21 มิ.ย. 2021 เวลา 04:42 • ประวัติศาสตร์
“นอสตราดามุส (Nostradamus)” นักพยากรณ์เขย่าโลก
หลายคนน่าจะคุ้นชื่อของ “นอสตราดามุส (Nostradamus)”
เขาเป็นนักพยากรณ์ชื่อดัง และจนถึงทุกวันนี้ เรื่องราวและคำพยากรณ์ของเขาก็ยังคงเป็นที่พูดถึง
หลังจากเขาเสียชีวิตไปแล้วนับ 100 ปี คำทำนายหลายๆ อย่างของเขาก็ได้กลายเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปฏิวัติฝรั่งเศส การเรืองอำนาจของฮิตเลอร์ เหตุการณ์ 11 กันยายน ค.ศ.2001 (พ.ศ.2544) หรือล่าสุด ก็คือการระบาดของโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา
2
ที่สำคัญที่สุด เขาทำนายว่าโลกจะถึงจุดจบในปีค.ศ.3797 (พ.ศ.4340)
1
แต่นอสตราดามุสคือใครกันแน่? มีประวัติความเป็นมาอย่างไร? ลองไปดูกันครับ
1
นอสตราดามุส เกิดเมื่อวันที่ 14 หรือ 21 ธันวาคม ค.ศ.1503 (พ.ศ.2046) ที่แซ็ง-เรมี-เดอ-พรอว็องส์ ประเทศฝรั่งเศส
ชื่อจริงของเขาคือ “มีแชล เดอ นอสทราดาม (Michel de Nostradame)” โดยเขามีพี่น้องเก้าคน และเป็นลูกของดีลเลอร์ค้าเมล็ดพันธุ์พืชที่มีฐานะดีคนหนึ่ง และครอบครัวของเขายังมีเชื้อสายยิวอีกด้วย
2
สถานที่ๆ คาดว่าเป็นบ้านเกิดของนอสตราดามุส
เรื่องราวในวัยเด็กของเขาไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่มีบันทึกว่าเขาเป็นเด็กฉลาด เรียนได้คะแนนดี โดยผู้ที่คอยสอนหนังสือให้เขาก็คือตาของเขานั่นเอง
ในช่วงเวลานี้ นอสตราดามุสได้เรียนภาษาละติน กรีก ฮีบรู และคณิตศาสตร์ และเชื่อว่าผู้เป็นตาได้สอนพิธีกรรมของชาวยิว รวมทั้งดาราศาสตร์แก่นอสตราดามุส ทำให้นอสตราดามุสเริ่มมีแนวคิดเรื่องของสวรรค์ และการที่สวรรค์มีอำนาจเหนือชะตาของมนุษย์
1
ขณะมีอายุได้ 14 ปี นอสตราดามุสก็ได้เข้าศึกษาเภสัชศาสตร์ในมหาวิทยาลัย แต่เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ระบาดของกาฬโรค ทำให้เขาต้องออกจากการเรียน
จากนั้น นอสตราดามุสก็ได้ท่องเที่ยวไปในชนบท และทำการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสมุนไพร และทำงานเป็นเภสัชกร ก่อนที่ในปีค.ศ.1522 (พ.ศ.2065) เขาจะได้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยอีกครั้ง โดยมุ่งหวังจะได้ปริญญาทางเภสัชศาสตร์
หลายครั้งที่นอสตราดามุสมีความเห็นไม่ตรง และขัดแย้งกับคำสอนของบาทหลวงคาทอลิก ซึ่งบาทหลวงก็ไม่ยอมรับแนวคิดเรื่องต่างๆ ของเขา
นอกจากนั้น ยังมีบันทึกว่าทางมหาวิทยาลัยได้ไล่เขาออก แต่ก็มีบันทึกอีกฉบับที่บอกว่าเขาไม่ถูกไล่ออก และได้รับปริญญาเภสัชศาสตร์ในปีค.ศ.1525 (พ.ศ.2068)
1
ในช่วงเวลานี้ นอสตราดามุสได้แก้ชื่อให้เป็นละตินมากขึ้น จาก “นอสทราดาม (Nostradame)” เป็น “นอสตราดามุส (Nostradamus)”
ในช่วงเวลาหลายปีจากนั้น นอสตราดามุสก็ออกเดินทางไปทั่วฝรั่งเศสและอิตาลี และทำการรักษาผู้ป่วยกาฬโรค โดยใช้การรักษาแนวทางใหม่
นอสตราดามุสจะรักษาผู้ป่วยโดยให้ผู้ป่วยอยู่ในสภาวะที่สะอาดที่สุด และส่งเสริมให้เคลื่อนย้ายศพผู้เสียชีวิตที่ติดเชื้อออกจากถนนในเมือง และเขายังทำการปรุงยาจากสมุนไพรที่ช่วยรักษาผู้ติดเชื้อ ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงมาก
1
ในไม่ช้า นอสตราดามุสก็ได้กลายเป็นคนดัง ได้รับการสนับสนุนทางด้านเงินทุนจากบุคคลหลายคน ก่อนที่ในปีค.ศ.1531 (พ.ศ.2074) เขาจะย้ายไปอยู่อาแฌ็ง ซึ่งเป็นเมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส
นอสตราดามุสได้แต่งงาน และมีลูกสองคน ก่อนที่ในปีค.ศ.1534 (พ.ศ.2077) ลูกและภรรยาของเขาได้เสียชีวิต ซึ่งสาเหตุก็น่าจะมาจากการติดเชื้อ
1
ด้วยความที่ไม่สามารถช่วยภรรยาและลูกได้ ทำให้ชื่อเสียงของเขาค่อยๆ จางลง คนที่เคยสนับสนุนก็เริ่มจะไม่สนับสนุน
1
ในปีค.ศ.1538 (พ.ศ.2081) นอสตราดามุสได้ถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกนอกรีต เนื่องจากเขาได้วิจารณ์รูปปั้นที่เกี่ยวกับศาสนา และได้รับหมาย ให้เข้ารับการไต่สวนจากคริสตจักร
นอสตราดามุสจึงจำต้องออกเดินทางอีกครั้ง โดยเขาได้เดินทางไปอิตาลี กรีซ และตุรกี
ในช่วงระหว่างการเดินทางนี้เอง เชื่อกันว่านอสตราดามุสได้เกิดความตื่นรู้ทางจิตวิญญาณ และมีเรื่องเล่าว่าขณะเดินทางอยู่ในอิตาลี เขาก็ได้พบกับกลุ่มนักบวชคณะฟรันซิสกัน และนอสตราดามุสก็ได้ทำนายว่าหนึ่งในนักบวช จะได้เป็นพระสันตะปาปาในอนาคต
หนึ่งในนักบวชกลุ่มนั้น มีอยู่คนหนึ่ง ภายหลังได้เป็น “สมเด็จพระสันตะปาปาซิกส์ตุสที่ 5 (Pope Sixtus V)” ตรงตามที่นอสตราดามุสทำนายไว้
สมเด็จพระสันตะปาปาซิกส์ตุสที่ 5 (Pope Sixtus V)
เมื่อเวลาผ่านไปนานพอที่จะคิดว่าปลอดภัยแล้ว นอสตราดามุสจึงเดินทางกลับฝรั่งเศส และในปีค.ศ.1547 (พ.ศ.2090) เขาก็ได้แต่งงานใหม่ และมีลูกอีกหกคน และได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การแพทย์ถึงสองเล่ม
1
จากนั้นไม่กี่ปี นอสตราดามุสก็เริ่มเบนความสนใจจากเภสัชศาสตร์ ไปสู่เวทมนต์คาถา
มีเรื่องเล่าว่า เขาจะใช้เวลานั่งสมาธิเป็นชั่วโมงๆ โดยนั่งสมาธิหน้าถ้วยใส่น้ำผสมสมุนไพร และด้วยการนั่งสมาธิ ทำให้เขาเกิดภาพนิมิตร
1
ในปีค.ศ.1550 (พ.ศ.2093) นอสตราดามุสเขียนปฏิทินประจำปีเล่มแรก ซึ่งในปฏิทินจะบอกข้อมูลเกี่ยวกับดาราศาสตร์และคำทำนายของปีต่อไป
ปฏิทินประจำปีของนอสตราดามุสโด่งดังมาก ซึ่งนอสตราดามุสได้นำภาพนิมิตรที่เห็น มาเขียนเป็นปฏิทินประจำปี
ชื่อเสียงของนอสตราดามุสยิ่งโด่งดัง และทำให้เขาเป็นที่รู้จักไปทั่วฝรั่งเศส
ภายในปีค.ศ.1554 (พ.ศ.2097) ภาพนิมิตรของนอสตราดามุสก็ได้กลายเป็นเนื้อหาหลักในหนังสือของเขา และเขาก็ได้ทุ่มเททุกอย่างให้กับการเขียนหนังสือเรื่อง “Centuries”
2
นอสตราดามุสวางแผนจะเขียนหนังสือ แบ่งออกเป็น 10 เล่ม ซึ่งจะเป็นการรวบรวมคำทำนายกว่า 100 คำทำนาย และทำนายล่วงหน้าไปถึง 2,000 ปี
1
งานเขียนของนอสตราดามุสเป็นที่นิยม และทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่โด่งดังที่สุดแห่งยุคเรเนซองส์
แต่เมื่อมีชื่อเสียง ก็ต้องมีทั้งคนชอบและเกลียด มีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
บางคนคิดว่าเขาเป็นทาสรับใช้ปีศาจ บางคนก็ว่าเขาเป็นคนสติไม่ดีหรือไม่ก็เป็นพวก 18 มงกุฎ แต่ถึงอย่างนั้น คนจำนวนมากก็เชื่อในคำทำนายของเขา โดยเฉพาะเหล่าบุคคลชั้นสูง
หนึ่งในผู้ให้การอุปถัมภ์รายใหญ่ของนอสตราดามุส คือ “พระนางแคทเธอรีน เดอ เมดีชี (Catherine de Medici)” พระราชินีใน “พระเจ้าอองรีที่ 2 แห่งฝรั่งเศส (Henri II of France)”
1
ภายหลังจากที่พระนางทอดพระเนตรหนังสือของนอสตราดามุส ที่เขียนคำทำนายเกี่ยวกับภัยร้ายที่จะมาถึงครอบครัวพระนาง พระนางจึงมีรับสั่งเรียกนอสตราดามุสเข้าเฝ้าเพื่อให้นอสตราดามุสทำนายอนาคต
1
ต่อมาไม่นาน พระนางก็ทรงแต่งตั้งให้นอสตราดามุสมีตำแหน่งในราชสำนัก
พระนางแคทเธอรีน เดอ เมดีชี (Catherine de Medici)
ในปีค.ศ.1556 (พ.ศ.2099) นอสตราดามุสได้ทำนายถึงพระเจ้าอองรีที่ 2
ตามคำทำนายนั้น มีสิงโตหนุ่มตัวหนึ่ง ได้เอาชัยเหนือสิงโตแก่ โดยสิงโตหนุ่มได้ใช้เขี้ยวแทงเข้าที่ตาของสิงโตแก่ ทำให้สิงโตแก่ถึงแก่ความตาย
นอสตราดามุสได้ทรงเตือนพระเจ้าอองรีให้งดพิธีการที่ต้องมีการประลองกำลัง
พระเจ้าอองรีที่ 2 แห่งฝรั่งเศส (Henri II of France)
สามปีต่อมา พระเจ้าอองรีที่ 2 มีพระชนมายุ 41 พรรษา และได้รับบาดเจ็บจากการประลอง โดยถูกหอกแทงเข้าที่พระพักตร์ใต้พระเนตร
พระองค์ทรงพระชนม์ชีพอยู่ได้ 10 วันก็สวรรคต
นอสตราดามุสได้กล่าวว่าคำทำนายของเขา มาจากดวงดาว และนักประวัติศาสตร์หลายคนก็เชื่อว่าคำทำนายเรื่องวันสิ้นโลกของเขา มาจากในคัมภีร์ไบเบิ้ล รวมกับการทำนายดวงดาว
1
นอสตราดามุสเสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ค.ศ.1566 (พ.ศ.2109) ด้วยวัย 62 ปี จากอาการเจ็บป่วยด้วยหลายโรค โดยในคืนวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ.1566 (พ.ศ.2109) เขาได้กล่าวแก่เลขาว่า ในวันรุ่งขึ้น เขาจะไม่อยู่แล้ว
1
หนังสือของนอสตราดามุส ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวของภัยพิบัติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว สงคราม การฆาตกรรม ภัยแล้ง และโรคระบาด
2
คำทำนายของเขา เป็นที่ยอมรับของหลายคนว่าเกิดขึ้นจริงในเวลาต่อมา ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์การปฏิวัติฝรั่งเศส การขึ้นสู่อำนาจของนโปเลียนและฮิตเลอร์ การพัฒนาระเบิดปรมาณู การสังหารประธานาธิบดีเคนเนดี้ รวมถึงเหตุการณ์ก่อการร้ายเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ.2001 (พ.ศ.2544)
ที่ใกล้เคียงกับช่วงเวลานี้ที่สุด ก็คือการระบาดของโควิด-19 ซึ่งหลายคนก็คิดว่าตรงตามคำทำนายของนอสตราดามุส
ประโยคนั้นคือ
“ใกล้กับทางเข้าของเมืองสองเมือง จะเกิดการระบาดของสองสิ่งที่ไม่เคยมีใครได้เห็นมาก่อน นั่นคือความอดอยากในโรคระบาด ผู้คนต่างเดือดร้อน ร่ำร้องขอให้เทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ช่วยบรรเทา”
ความโด่งดังในคำทำนายของนอสตราดามุส หลักๆ น่าจะมาจากการที่คำทำนายของเขา ซึ่งมีความคลุมเครือและไม่บอกวันที่ๆ แน่ชัด ทำให้เหตุการณ์ต่างๆ มีโอกาสที่จะเกิดตรงกับที่ทำนาย และสามารถอ้างได้ว่าเขาทำนายได้แม่นยำ
นักประวัติศาสตร์บางคนเชื่อว่าเขาไม่ได้ทำนาย แต่เป็นการวิจารณ์ถึงเหตุการณ์และผู้คนในยุคสมัยของเขา
1
แต่ไม่ว่าจริงๆ แล้วจะเป็นอย่างไร ชื่อของนอสตราดามุสก็ยังคงโด่งดังและติดอยู่ในประวัติศาสตร์มาจนถึงทุกวันนี้
โฆษณา