🇩🇰 ทำไมกรีนแลนด์ถึงตกเป็นส่วนหนึ่งของเดนมาร์ก ?
เชื่อเหลือเกินว่า ทุก ๆ คน จะต้องเคยรู้จักกับเกาะกรีนแลนด์ (Greenland) เกาะขนาดใหญ่ที่ตั้งทางตอนเหนือสุดของโลกกันอย่างแน่นอน ซึ่งเกาะกรีนแลนด์ยังถือได้ว่า เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก (หากไม่นับเกาะที่เป็นทวีปอย่างออสเตรเลีย) อีกด้วย
และอีกสิ่งหนึ่งที่ทุก ๆ คน รู้ก็คือ ในปัจจุบันกรีนแลนด์ได้ตกอยู่ในสถานะเขตปกครองตนเองของเดนมาร์ก
แต่เคยสงสัยกันหรือไม่ครับว่า ทำไมเกาะกรีนแลนด์ถึงได้ตกเป็นของเดนมาร์กได้ ดังนั้นในบทความนี้ แอดมินจะมาไขข้อสงสัยนี้กันครับ
สำหรับเกาะกรีนแลนด์นั้น ได้ปรากฏหลักฐานของการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ มาตั้งแต่ราว 4,000 จนถึง 5,000 ปีก่อน
โดยผู้ที่ค้นพบเกาะกรีนแลนด์ได้เป็นคนแรกนั้น ก็คือนักสำรวจชาวไวกิ้ง ที่มีชื่อว่า เอริกผมแดง (Erik the Red) โดยเขาได้ค้นพบในช่วงปลายศตวรรษที่ 10 นอกจากนี้เอริกผมแดง ยังเป็นผู้ที่ได้ตั้งชื่อของเกาะแห่งนี้ว่า กรีนแลนด์อีกด้วย
ซึ่งบรรพบุรุษของชาวกรีนแลนด์ในปัจจุบัน ก็คือ ชาวธูเล่ (Thule) หรือที่เรารู้จักกันชื่อ ชาวอินูอิต (Inuit) หรือชาวเอสกิโม (Eskimo)
ชาวธูเล่ บรรพบุรุษของชาวกรีนแลนด์
** สิ่งที่ควรรู้ : ชาวธูเล่หรืออินูอิตส่วนใหญ่ไม่ชอบให้ใครเรียกพวกเขาว่า เอสกิโม เพราะคำ ๆ นี้ ถูกใช้ในเชิงดูถูกและหยาบ
ชาวธูเล่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ดินแดนอลาสก้า (Alaska) ทางตอนเหนือสุดของทวีปอเมริกาเหนือ โดยพวกเขามีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการใช้ชีวิตท่ามกลางสภาวะอากาศที่หนาวเหน็บเป็นอย่างมาก ชาวธูเล่ได้อพยพมาอยู่ที่เกาะกรีนแลนด์ ตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 12 เป็นต้นมา
จวบจนกระทั่งในช่วงปี 1721 ก็ได้มีมิชชันนารีชาวนอร์เวย์ผู้หนึ่ง ได้เดินทางมาถึงที่เกาะกรีนแลนด์แห่งนี้ โดยเขามีชื่อว่า "ฮันส์ เอเกอตา" (Hans Egeda)
เอเกอตาเป็นมิชชันนารีในศาสนาคริสต ์นิกายลูเทอแรน (Lutheran) โดยเขาได้รับบัญชาจากพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 4 กษัตริย์แห่งเดนมาร์กและนอร์เวย์ (Frederick IV of Denmark and Norway) ในการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ให้กับชาวธูเล่ ที่อาศัยอยู่ที่เกาะกรีนแลนด์
Frederick IV of Denmark and Norway
** ความรู้เพิ่มเติม : ในช่วงปี 1536 จนถึง 1814 เดนมาร์กกับนอร์เวย์ได้รวมกันเป็นประเทศเดียวในชื่อ ราชอาณาจักรเดนมาร์กและนอร์เวย์ (Kingdoms of Denmark & Norway)
ซึ่งการมาถึงกรีนแลนด์ของเอเกอตานี้ นอกจากจะเป็นการเผยแพร่ศาสนาแล้ว ยังถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้น ของการตั้งอาณานิคมของเดนมาร์กที่กรีนแลนด์อีกด้วย
โดยเอเกอตา ยังได้สร้างสถานีการค้าของเดนมาร์กไว้ที่กรีนแลนด์ ซึ่งในเวลาต่อมาจะพัฒนา จนกลายมาเป็นเมืองนุก (Nuuk) เมืองที่สำคัญที่สุดของกรีนแลนด์
นับแต่นั้นมา เดนมาร์กก็ได้เริ่มทำการผนวกเกาะกรีนแลนด ์ให้เป็นส่วนหนึ่งของเดนมาร์กอย่างช้า ๆ ชาวเดนมาร์กจำนวนหนึ่งได้เริ่มอพยพ มาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่กรีนแลนด์ โดยในปี 1775 เดนมาร์กก็ได้ประกาศให้กรีนแลนด์เป็นดินแดนอาณานิคมของเดนมาร์ก และในปี 1814 เกาะกรีนแลนด์ก็ได้ตกเป็นส่วนหนึ่งของเดนมาร์กอย่างเป็นทางการ
ต่อมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เดนมาร์กได้ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของนาซีเยอรมัน ส่งผลให้กรีนแลนด์ในขณะนั้น อยู่ภายใต้การคุ้มครองของสหรัฐอเมริกา และเมื่อสงครามสิ้นสุดลง กรีนแลนด์ก็ได้กลับคืนสู่เดนมาร์กอีกครั้ง
จนกระทั่งในปี 1979 เดนมาร์กก็ได้เปลี่ยนแปลงสถานะของกรีนแลนด์ ให้เป็นเขตปกครองตนเอง (Autonomy Territory) โดยเดนมาร์กอนุญาตให้กรีนแลนด์มีรัฐบาล และนายกรัฐมนตรีปกครองประเทศได้
แต่นโยบายที่มีความเกี่ยวข้องกับการต่างประเทศ และการทหาร รัฐบาลของเดนมาร์กจะเป็นผู้ที่จัดการแทนรัฐบาลของกรีนแลนด์ นอกจากนี้รัฐบาลกรีนแลนด์จะต้องขึ้นตรงต่อรัฐบาลของเดนมาร์ก และยอมรับอำนาจของราชวงศ์เดนมาร์ก ในฐานะประมุขประเทศ
ทัศนียภาพของกรีนแลนด์ในช่วงฤดูหนาว
และนี้ก็คือเรื่องราวความเป็นมา ของการที่กรีนแลนด์ได้ตกเป็นส่วนหนึ่งของเดนมาร์ก โดยสามารถสรุปได้ว่า สาเหตุที่ทำให้กรีนแลนด์ตกเป็นของเดนมาร์กได้นั้น เกิดจากการที่เดนมาร์กได้เผยแพร่ศาสนาคริสต์ให้กับชาวกรีนแลนด์
ก่อนที่ในเวลาต่อมา เดนมาร์กจะเริ่มสร้างสถานีการค้าและเมืองต่าง ๆ ในกรีนแลนด์ และค่อย ๆ อพยพชาวเดนมาร์ก และแปรสภาพกรีนแลนด์ให้ตกเป็นส่วนหนึ่งของเดนมาร์กนั่นเอง
*** Reference
#HistofunDeluxe
- 14
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
