19 มิ.ย. 2021 เวลา 12:00 • กีฬา
#ยูโรรำลึก
3
โดย มิสมาต้า
ซูเปอร์​แมน โลธาร์ มัทเธอุส คือนักเตะระดับตำนานของวงการฟุตบอล​โลก
เขาเป็นนักเตะแชมป์โลก​ 1 สมัย รองแชมป์​โลก 2 สมัย และ อีก 1 แชมป์​ฟุตบอล​ชิงแชมป์​แห่งชาติ​ยุโรป
รวมทั้งเป็นนักเตะเจ้าของรางวัล​บัลลงดอร์ เป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลกเมื่อปี 1990 และ เป็นนักฟุตบอล​ที่ทรงอิทธิพล​ของทีมชาติมากที่สุดหลังปี 1990 เป็นต้นมา
มัทเธอุส คือ นักฟุตบอลที่เกี่ยวข้องกับเลข 5 อย่างน่าสนใจ เมื่อเคยมีรายชื่อติดทีมในฟุตบอล​ยูโร 5 สมัย ในปี 1980 , 1984 , 1988 , 1992(ถอนตัวก่อนเริ่ม)​ และ 2000
เคยลงเล่นฟุตบอล​โลกรอบสุดท้าย​ ในปี 1982 , 1986 , 1990 , 1994 และ 1998
และ เคยผ่านการแต่งงาน​มาแล้วทั้งหมด 5 ครั้ง
ไม่มีอะไรในวงการฟุตบอล​ที่เขาจะต้องไขว่คว้าอีกแล้วเมื่อนึกไปถึงความสำเร็จทั้งระดับสโมสร​ , ระดับ​ทีมชาติ และ รางวัลส่วนตัว
แต่ด้วยความสำเร็จที่มากมาย รวมทั้งเป็นคนที่มีคาแรกเตอร์​แข็งกร้าว​ เขาจึงเป็นทั้งซูเปอร์​แมน และ เป็นคนที่เพื่อนร่วมทีมไม่อยากคบในบางช่วงเวลา
เปเล่ เคยเลือกให้มัทเธอุสอยู่ในรายชื่อ FIFA 100 นักเตะที่ดีที่สุดในโลก
ดิเอโก มาราโดนา เคยชื่นชมไว้ในหนังสือ I am Diego ว่า "มัทเธอุส เป็นคู่แข่งที่ดีที่สุดที่เคยลงแข่งด้วย"
นั่นคือทั้งหมดของความเป็นนักเตะระดับซูเปอร์​แมนของวงการ
ในช่วงที่ยังเล่นฟุตบอล​ด้วยสภาพร่างกาย และ สภาพความฟิต เกิน 100% เขาคือกองกลางแบบ Box to Box ที่ดีที่สุดในโลก
เครื่องหมายการค้าของเขาเคยถูกแฟนบอลรุ่นใหม่นำไปเปรียบเทียบว่า มีพลังไดนาโมแบบ สตีเวน เจอร์ราร์ด​ รวมกับ การยิงไกลแบบ แฟรงค์​ แลมพาร์ด และ มีการบัญชาเกมที่ทรงดีแบบ อันเดรีย ปีร์โล​
จนกระทั่งย่างเข้าสู่วัยที่ความถดถอยทางร่างกายเกิดขึ้นเป็นธรรมชาติ มัทเธอุส จึงเปลี่ยนหน้าที่การทำงานในสนามฟุตบอล​มาเป็น สวีปเปอร์​ ด้วยการใช้มันสมองมากกว่าร่างกาย
ในวัย 40 ปี ซลาตัน อิบราฮิโมวิช​ อาจจะยังโวว่า สำหรับคนวัย 36 ปีบางคน มักยืนรอยิงประตูแบบง่ายๆ ส่วนตนเองสามารถยิงประตู​ด้วยท่าจักรยานอากาศ​ และ โอเวอร์​เฮดคิกได้สบายๆ
แต่สภาพร่างกายของพระเจ้าฟุตบอล​สาขาสวีเดนกลับพลาดทัวร์นาเมนต์​ยูโร 2020 จากปัญหาสุขภาพ และ อาการบาดเจ็​บที่ฟื้นช้าไปตามสังขาร
ส่วน โลธาร์ มัทเธอุส สามารถลงเตะเกมที่ 148 , 149 และ 150 ในรายการยูโร 2000 ได้แบบไม่สนใจเสียงรอบข้าง
เพราะต่อให้ฟอร์มในสองเกมแรกของเขาจะย่ำแย่จนมีเพียง 1 คะแนน จึงทำให้ โอลิเวอร์​ เบียร์​โฮฟฟ์ และ นักเตะแกนนำของทีมชาติบางคนที่ไม่ประสงค์จะออกนามเพราะยังเล่นในสโมสรเดียวกัน ออกมาร้องเรียน​ให้ เอริค ริบเบค จับให้มัทเธอุสนั่งเป็นตัวสำรองในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม​
เพราะเยอรมันจำเป็นต้องได้ 3 คะแนนในการพบกับทีมชาติ​โปรตุเกส​ที่ได้เข้ารอบไปแล้ว และ ต้องภาวนาให้คู่ของโรมาเนียกับอังกฤษไม่มีผู้ชนะ
โปรตุเกส จัดทัพมาแบบพักรักษาสถาพความฟิต แล้วยังเก็บ หลุยส์​ ฟิโก ผู้เป็นทุกอย่างของทีมเอาไว้ด้วยเหตุผลแรก และ เซฟใบเหลืองที่รับมาแล้ว 1 ใบ
เยอรมันจึงมีหวังเข้ารอบต่อไป และริบเบคก็ยังคงใช้บริการ มัทเธ​อุส​ในสนามต่อไป
ถ้าผู้เล่นและ แฟนบอลเยอรมันคิดว่าการถูกบัลกาเรียถล่มจนตกรอบในฐานะแชมป์เก่าจากฟุตบอล​โลก 1994 คือความเจ็บปวดใจ
1
แต่หากมองให้ลึกซึ้ง นั่นเป็นการแพ้ให้กับทีมชาติบัลกาเรียชุดที่เก่งที่สุดในประวัติศาสต​ร์ของ​พวกเขา แถมยังมีนักเตะท็อปคลาสอย่าง ฮริสโต สตอยคอฟ , คลาซิเมียร์ ลาบาคอฟ , ยอร์ดาน เลทคอฟ , เอมิล คอสตาดินอฟ หรือ ตริฟอน อิวานอฟ
หากแต่การตกรอบในฐานะแชมป์​เก่าที่แพ้ให้กับโปรตุเกส​ที่ไม่มี ฟิโก้ , รุย คอสตา , วิคเตอร์​ บายา , นูโน โกเมส และ เจา ปินโต แถมยังถูก แซร์โจ คอนไซเซา ที่ไม่เคยยิงแฮตทริก​ได้เลยทำคนเดียว 3 ประตู​ จึงเป็นความเจ็บปวด​ที่ฝังลึกที่สุดจนยากจะลบเลือน​ได้
เอริค ริบเบค จึงต้องตกงานไปพร้อมกับคำครหาว่าขี้ขลาด จากการไม่กล้าดรอปอดีตซูเปอร์​แมนที่มีสภาพเหลือแค่กางเกงใน​สีแดง
มัทเธ​อุส​อำลาทีมชาติด้วยความโดดเดี่ยวทั้งน้ำตา เขาเลิกเล่นทีมชาติพร้อมๆ กับการลาบาเยิร์น​ มิวนิค​ ไปเล่นในสโมสรเล็กๆ เป็นการส่งท้าย
เยอรมันชุดนั้นถูกจดจำว่าเป็นทีมชาติ​ชุด​ที่แย่ที่สุด ทั้งฟอร์ม​การ​เล่น​ในสนาม และ ทีมสปิริต พวกเขาตกรอบด้วยการแพ้ทีมชาติอังกฤษ​ที่ไม่เคยแพ้มานานกว่า 34 ปี
พวกเขาตกรอบในฐานะทีมบ๊วยที่เก็บได้เพียง 1 คะแนน ยิงได้เพียง 1 ประตู และ ถูกจัดลำดับอยู่ที่ 11 จากทั้งหมด​ 12 ทีม เหนือทีมที่แพ้รวด 3 เกม อย่างเดนมาร์ก​เพียงแค่ทีมเดียวเท่านั้น
ซึ่งก็หมายความว่าอดีตแชมป์เมื่อปี 1992 และ อดีตแชมป์​ปี 1996 พากันกอดคอกันตกรอบด้วยผลงานที่แย่ที่สุดเป็นเพื่อนกันนั่นเอง
สำหรับ โลธาร์ มัทเธอุส เขายิ่งกว่าตกจากสถานะสูงสุดคืนสู่สามัญ เพราะแม้จะไม่มีแฟนบอล หรือ คนในวงการฟุตบอล​ออกมาถล่มเขาเหมือนกับที่แพะรับบาปหลายคนในวงการนี้เคยโดน
แต่ในส่วนของความรู้สึกนั้น ผลงานในสนามของเขา และตารางคะแนนที่ไม่เคยโกหกใคร คือหลักฐาน​ยืนยันอันชัดเจน​ว่าเขาคือผู้แพ้อย่างแท้จริง
#PlayNowThailand #khelnow #football #footballgames #footballhighlights #footballplayers #manchesterunited #manchester #แมนยู #Euro2020​
โฆษณา