18 มิ.ย. 2021 เวลา 04:13 • หนังสือ
#18 เล่ม 3 บทที่ 3 หน้า 91 ~ 96
...
N : สุดยอดจริงๆครับ เป็นข้อมูลที่สุดยอดมาก ขอบคุณที่บอกข้อมูลนี้ผ่านทางผม
...
...
...
G : ขอบคุณที่ยอมให้มันผ่านออกมาจากตัวเธอ บางเวลาเธอก็ "กระจ่างชัด" มากกว่าช่วงเวลาอื่นๆ บางห้วงขณะเธอก็เปิดรับมากกว่าปกติ เหมือนกับตัวกรองที่ได้รับการขัดล้าง มันจึง "เปิดรับ" ได้มากขึ้น มีช่องทางให้ไหลผ่านได้มากขึ้น
N : เข้าใจอธิบายนะครับ
G : แน่นอนอยู่แล้ว
สรุปก็คือ :
✴️วิญญาณที่ได้รับการปลดปล่อยออกจากร่างจะระลึกได้ในไม่ช้าว่า จะต้องตรวจสอบและควบคุมความคิดของตัวเองให้ดี เพราะไม่ว่ามันจะคิดถึงเรื่องอะไร เรื่องนั้นจะถูกสร้างและตัวมันจะมีประสบการณ์ถึงเรื่องนั้นในทันที✴️
📌 ฉันขอย้ำอีกครั้งว่า ภาวะนี้ไม่ได้ต่างกับตอนที่วิญญาณยังอยู่กับร่างกาย เว้นแต่ว่าผลลัพธ์จะไม่ปัจจุบันทันด่วนเท่า
1
💢ซึ่งระยะ "เวลา" ระหว่างความคิดและผลลัพธ์ที่ปรากฏ (ซึ่งอาจเป็นวัน เป็นสัปดาห์ เป็นเดือน หรือแม้กระทั่งเป็นปี) ทำให้เธอหลงผิดคิดว่าสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น "ในชีวิตเธอ" เธอไม่ได้เป็นผู้ก่อ💢
นี่คือ🔹ภาพลวงตา🔹
ซึ่งทำให้ 💢เธอหลงลืมว่าตัวเธอเองคือต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในชีวิต💢
อย่างที่ฉันได้อธิบายไปหลายครั้งแล้วว่า 🔹การหลงลืมนี้🔹 "ถูกฝังไว้ในตัวระบบ" มันเป็นส่วนหนึ่งของ 🔸กระบวนการ🔸
✴️เพราะเธอไม่อาจสร้างสรรค์ตัวตนนั้นๆของเธอขึ้นมาได้จนกว่าเธอจะลืมตัวตนนั้นเสียก่อน
✴️ภาพลวงตาที่ทำให้เกิดการหลงลืมนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยเจตนา
📌 เมื่อเธอทิ้งร่างไป เธอจะประหลาดใจเป็นอย่างมากที่ได้เห็นความเชื่อมโยงกันอย่างชัดเจนและทันทีทันใดระหว่างความคิดและผลลัพธ์ที่ปรากฏ
1
ในตอนแรกเธออาจตกใจระคนตกตะลึง แต่จะกลายเป็นความเพลินเพลินเมื่อเริ่ม "ระลึก" ได้ว่า :
✴️ทุกปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในประสบการณ์ชีวิตของเธอนั้น เกิดขึ้นเพราะมีเธอเป็นต้นเหตุ มันไม่ได้เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ✴️
1
N : ทำไมตอนที่เรายังไม่ตายถึงต้องรอเวลากว่าที่ความคิดจะทำให้เกิดผลลัพธ์ แต่พอเราตายแล้วกลับไม่ต้องรอครับ❓
G : ก็เพราะตอนนี้เธอกำลังใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ "มายาของเวลา" แต่ถ้าไม่มีร่างกายมันก็จะไม่มีช่องว่างของเวลา 🔸ระหว่างความคิด กับ ผลลัพธ์ที่ปรากฏ🔸 เพราะว่าเธอมิได้ตกอยู่ภายใต้กฏของเวลาแล้ว
1
N : พูดอีกอย่างก็คือ (อย่างที่พระองค์ชอบพูดอยู่ตลอด) เวลาไม่มีอยู่จริง
G : 🔸เวลามีอยู่แต่ไม่ใช่ในแบบที่เธอเข้าใจ🔸
จริงๆแล้วปรากฏการณ์ของ "เวลา" เป็นเรื่องของมุมมอง★
★ขึ้นอยู่กับว่ามองจากมุมไหน ~ แอดมิน
N : ทำไม "เวลา" ถึงได้ปรากฏขึ้นตอนที่วิญญาณยังอยู่กับร่างล่ะครับ❓
G : เธอทำให้เวลาปรากฏขึ้นได้จากการเปลี่ยนมุมมองที่เธอมีต่อปัจจุบันขณะนั้นๆ★ ซึ่งเธอก็ใช้วิธีการนี้เป็นเครื่องมือให้เธอสามารถสำรวจและตรวจสอบประสบการณ์ในด้านต่างๆของตัวเองให้เต็มที่ยิ่งขึ้นได้ด้วยการแบ่งประสบการณ์ของตัวเองออกเป็นส่วนๆ 🔸แทนที่จะเป็นอุบัติการณ์เดียว🔸
★ตอนที่เรากำลังอยู่ในโลกความจริงทางกายภาพหรือในโลกสัมพัทธ์นี้ เราสามารถรับรู้หรือมองจากมุมของร่างเราเท่านั้นไม่สามารถรับรู้จากมุมของร่างอื่นๆที่มีจำนวนมากมายมหาศาลในจักรวาลได้ เพราะเราเลือกมาอยู่ตรงมุมนี้หรือร่างที่อยู่ตรงนี้เพื่อมีประสบการณ์ในรูปแบบนี้เอง ซึ่งกายมนุษย์ถูกจำกัดอยู่ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 ทำให้เราไม่อาจรับรู้ถึงภาพรวมทั้งหมดได้ แต่ทว่าวิญญาณทำได้เมื่อวิญญาณจากร่างไป วิญญาณจึงไม่ถูกจำกัดการรับรู้อีกตามที่พระองค์ได้อธิบายไป ~ แอดมิน
✨ชีวิต คือ อุบัติการณ์เดียว✨
✨คือหนึ่งเหตุการณ์ในห้วงเอกภพที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้✨
✨ทั้งหมดกำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ทุกแห่งหน✨
ไม่มี "เวลา" ใดนอกจาก ✨เดี๋ยวนี้✨
ไม่มี "ที่" ใด นอกจาก ✨ที่นี่✨
✴️ที่นี่ และ เดี๋ยวนี้ คือทั้งหมดที่มี✴️
▶️ แต่ทว่าเธอเลือกที่จะมีประสบการณ์ถึงความยิ่งใหญ่ของ "ที่นี่และเดี๋ยวนี้" 🔸ในทุกรายละเอียด🔸
1
▶️ และเลือกที่จะมีประสบการณ์ถึงตัวตนอันศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองที่เป็นผู้สร้างความจริงเหล่านี้ขึ้น "ที่นี่และเดี๋ยวนี้"
▶️ และมีเพียงสองสภาวการณ์ (สองขอบเขตของประสบการณ์) เท่านั้นเธอถึงจะสามารถทำอย่างนั้นได้ นั่นคือต้องทำให้ 🔸เวลาและที่ว่าง🔸 (Time and Space) เกิดขึ้น
ความคิดนี้ช่างบรรเจิดเสียจนเธอต้องระเบิดปังใหญ่ด้วยความสำราญใจ❗
ในห้วงแห่งการระเบิดอันเบิกบานใจนี้เอง 🔸ที่ว่างระหว่างด้านต่างๆของเธอ🔸 จึงถือกำเนิดขึ้น
รวมถึงเกิด "เวลา" ขึ้นเพราะ 🔸การเคลื่อนจากด้านหนึ่งของตัวเธอไปยังอีกด้าน🔸
✴️ด้วยวิธีนี้เธอได้ "ฉีกตัวเองออกจากกัน" เพื่อจะพินิจถึงส่วนต่างๆของตัวเองได้อย่างละเอียด✴️
อาจบอกอย่างนี้ก็ได้ว่าเธอมีความสุขเหลือเกินที่ได้ "แตกเป็นเสี่ยงๆ"
📌 ซึ่งเธอก็เฝ้าปะติดปะต่อชิ้นส่วนต่างๆเข้าด้วยกันนับตั้งแต่นั้น
N : ชีวิตที่ผ่านมาของผมเป็นอย่างนั้นเลย❗ ผมกำลังพยายามปะติดปะต่อชิ้นส่วนชีวิตของผมเข้าด้วยกัน เพื่อพยายามดูว่ามันจะมีความหมายอะไรขึ้นมาบ้างมั้ย
G : ด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า "เวลา" เธอได้แยกส่วนต่างๆออกจากกัน แบ่งแยกสิ่งที่ไม่อาจแบ่งแยก ✴️เพื่อจะได้เห็นและมีประสบการณ์ถึงมันให้เต็มที่ยิ่งขึ้นในขณะที่เธอกำลังสร้างมันขึ้นมา✴️
แม้ในขณะที่เธอใช้กล้องขยายเพื่อส่องดูวัตถุที่เป็นของแข็ง เธอจะเห็นว่ามันไม่ได้เป็นของแข็งอะไรเลย ซึ่งแท้จริงแล้วมันคือการรวมตัวกันของผลลัพธ์ (อนุภาคเล็กๆ) ที่ต่างกันนับล้าน ✨ทุกสิ่งที่ต่างกันกำลังเกิดขึ้นพร้อมกันในเวลาเดียวกัน เกิดเป็นผลลัพธ์ขนาดใหญ่✨
✴️เธอเองก็ใช้ "เวลา" เป็นดั่งกล้องขยายเพื่อส่องดูวิญญาณของตัวเอง✴️
2
➖➖➖
ลองมาฟัง 🔸เรื่องเล่าของก้อนหิน🔸
กาลครั้งหนึ่งมีหินอยู่ก้อนหนึ่ง ที่เนื้อในเต็มไปด้วยอะตอม โปรตอน นิวตรอน และอนุภาคย่อยต่างๆของสสารจำนวนนับไม่ถ้วน อนุภาคเหล่านี้เคลื่อนที่วนไปเวียนมาอยู่ตลอดเวลา
อนุภาคแต่ละหน่วยจะเคลื่อนที่อย่างมีระเบียบแบบแผนจาก "ตรงนี้" ไปยัง "ตรงนั้น" ซึ่งต้องใช้ "เวลา" ในการทำอย่างนั้น แต่ทว่ามันเคลื่อนที่เร็วมากจนตัวก้อนหินดูเหมือนไม่ขยับเขยื้อนเลย แค่ตั้งอยู่นิ่งๆของมันอย่างนั้น อาบอุ่นแสงตะวัน ชุ่มฉ่ำด้วยหยาดฝน แน่นิ่งและไม่ไหวติงใดๆ
"ไอ้ที่อยู่ในตัวผมที่กำลังเคลื่อนที่ไปมานั้นมันคืออะไรน่ะ❓" ก้อนหินร้องถาม
"ก็ตัวเธอไง" เสียงจากแดนไกลบอก
"ตัวผมเนี่ยนะ❓" ก้อนหินตอบ "มันจะเป็นไปได้ยังไง ผมไม่ได้กำลังเคลื่อนที่อยู่สักหน่อย ใครๆก็เห็น"
"ก็ถูก ถ้ามองจากระยะไกล" เสียงนั้นไม่ปฏิเสธ "จากที่ฉันอยู่`ตรงนี้` เธอ`ดู`เป็นของแข็ง อยู่กับที่ แล้วก็ไม่ขยับเขยื้อนจริงๆนั่นละ แต่พอฉันเข้าไปใกล้ขึ้น และลองสังเกตสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นจริงๆอย่างละเอียด ฉันถึงเห็นว่าทุกอย่างที่ประกอบกันขึ้นเป็นเธอ`กำลังเคลื่อนที่อยู่` มันกำลังเคลื่อนผ่านเวลาและที่ว่างอย่างมีระเบียบแบบแผนด้วยความเร็วสุดหยั่งจน`ก่อให้เกิดตัวเธอ`ที่เป็นสิ่งที่เรียกว่า `ก้อนหิน` เธอเหมือนคนที่มีเวทมนตร์เลยจริงๆนะ❗ เพราะทั้ง `กำลังเคลื่อนที่` และ `ไม่เคลื่อนที่` ได้ในเวลาเดียวกัน"
3
"แต่ว่า" ก้อนหินร้องถาม "แล้วอันไหนจริงอันไหนหลอกล่ะครับ❓ ระหว่างความเป็นหนึ่งและความคงที่ของผม กับ การแยกตัวและการเคลื่อนที่ของส่วนต่างๆของผม❓"
1
เสียงนั้นตอบว่า "แล้วอันไหนจริงอันไหนหลอกล่ะระหว่างความเป็นหนึ่งและความคงที่ของพระเจ้า กับการแยกตัวและการเคลื่อนที่ของส่วนต่างๆของพระเจ้า❓"
➖➖➖
ฉันจะบอกกับเธอว่า : ด้วยหินก้อนนี้ ฉันได้สร้างศาสนจักรของฉันไว้ เพราะนี่คือหินแห่งกาลสมัย คือสัจจะนิรันดร์ที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ฉันอธิบายให้เธอฟังตรงนี้แล้ว ในเรื่องเล่าสั้นๆเมื่อครู่นี้ นี่คือ ✴️ความเป็นไปของจักรวาล (The Cosmology)✴️
🔸ชีวิต🔸 คือ ✨ชุดของการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วอย่างเหลือเชื่อในระดับที่ละเอียดอ่อน✨
⏺️ การเคลื่อนไหวเหล่านี้ไม่มีผลใดๆต่อความคงที่และสภาวะแห่งการเป็นของสิ่งอันเป็นทั้งหมดนั้น
⏺️ ทว่าเพราะการเคลื่อนไหวนั่นเองที่ก่อให้เกิดความคงที่ที่ตาเรามองเห็น แบบเดียวกันกับเหล่าอะตอมของก้อนหินนั่นล่ะ
⏺️ ถ้ามองจากระยะไกล เราจะไม่เห็นการแยกขาดจากกัน นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะทั้งหมดมีเพียงหนึ่งเดียว และ "ไม่มีสิ่งอื่นอีก" 🔸ฉันคือผู้ขับเคลื่อนที่ไม่เคลื่อนที่🔸
⏺️ แต่ถ้าเธอมองความเป็นทั้งหมดนั้นจากมุมมองที่จำกัด เธอจะเห็นตัวเองแยกขาดจากสิ่งอื่น ไม่ได้เป็นสิ่งหนึ่งเดียวที่ไม่เคลื่อนที่ แต่เป็นสิ่งต่างๆจำนวนมากมายมหาศาลซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
ข้อสังเกตที่ได้จากทั้งสองมุมมองนี้นั้น "ถูกต้องทั้งคู่"
สภาวะทั้งสองอย่างนี้คือ :
✴️สัจจะที่แท้จริง✴️
N : ตอนที่ผม "ตาย" ผมก็ไม่ได้ตายจริงๆ แต่เป็นเพียงการเคลื่อนสู่การตระหนักรู้ในภาพรวม (มหภาค) ที่ซึ่งไม่มีทั้ง "เวลา" และ "ที่ว่าง" — ไม่มี "ที่นี่" และ "ที่นั่น" — ไม่มี "ก่อน" และ "หลัง"
G : ถูกเผง เธอเข้าใจถูกแล้ว
N : พระองค์ลองดูว่าผมเข้าใจแบบนี้ถูกหรือเปล่า ผมขอลองอธิบายดูว่ามันใช่ตามนี้มั้ย
G : เชิญ
...
...
...

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา