17 มิ.ย. 2021 เวลา 10:00 • สุขภาพ
เกลือดำทำมาจากอะไร? มาจากไหน?
บทความนี้ผู้เขียนจะมาจำแนกชนิดและแหล่งที่มาของเกลือดำนะคะ
แน่นอนว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักเกลือสีดำ สายเฮลตี้ทั้งหลายต่างก็ต้องรู้จักกันดี ส่วนตัวแล้วหลังจากได้ใช้เกลือดำในการปรุงอาหาร ก็เกิดติดใจ เนื่องจากมีรสชาติที่กลอมกล่อมมาก ทำให้อาหารอร่อยได้แม้ไม่ได้ใช้ซอส
เกลือดำไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ได้มาจากการใช้ความร้อนสูงกับเกลือหิมาลัย และผสมถ่าน สมุนไพร และเครื่องเทศ
เกลือสีดำไม่ได้เป็นสีดำเสมอไป มีทั้งสีน้ำตาลแดง หรือสีม่วงเข้ม สีดำได้มาจากการผสมถ่านกัมมันต์
เกลือดำเป็นส่วนผสมยอดนิยมในอาหารอินเดีย
ให้รสชาติเฉพาะตัวที่ช่วยเสริมอาหารหลายๆ อย่างมีรสชาติที่ดี และยังมีการกล่าวว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ
เกลือดำกาลานามัค/himalayan black salt
แม้ว่าเกลือดำจะมีหลายประเภท แต่เกลือดำหิมาลัยเป็นเกลือที่พบได้บ่อยที่สุด
เป็น*เกลือสินเธาว์ ที่มาจากเหมืองเกลือของปากีสถาน บังคลาเทศ อินเดีย เนปาล และสถานที่อื่นๆ ในเทือกเขาหิมาลัย
*เกลือสินเธาว์ คือ เกลือที่ผลิตจากแหล่งเกลือในพื้นดินจะใช้แหล่งเกลือในดินเป็นวัตถุดิบ อาจเป็นแหล่งเกลือบนผิวดิน น้ำเกลือบาดาล แร่เกลือหิน หรือแร่เฮไลต์
การใช้เกลือดำได้รับการบันทึกเป็นครั้งแรกในตำรายาอายุรเวท ซึ่งเป็นแนวทางสุขภาพแบบดั้งเดิมและแบบองค์รวมมีต้นกำเนิดในอินเดีย
หมออายุรเวทกล่าวไว้ว่าเกลือหิมาลัยสีดำ มีคุณสมบัติในการรักษา อย่างไรก็ตามอาจยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าคำกล่าวอ้างเหล่านี้มีรากฐานมาจากการวิจัยที่แน่ชัดหรือไม่
เกลือหิมาลัยสีดำมีสีน้ำตาลอมชมพู(อาจเห็นเป็นสีชมพูมากกว่าที่จะเป็นสีดำ เมื่อเกลืออยู่ในรูปแบบผงบดละเอียด)
เกลือหิมาลัย/เกลือชมพู
เกลือหิมาลัยสีชมพูเป็นเกลือที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก ประกอบด้วยแร่ธาตุ 84 ชนิด ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งและเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของร่างกายของเรา นี่คือสิ่งที่ทำให้เกลือนี้เป็นที่นิยมของคนทั่วโลก
ในทางกลับกัน องค์ประกอบของเกลือสีดำนั้นคล้ายกับเกลือสีชมพู เนื่องจากได้มาจากการแปรรูปเกลือหิมาลัย
แต่อาจเป็นไปได้ว่า ในระหว่างกระบวนการให้ความร้อนสูงเป็นเวลานาน แร่ธาตุจำนวนมากที่มีอยู่ตามธรรมชาติในเกลือหิมาลัยจะลดลงหรือหายไป
เกลือสินเธาว์หิมาลายันมีความบริสุทธิ์และเป็นธรรมชาติที่สุด และได้รับการพิสูจน์แล้วหลังจากการศึกษาและวิจัยเป็นเวลานานพอสมควร
เกี่ยวกับเกลือดำ คือเกลือที่ไม่ได้ทำมาจากเกลือธรรมชาติเสมอไป เกลือที่มีจำหน่ายในท้องตลาดมักสร้างขึ้นโดยฝีมือมนุษย์ผ่านการสังเคราะห์แร่ให้เป็นกลางและแปรรูปเพื่อให้ได้เกลือสีดำ
*ข้อควรระวัง เคยอ่านพบข้อมูลที่ระบุว่า ในท้องตลาดตอนนี้เต็มไปด้วยเกลือเมดิเตอร์เรเนียน ผสมกับถ่านกัมมันต์เพื่อให้มีลักษณะคล้ายกับเกลือดำ(กล่าวคือสังเคราะห์ขึ้นเหมือนกัน แต่อาจเป็นเกลือที่มีคุณภาพไม่ดีเท่าไหร่นัก)
#เกลือดำมีสามประเภทหลัก
เกลือหิมาลัยสีดำ
เกลือลาวาสีดำ
เกลือพิธีกรรมสีดำ
#เกลือหิมาลัยสีดำ อาจเรียกว่าเกลือดำอินเดียหรือเกลือกาลานามัก
ด้วยรสที่ฉุน เผ็ด(ในที่นี้หมายถึงรสที่ตรงข้ามกับหวาน อาจได้จากเครื่องเทศ ให้ความรู้สึกกระตุ้นต่อมรับรสของลิ้นได้ดี มีรสที่ชัดเจน ไม่ใช่เผ็ดแบบพริก) และรสอูมามิ จึงมักใช้ในการปรุงอาหารคาวโดยเฉพาะอย่างยิ่งในอาหารเอเชียและอินเดีย
เนื่องจากมีกลิ่นหอมอ่อนๆของกำมะถันคล้ายกับกลิ่นไข่(บางคนอาจไม่ชอบ) จึงถูกนำมาใช้ในการปรุงอาหารมังสวิรัติเพื่อให้มีรสชาติคล้ายว่ามีไข่ ทำให้ได้รสกลมกล่อมมากขึ้น(ส่วนตัวก็ไม่ได้รู้สึกว่าเหมือนมีไข่เท่าไหร่ เพราะตอนใส่ในอาหารกลิ่นก็หายไปหมดแล้ว แต่ที่แน่ๆคือรสชาติอาหารดีขึ้นจริงๆ คุณสมบัตินี้เกลืออื่นๆเทียบไม่ได้เลย ยกเว้นเกลือลาวาพอได้อยู่)
#เกลือลาวาสีดำ บางคนอาจเคยเห็นเกลือลาวาสีดำ หรือที่เรียกว่าเกลือดำฮาวาย ซึ่งมักมาจากฮาวาย
lava black salt
มีรสชาติที่โดดเด่นเฉพาะตัว มีความเป็นดิน(ให้ความรู้สึกเหมือนมีกลิ่นอายของดิน) มักใช้โรยหน้าอาหารต่างๆ
เกลือลาวาดำได้มาจากชายฝั่งของฮาวาย และไซปรัส เกลือนี้มีส่วนผสมของถ่านกัมมันต์จากลาวาที่พบในภูมิภาคเหล่านั้น ซึ่งทำให้เกลือมีเฉดสีที่ค่อนข้างเข้ม
เกลือดำลาวาทำให้อาหารมีรสชาติที่นุ่มนวลกลมกล่อม และมีกลิ่นหอมควัน(สโมคกี้) จึงเป็นตัวเลือกหนึ่งในส่วนผสมที่ดีไม่น้อย หากเราต้องการให้อาหารมีกลิ่นสโมคกี้ ยกตัวอย่างอาหารอบต่างๆ หรือใช้หมักหรือทำซอสทาอาหาร มันจะช่วยให้อาหารมีกลิ่นหอมและชวนให้น้ำลายสอมากยิ่งขึ้น
#เกลือพิธีกรรมสีดำ หรือเรียกอีกอย่างว่าเกลือแม่มด มีส่วนผสมของขี้เถ้า เกลือทะเล ถ่านและย้อมสีดำบางครั้ง เกลือนี้ไม่ได้ใช้เพื่อการบริโภค
**สีดูคล้ายกับเกลือดำลาวามาก อาจต้องอ่านลายละเอียดก่อนซื้อนะคะ แต่ส่วนใหญ่จะมีข้อบ่งชี้ชัดเจนหากไม่ใช่เกลือสำหรับบริโภค
Black ritual salt/เกลือแม่มด
แม้ว่าจะไม่ได้มีการรองรับจากวิทยาศาสตร์ แต่บางคนเชื่อว่าเกลือสำหรับพิธีกรรมนั้น มีพลังในการป้องกันวิญญาณหรือพลังงานด้านลบ ผู้ที่มีความเชื่อนี้อาจโรยเกลือไว้รอบๆลานบ้าน หรือเก็บไว้ในขวดโหล(อันนี้ก็แล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคลเท่านั้น)
*เกลือดำที่ถูกผลิตขึ้น
เกลือหิมาลัยสีดำแรกเริ่มเป็นเกลือหิมาลัยสีชมพูซึ่งเป็นเกลือสินเธาว์ชนิดหนึ่ง
โดยเริ่มจากเกลือหิมาลายันสีชมพูหรือโซเดียมคลอไรด์ แล้วนำไปให้ความร้อนที่อุณหภูมิสูง และผสมกับเครื่องเทศและสมุนไพรของอินเดียรวมทั้งเมล็ดของผลฮาราดที่มีแร่กำมะถัน นอกจากนี้ยังมีซัลเฟต ซัลไฟด์ เหล็ก และแมกนีเซียมซึ่งเจือปนอยู่ด้วย ล้วนมีส่วนทำให้เกิดสี กลิ่น และรสของเกลือ
ทุกวันนี้บางครั้ง เกลือสีดำจำนวนมากมาจากการสังเคราะห์ขึ้นจากส่วนผสมของโซเดียมคลอไรด์ โซเดียมซัลเฟต โซเดียมไบซัลเฟต และเฟอริกซัลเฟต จากนั้นผสมกับถ่าน
ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปมีสิ่งเจือปน เช่น ซัลเฟต ซัลไฟด์ เหล็ก และแมกนีเซียม ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดสี กลิ่น และรส
สิ่งเหล่านี้ไม่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพ ซัลเฟตถือว่าปลอดภัยในการรับประทาน และใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารบางชนิดเพื่อควบคุมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นอันตราย
อย่างไรก็ตาม หากทานในปริมาณที่มากเกินไป(ผู้ที่ชอบทานเค็ม) ก็อาจเกิดผลข้างเคียงได้
เกลือดำมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แต่เช่นเดียวกับส่วนผสมอื่นๆ เมื่อรับประทานในปริมาณมาก อาจส่งผลเสียได้ เนื่องจากเกลือดำประกอบด้วยฟลูออไรด์และสารเคมีอื่นๆ จึงส่งผลต่อการทำงานของร่างกายได้
-นิ่วในไต
การบริโภคเกลือดำเป็นประจำ สามารถทำให้เกิดนิ่วในไตได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการเจ็บปวดและขัดขวางการทำงานของระบบปัสสาวะได้
-ต่อมไทรอยด์ทำงานได้ไม่ดี
เกลือดำไม่ได้เสริมไอโอดีน และไอโอดีนมีบทบาทสำคัญในการทำงานของต่อมไทรอยด์ เราจึงควรบริโภคให้หลากหลาย
อ่านจบแล้ว ผู้อ่านหลายท่านคงสงสัยว่า ตกลงแล้วเกลือดำนี่มันดีหรือไม่ดีกันแน่นะ จริงๆแล้ว เกลือธรรมชาตินั้นดีที่สุด แต่เกลือที่เราบริโภคอยู่ทุกวันนี้ ก็ล้วนแล้วแต่ผ่านขบวนการทั้งสิ้น
ว่ากันตรงๆ เกลือดำคุณภาพดีนั้นก็มีข้อดีอยู่ไม่น้อย และอาจให้ผลทางการรักษาในตำหรับยาโบราณ แต่ที่ไม่ดีคือ เกลือดำที่เราซื้อมาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ อาจสังเคราะห์ขึ้นจากแร่และส่วนประกอบอื่นๆ ที่ทำให้เกิดสีดำและมักมีราคาถูก เพราะเกลือดำที่คุณภาพดีนั้นต้องทำมาจากเกลือหิมาลัยเท่านั้น!
ทางที่ดี ก่อนจะซื้อเกลือดำ เราควรสืบหาแหล่งที่มาหรือซื้อจากร้านที่เราไว้ใจได้เท่านั้นนะคะ^^
ขอบคุณภาพและข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต
สุดท้ายนี้ผู้เขียนขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่าน ที่ให้ความสนใจและเข้ามาอ่านบทความนี้ ครั้งหน้าจะยังมีบทความใหม่ๆมาเขียนเล่าสู่กันฟังอีก หากเห็นว่าบทความนี้น่าสนใจหรือเป็นประโยชน์ ฝากกดไลค์ แชร์ หรือติดตามเพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนด้วยนะคะ^^ ขอบพระคุณมากค่ะ
โฆษณา