้เพียงน้อยนิดที่หลงเหลืออยู่ในเลือดได้ สามารถใช้ตรวจหลังจากผ่านการรักษาไปแล้ว เพื่อดูผลของการรักษาได้ ซึ่งมีความแม่นยำสูงมาก ซึ่งบริษัทตั้งเป้าจะขอเป็นผู้นำในตลาดนี้
Thrive Earlier Detection Corp ที่มี CancerSEEK ซึ่งเป็น Multi-Cancer Screening Test สามารถตรวจจากเลือดได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ใช้ในการตรวจหามะเร็งได้ถึง 8 อย่าง มะเร็งรังไข่ มะเร็งตับ มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งตับอ่อน มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งลำไส้ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม โดยมีความแม่นยำในการตรวจที่ 69-98% ขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง (ล่าสุดใน earning call บริษัทบอกตอนนี้ตรวจเจอได้ 10 โรคมะเร็งแล้ว) ซึ่งตัวนี้บริษัทคาดว่าจะมาสร้างการเติบโตให้บริษัทได้มหาศาล
ในการซื้อกิจการอื่นเข้ามา ทำให้ Exact มีเครื่องไม้เครื่องมือในการทั้งวิจัย ตรวจหา วิเคราะห์ โรคมะเร็งแบบครอบคลุมทุกส่วนของร่างกาย ทั้งยังมีการพัฒนาในด้านความรวดเร็วและแม่นยำของการทดสอบ ให้เหนือชั้น และ ยกระดับมาตรฐานการตรวจมะเร็งไปได้อย่างสิ้นเชิง
.
.
🤔ความเสี่ยงของบริษัท
1. ในการที่บริษัทซื้อกิจการเข้ามา มันมีอะไรที่ต้องแลก ถ้าไปดูงบดุล จะเห็นว่ามีค่า Goodwill และสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้สูงมาก รวมแล้วคิดเป็น 42% ของสินทรัพย์ทั้งหมด ถ้าการคิดค้น Screening Test ใหม่ๆล้มเหลวหรือไม่เป็นอย่างที่หวัง การซื้อกิจการต่างๆเข้ามาอาจถือว่าจ่ายแพงกว่าราคามาก
2. ผลิตภัณฑ์อย่าง Cologuard® ยังต้องอาศัยการทำการตลาดและการโฆษณาสูงเพื่อสร้างการรับรู้ Exact ออกแคมเปญโฆษณา Cologuard® ทั้งในทีวี โซเชียลมีเดีย บริษัทยังเข้าร่วมทำการโปรโมท Cologuard® กับบริษัท Pfizer โดยการจ่ายเป็นเงินทั้งเป็นก้อน โบนัส และแบ่งเป็นค่าลิขสิทธิ์ให้
ทำให้ค่า Sales and marketing ถือว่าเป็นรายจ่ายก้อนใหญ่ที่สุดของค่าใช้จ่าย คิดเป็น 56% เลยทีเดียว ซึ่งมากกว่าค่า R&D ของบริษัทเสียอีกที่มีแค่ 29%
3. มีหมอหลายคนตั้งคำถามในการตรวจ Oncotype DX® ว่าถ้าตรวจแล้วได้ Risk Score ต่ำ จะให้คนไข้ไม่ต้องรักษาด้วยคีโมต่อ มันเป็นการถูกต้องหรือไม่ เพราะถ้าหากไม่ให้เคมีต่อตามการรักษาที่เป็นแนวทางปกติอยู่ แล้วตอนหลังเกิดมะเร็งแพร่กระจายขึ้นมา ก็ดูจะเป็นความเสี่ยงที่ไม่น่าลองเท่าไหร่ หมอหลายคนก็ไม่แนะนำให้ตรวจ เพราะทั้งแพง และก็อาจไม่ช่วยเรื่องการรักษามากนัก
.
.
😎คู่แข่งของ EXACT มีใครบ้าง
ในด้านคู่แข่ง เนื่องจากตลาดการตรวจหามะเร็งใหญ่มาก แค่เฉพาะใน US คาดการณ์ตลาดนี้จะมีมูลค่าถึง 150,000 ล้านเหรียญแล้ว ทำให้คู่แข่งก็เยอะมากเช่นกัน
ทั้งในส่วนที่บริษัทมี Market Share อยู่ และในส่วนของการตรวจหามะเร็งส่วนอื่นๆ
ในส่วนของการตรวจหามะเร็งลำไส้ มีการตรวจหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น การส่องกล้องทั้งแบบธรรมดาและแบบ virtual , Screening Tests จากเลือดอย่าง FOBT และ FIT, ตรวจด้วยเทคโนโลยีใหม่อย่าง Epi proColon และ PillCam COLON ซึ่งทั้ง 2 แบบได้ FDA แล้ว
แต่ถ้าเทียบความสะดวก และ ความแม่นยำในการตรวจ Cologuard® ถือว่าชนะขาด เพราะเป็น non-invasive และความแม่นยำสูงถึง 92%
FIT อาจถูกกว่า แต่ความแม่นยำอยู่ที่ 74%
Epi proColon 68%
การส่องกล้อง เจ็บตัว เสียเวลา และแพง ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์
บริษัทมีคู่แข่งที่น่าจับตาอย่าง DiaTech Pharmacogenetics, Prescient Metabiomics และ Geneoscopy ที่กำลังพัฒนาการตรวจมะเร็งลำไส้แนวทางเดียวกับที่บริษัททำอยู่
Oncotype DX® เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคู่แข่งเยอะมากที่ให้บริการคล้ายกัน ทั้งบริษัทเอกชน ศูนย์วิจัยทดลอง แล็บต่างๆ อย่าง Agendia , BioTheranostics, GenomeDx Biosciences, Guardant Health, Hologic, Myriad Genetics, NanoString Technologies, NeoGenomics, OPKO Health, Pacific Edge Limited, Qiagen N.V. และ Veracyte , Laboratory Corporation of America Holdings, Quest Diagnostics Incorporated, Roche
Diagnostics, Siemens AG
.
.
❤โอกาสในการเติบโต
1. โอกาสในการเติบโตของ Cologuard® แค่ในสหรัฐมีคนที่ต้องเข้าข่ายในการตรวจถึง 110 ล้านคน แต่ตรวจไปแล้วไม่ถึง 2% เหลือที่ให้เติบโตอีก 98% และต้องตรวจซ้ำอีกทุก 3 ปี และยังไม่นับรวมถึงตลาดต่างประเทศที่บริษัทยังไม่ได้ขยายออกไปเลย
2. โอกาสในการเติบโตของ Oncotype DX® ในส่วนการตรวจมะเร็งเต้านม ทั้งตลาดในสหรัฐที่มีการตรวจไปแล้ว 68%และ ทั่วโลกตรวจแล้ว 14% ซึ่งยังมีที่ว่างในการเติบโตได้อีก
3. โอกาสเติบโตจากการพัฒนาการตรวจหามะเร็งตับ Hepatocellular Carcinoma (HCC) โดยใช้แค่การตรวจเลือดทดแทนการอัลตร้าซาวด์และการตรวจวัดระดับของอัลฟา-ฟิโต โปรตีนในเลือด (AFP) ซึ่งในการทดลองมีความแม่นยำสูงถึง 80% ซึ่งนับว่าดีขึ้นมากจากการตรวจแบบ AFP ที่มีความแม่นยำเพียงแค่ 45% เท่านั้น
คาดว่าไม่นานจะได้รับการอนุมัติจาก FDA มีขนาดตลาด 1,500 ล้านเหรียญ และมีคนที่เข้าข่ายการตรวจราว 3 ล้านคน
4. โอกาสเติบโตจากการ CancerSEEK การตรวจแบบ Multi-Cancer Screening Test โดยการตรวจเลือด ซึ่งถือว่านี่จะเป็นตัวเร่งการเติบโตให้บริษัทเป็นอย่างมาก และการทดลองก็มีความคืบหน้าไปมาก
ล่าสุดได้ทำการพัฒนาร่วมกับบริษัท Mayo ที่ทำการตรวจหามะเร็งจากเนื้อเยื่อและเลือดที่มีความแม่นยำสูงถึง 86%
ถ้าบริษัททำสำเร็จสามารถทำให้ CancerSEEK ใช้งานได้มีประสิทธิภาพจริง รวมถึงได้อนุมัติจาก FDA ขนาดตลาดการตรวจหามะเร็งใหญ่มาก คาดการณ์ว่ามีมูลค่าสูงถึง 250,000 ล้านเหรียญ ในปี 2026
.
.
✔ในส่วนของราคา Exact มี P/S ที่ 16 เท่าถือว่าต่ำ เมื่อเทียบกับอดีตที่ผ่านมา หนี้ก็ถือว่าไม่สูงที่ 0.42 เท่า แต่ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่บริษัทจะสามารถเค้นประโยชน์จากกิจการที่ซื้อเข้ามามากมายได้
Exact ถือเป็นผู้นำนวัตกรรมในตลาดการตรวจหามะเร็ง ถ้าเราเชื่อว่า ในท้ายที่สุดโลกเราน่าค้นพบวิธีต่อสู้กับมะเร็งที่ดีกว่าเดิมได้ การตรวจหามะเร็งในเชิงรุกแบบเจอก่อน รักษาก่อน น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดในเวลานี้ และ Exact ก็เป็นบริษัทที่เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆที่มีโอกาสที่จะทำ Screening Test ที่ง่าย และมีความแม่นยำสูงได้สำเร็จในเวลาอันใกล้ค่ะ
.
.
#ฝากชอบกดไลก์ #ใช่กดแชร์ ให้ด้วยนะคะ กำลังใจดีดีให้เแอดมินค่ะ
.
.
--Stock Surge—
เล่าเรื่องหุ้นนอกรายตัว แบบเข้าใจง่าย อ่านจบได้ใน 2 นาที
.
.
ติดตามบทความใหม่ๆได้ที่ https://www.facebook.com/stocksurgepage
โฆษณา