21 มิ.ย. 2021 เวลา 05:51 • ประวัติศาสตร์
🏵️รวม​ 6​ เรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​ครั้งแรก​ใน​โลก​สมัย​พุทธกาล​🏵️
"ชาวพุทธ​และชาวโลก​ในยุคปัจจุบัน​วันนี้​ นับว่ามีบุญมากๆ​ ที่ได้ศึกษา​เรียนรู้​ประวัติศาสตร์​ความเป็นมาของพระพุทธ​ศาสนา​และ​ได้โอกาส​ประพฤติ​ปฏิบัติ​ธรรม​ตามคำสอน​ของพระ​สัมมา​สัม​พุทธเจ้า"
เมื่อ 45 ปี ก่อนพุทธศักราช นับตั้งแต่​วันที่มหาบุรุษ​คือเจ้าชายสิทธัตถะได้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ ตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ ใต้ร่มโพธิ์พฤกษ์ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม (อยู่ในเขตประเทศอินเดียในปัจจุบัน)
จาก​วันนั้น​เป็น​ต้นมา​ พระธรรม​คำ​สั่ง​สอน​อันประเสริฐ​ของพระสัมมา​สัม​พุทธเจ้า​จึงหล่อหลอมกล่อมเกลา​ทำให้ชาวชมพู​ทวีปหรือชาวโลก​ได้​พลิกปฏิรูป​ประวัติศาสตร์​เปลี่ยนแปลง​ระบบกรอบความคิด​ในเรื่องเป้าหมาย, หลักการ​และ​วิธีการ​ดับทุกข์​ในใจชาวโลกและการดำรงชีวิตของมนุษย​ชาติและสรรพสัตว์​ทั้งหลายอย่างสมบูรณ์แบบ
และมีหลักฐาน​พยานบุคคล, ศาสนสถาน, วัตถุและคำสอนอันน่าอัศจรรย์​ปรากฏ​อย่าง​เป็น​รูปธรรม​ชัดเจน
ยิ่งกว่า​นั้น​ ยังเป็น​ที่ยอมรับ​กันอย่างแพร่หลาย​ว่า​ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเผยแผ่​พระพุทธ​ศาสนา​ด้วยการเชิญชวน​​ทุกคน​พิสูจน์​ด้วยตนเอง​ ด้วยความสมัครใจ​และเต็ม​ใจ
โดย​มีพยานชัดเจน​คือผลงาน​สร้าง​ต้นบุญ​ต้นแบบ​ พาหมู่ชนจำนวน​มาก​ยึดมั่น​พระธรรมคำสั่ง​สอน​ ดัง​มีบุคคลชุดแรกๆ​ ยืนยัน​คำสอน​ทั้ง​พระอรหันตสาวกและผู้​เป็น​ปฐมสาวกต่าง ๆ​ ดัง​กลุ่ม​บุคคล​รุ่นแรกในโลกตาม​ 6​ ตัวอย่าง​นี้...
.
🔰1.พระ​สัมมา​สัม​พุทธเจ้า​ทรงแสดง​ธรรม​ครั้งแรก​ให้​ใคร​ฟัง​บ้าง​? ผลจาก​การแสดง​ธรรม​เป็นอย่างไร?
พระ​สัมมา​สัม​พุทธเจ้า​ทรงแสดง​ธรรม​ครั้งแรก​ให้​แก่​ปัญจวัคคีย์โดย​พระธรรมเทศนาครั้งแรกที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงหลังจาก​ตรัสรู้​ คือ "ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร" ทรงแสดงแก่ปัญจวัคคีย์​มีทั้งหมด 5 ท่าน ได้แก่​ โกณฑัญญะ, วัปปะ, ภัททิยะ, มหานามะและอัสสชิ​ อันมีโกณฑัญญะเป็นหัวหน้า ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี​ แคว้นกาสี ณ วันที่พระจันทร์เสวยฤกษ์อาสาฬหะ (ตรงกับวันเพ็ญเดือนแปด) ซึ่งต่อมาได้กำหนดเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาขึ้นวันหนึ่งชื่อว่า วันอาสาฬหบูชา
ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร แปลตามตัวอักษรว่า “พระสูตรว่าด้วยการหมุนกงล้อคือพระธรรม”
แต่เดิมปัญจวัคคีย์เป็นนักบวชที่ออกบวชติดตามปรนนิบัติพระพุทธเจ้าตั้งแต่เสด็จออกผนวชใหม่ ๆ ทั้งหมดเป็นชาวกรุงกบิลพัสดุ์ เป็นกลุ่มบุคคลที่ได้ฟังปฐมเทศนาเป็นคณะแรก ได้เป็นภิกษุรุ่นแรกและได้เป็นพระอรหันต์รุ่นแรกในพระพุทธศาสนา
เฉพาะโกณฑัญญะเป็นผู้เคยทำนายลักษณะพระพุทธเจ้าตั้งแต่ตอนประสูติใหม่ ส่วนอีก 4 ท่าน เป็นบุตรของพราหมณ์ที่ทำนายลักษณะของพระพุทธเจ้าร่วมกับโกณฑัญญะ เพราะมีความเชื่อว่าเจ้าชายสิทธัตถะจะต้องได้เป็นพระพุทธเจ้าจึงได้ตัดสินใจ​ออกบวชตาม
เมื่อ​พระพุทธองค์ได้แสดงปฐมเทศนา​"ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร" โกณฑัญญะก็ได้ดวงตาเห็นธรรม บรรลุโสดาบัน โกณฑัญญะได้รับการยกย่องจากพระพุทธองค์ให้เป็นเอตทัคคะในด้านรัตตัญญู เรียกว่า มีราตรีนาน คือเป็นผู้รู้ธรรมก่อนใคร และได้บวชก่อนผู้อื่นในพระพุทธศาสนา จากนั้นพระพุทธองค์ทรงประทาน ปกิณณกธรรมเทศนาสั่งสอนผู้​ที่เหลืออีก 4 ท่าน ให้บรรลุโสดาบันแล้วประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทาให้
ในวันแรม 5 ค่ำ เดือน 8 พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมเทศนาชื่อว่า​"อนัตตลักขณสูตร" ซึ่งมีใจความโดยสรุปว่า​ ขันธ์ 5​ เป็น​ทุกข์​
 
ขณะสดับพระธรรมเทศนา พระภิกษุปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ส่งจิตไปตามกระแสพระธรรมได้บรรลุเป็นพระอรหันต์พร้อมกันทั้ง 5 รูป
.
🔰2.พระอรหันต​สาวก​ที่ไปเผยแผ่​ธรรม​เป็น​คณะ​แรก​คือ​ใคร​บ้าง​?
หลังจาก​พระสัมมา​สัม​พุทธเจ้า​ทรงแสดง​ธรรม​ครั้งแรก​แก่ปัญจวัคคีย์​และมีผู้บรรลุ​ธรรม​เป็น​พระ​โสดาบัน​ และแสดง​ธรรม​ครั้งต่อๆ​ มาจนบรรลุ​พระอรหันต์​ พร้อมกัน​ 5​ รูป​แล้ว
พระพุทธองค์ทรงประทับพรรษาแรกที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ในระหว่างนั้น ยสกุลบุตร บุตรเศรษฐีเมืองพาราณสี ที่ได้รับการปรนเปรอด้วยกามคุณ​ทุก​อย่าง เกิดความเบื่อหน่ายในเพศฆราวาสจึงหนีออกจากบ้าน​ กลางดึกเดินมุ่งหน้าไปยังป่าอิสิปตนมฤคทายวัน​ กล่าวอุทานด้วยความสลดใจว่า “ที่นี่วุ่นวายหนอ​ ที่นี่ขัดข้องหนอ”
พระพุทธเจ้าเสด็จจงกรมอยู่ ตอนจวนใกล้รุ่ง ทรงสดับเสียงของยสกุลบุตร จึงตรัสตอบว่า “ที่นี่ไม่วุ่นวาย ที่นี่ไม่ขัดข้อง มานี่สิ เราตถาคตจะแสดงธรรมให้ฟัง”
ฝ่ายบิดามารดาของยสกุลบุตร เมื่อบุตรหายไปก็สั่งให้ตามหา ผู้เป็นบิดายังมาป่าอิสิปตนมฤคทายวัน พบพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงใช้อิทธิฤทธิ์ไม่ให้พ่อลูกพบกัน ทรงแสดงธรรมแก่เศรษฐีบิดา​ของยสกุลบุตร​ จบพระธรรมเทศนา เศรษฐีบิดายสกุลบุตร​ได้ดวงตาเห็นธรรม แล้วปฏิญาณตนเป็นอุบาสกผู้ถึงพระรัตนตรัยตลอดชีวิต
ยสะนั่งฟังธรรมอยู่เบื้องพระปฤษฎางค์ได้บรรลุพระอรหัต เมื่อพระพุทธองค์ทรงคลายฤทธิ์แล้วพ่อลูกได้มองเห็นกัน บิดาของยสะขอให้บุตรชายกลับไปครองเรือนตามเดิม กล่าวว่า “ตั้งแต่เจ้าหายไป แม่เจ้าร้องไห้ คร่ำครวญเป็นทุกข์มากเจ้าจงให้ชีวิตแก่แม่เจ้าเถิด”
พระพุทธองค์ตรัสว่า บัดนี้ยสะไม่สมควรเป็น​ฆราวาสต่อไปแล้ว ซึ่งเศรษฐีก็เข้าใจ จึงอาราธนาพระพุทธองค์ไปเสวยภัตตาหาร ณ คฤหาสน์ของตน เมื่อบิดากลับไปแล้ว ยสกุลบุตรจึงทูลขอบวช พระพุทธองค์ประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทาให้
รุ่งเช้า พระพุทธองค์เสด็จไปเสวยพระกระยาหารที่คฤหาสน์เศรษฐี มีพระยสะมาด้วย มารดาและอดีตภรรยาของพระยสะได้สดับพระธรรมเทศนา ก็ได้ดวงตาเห็นธรรม ปฏิญาณตนนับถือพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต
เมื่อพระยสะออกบวชแล้ว สหายสนิท 4 คน คือ วิมละ, สุพาหุ, ปุณณชิ และควัมปติ จึงติดตามมาบวชด้วย ไม่นานสหายของยสะที่อยู่ตามชนบทต่างๆ อีกจำนวน 50 ก็มาบวชด้วยเช่นกัน รวมทั้งหมด 54 คน เมื่อบวชแล้วก็ได้บรรลุพระอรหันต์​ทั้งหมด​
จนถึง​ ณ​ ตอนนี้​มีพระอรหันต์สาวกจำนวน 60 รูป
คือพระปัญจวัคคีย์ 5 รูป, พระยสะและสหายพระยสะ 55 รูป​ ร​ว​มเป็น​พระอรหันตสาวก​ 60 รูป​
พระพุทธองค์จึงตรัสเรียกประชุมประทานโอวาทใจความว่า
"ภิกษุทั้งหลาย เราพ้นแล้วจากบ่วงทั้งของทิพย์และของมนุษย์ พวกเธอก็พ้นแล้วเช่นกัน ภิกษุทั้งหลายพวกเธอจงจาริกไป เพื่อประโยชน์แก่คนจำนวนมาก เพื่อความสุขแก่คนจำนวนมาก เพื่ออนุเคราะห์โลก เพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุข แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย พวกเธออย่าไปทางเดียวกันสองคน จงแสดงธรรม งามในเบื้องต้น ท่ามกลาง และที่สุด จงประกาศพรหมจรรย์ (การดำเนินชีวิตประเสริฐ) ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง ทั้งอรรถะและพยัญชนะ”
จากนั้น​แล้วก็ทรงมอบหมาย​ให้แยกย้ายกันไปเผยแผ่แนวทางดำเนินชีวิตอันประเสริฐแก่ชาวโลก​ นับว่าเป็นพระอรหันตสาวก​ 60​ รูป​นี้คือคณะพระธรรมทูตรุ่นแรกยุคบุกเบิก​ในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา
.
🔰3.พระภิกษุ​และ​ภิกษุณี​รูป​แรก​ใน​พระ​พุทธศาสนา​คือ​ ?
☀️พระอัญญาโกณฑัญญะนับเป็นพระสงฆ์รูปแรกในพระ​พุทธศาสนา
เมื่อท่านได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันจากการฟังปฐมเทศนา​แล้ว ท่านได้กราบทูลขออุปสมบท พระพุทธองค์ประทานการอุปสมบทให้ด้วยพระดำรัสว่า “เธอจงเป็นภิกษุมาเถิด ธรรมอันเรากล่าวดีแล้ว เธอจงประพฤติพรหมจรรย์ เพื่อทำที่สุดทุกข์โดยชอบเถิด” ด้วยพระวาจาเพียงเท่านี้ โกณฑัญญะ ก็สำเร็จเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา นับว่าเป็นพระสงฆ์รูปแรกในโลก และการอุปสมบทด้วยวิธีนี้เรียกว่า "เอหิภิกขุอุปสัมปทา"
วันต่อ ๆ มา ท่านที่เหลืออีก 4 คน ก็ได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน และอุปสมบทด้วยกันทั้งหมด พระพุทธองค์ได้จึงตรัสพระธรรมเทศนา “อนัตตลักขณสูตร” โปรดพระปัญจวัคคีย์ เมื่อจบพระธรรมเทศนา ก็ได้บรรลุพระอรหันต์​พร้อมกัน​ทั้ง​หมด
พระอัญญาโกณฑัญญะ เมื่อออกพรรษาปวารณาแล้ว พระพุทธองค์ทรงมอบ​หมายท่านพร้อมกับ​พระอรหันต์​อีก​ 59 รูปไปประกาศพระศาสนาพร้อมกันเป็​นพระสาวกรุ่นแรก รวมเป็น​จำนวน 60 รูป ท่านได้เดินทางไปยังบ้านเดิมของท่าน ได้นำหลานชายชื่อ ปุณณมันตานี ซึ่งเป็นบุตรของนางมันตานี น้องสาวของท่านมาบวช และได้มีชื่อว่า พระปุณณมันตานีบุตรเถระเพราะความที่ท่านเป็นพระเถระ ผู้มีอายุพรรษากาลมาก มีประสบการณ์มาก จึงได้รับยกย่องจากพระบรมศาสดา ในตำแหน่งเอตทัคคะ เป็นเลิศกว่าภิกษุ ทั้งหลายในทางผู้รัตตัญญู หมายถึง ผู้รู้ราตรีนาน
☀️ส่วนพระภิกษุณีรูปแรกในพระพุทธศาสนาคือพระนางมหาปชาบดีโคตมีเถรี (โดยวิธีรับคุรุธรรม 8 ประการ)​
ในช่วง​ประกาศพระศาสนา​ช่วงต้นๆ พระพุทธเจ้าไม่ทรงอนุญาตให้มีภิกษุณีได้ เนื่องจากทรงเห็นว่าจะทำให้อายุของพระพุทธศาสนาไม่ยั่งยืน
ต่อมาพระมหาปชาบดีโคตมีเถรี ผู้เป็นพระน้านางและพระมาตุจฉา หรือพระมารดาเลี้ยงของเจ้าชายสิทธัตถะ ท่านมีศรัทธาอยากบวชจึงทูลอ้อนวอนขอบวชต่อพระพุทธเจ้าถึง​ 3​ ครั้ง แต่ไม่เป็นผล จนกระทั่งพระอานนท์ได้ทูลขอให้ พระพุทธเจ้าจึงทรงอนุญาต โดยมีเงื่อนไขว่า พระนางปชาบดีโคตมีต้องน้อมรับครุธรรม​ 8​ ประการ (แปลว่าข้อปฏิบัติที่หนักและทำได้ยาก) ไปปฏิบัติ
ดังนั้น​ ภิกษุณีที่ทรงอุปสมบทให้​รูป​แรกได้แก่ พระมหาปชาบดีโคตมีเถรี ซึ่งบวชเป็นภิกษุณีรูปแรกด้วยการรับครุธรรมแปดประการ (ท่านเป็นรูปเดียวที่บวชด้วยวิธีเช่นนี้)
ครุธรรม แปลว่า ธรรมอันหนัก หมายถึง ข้อปฏิบัติสำหรับภิกษุณีอันเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นที่ทรงอนุญาตให้สตรีอุปสมบทได้ โดยต้องปฏิบัติด้วยความเคารพตลอดชีวิต มี 8 ประการโดยสรุป คือ
1.แม้บวชมานานนับร้อยปีก็ต้องกราบไหว้ภิกษุ แม้บวชในวันนั้น
2.ต้องจำพรรษาอยู่ในวัดที่มีภิกษุ
3.ต้องไปถามวันอุโบสถและรับฟังโอวาทจากภิกษุทุกกึ่งเดือน
4.ต้องปวารณาในสงฆ์สองฝ่ายหลังจำพรรษาแล้ว
5.ต้องประพฤติมานัตในสงฆ์สองฝ่ายเมื่อต้องอาบัติหนัก
6.ต้องเป็นสิกขมานา 2 ปี ก่อนจึงขออุปสมบทในสงฆ์สองฝ่ายได้
7.ต้องไม่บริภาษด่าว่าภิกษุไม่ว่ากรณีใด ๆ
8.จะว่ากล่าวตักเตือนภิกษุไม่ได้ แต่ภิกษุว่ากล่าวตักเตือนได้
หลัง​จากนั้น​ พระพุทธองค์ได้ทรงวางหลักเกณฑ์การรับสตรีผู้ประสงค์จะบวชเป็นภิกษุณี และวางระเบียบ​วินัยของภิกษุณีไว้มากมาย เพื่อกลั่นกรองผู้ที่ประสงค์จะบวชและมีศรัทธาจริง ๆ​ และ​ทราบกัน​ดี​ว่า​ภิกษุณีเมื่อบวชแล้วต้องถือศีลถึง 311 ข้อ มากกว่าพระภิกษุ​ ซึ่งถือศีลเพียง 227 ข้อ (วินัยของภิกษุณีที่มีมากกว่าพระภิกษุ เพราะผู้หญิงมีข้อควรศึกษา​และประพฤติ​ปฏิบัติ​ที่ซับซ้อน​ละเอียด​อ่อนในการดำรงชีวิตมากกว่าผู้ชาย)​
🔰4.สามเณร​รูป​แรก​ใน​พระ​พุทธศาสนา​ คือ?
สามเณร​ราหุล คือสามเณรรูปแรกในพระพุทธศาสนา
วันหนึ่ง พระพุทธ​องค์​เสด็จไปที่พระราชนิเวศน์ของพระราชบิดา พระนางยโสธราได้ส่งราหุลกุมารผู้เป็นราชโอรสของพระองค์ออกมาขอราชสมบัติที่ตนควรจะได้รับ เพราะพระศาสดาเป็นพระโอรสองค์ใหญ่ของพระเจ้าสุทโธทนะ ควรจะได้รับราชสมบัติสืบพระวงศ์ เมื่อพระองค์ไม่ทรงรับแล้ว ก็ควรจะประทานให้พระโอรส
ดังนั้น จึงส่งราหุลกุมารออกไปทูลขอราชสมบัติกับพระพุทธ​เจ้า​ พระพุทธเจ้าทรงเห็นว่า ทรัพย์ภายนอกมีแต่จะทำให้เวียนว่ายตายเกิดจมอยู่ในกองทุกข์ จึงได้ประทานทรัพย์ภายใน คือ อริยทรัพย์ ให้พระราหุลด้วยการให้บรรพชาเป็นสามเณร​ ดังนั้น พระองค์​จึงตรัสสั่งพระสารีบุตรให้บวชราหุลเถิด
ในขณะนั้น ราหุลกุมารอายุยังไม่ครบอุปสมบท พระสารีบุตรจึงทูลถามว่า จะบวชราหุลวิธีใด พระพุทธ​องค์​จึงทรงอนุญาตให้ภิกษุบวชกุลบุตรที่อายุยังไม่ครบอุปสมบทให้เป็นสามเณรด้วยการให้รับสรณคมน์ 3 เหมือนวิธีอุปสมบทที่ทรงอนุญาตแก่ภิกษุในครั้งแรกที่ส่งไปประกาศพระศาสนา ภายหลังยกเลิกวิธีการอุปสมบทภิกษุด้วยวิธีรับสรณคมน์ ดังนั้น​ สามเณร​ราหุลจึงเป็นสามเณรรูปแรกในพระพุทธศาสนา
เมื่อบวชแล้ว​สามเณร​ราหุลเป็นผู้ใคร่ต่อการศึกษาพระธรรมวินัยอย่างมาก ทุกเช้าเมื่อตื่นขึ้นมา ท่านจะกอบทรายจนเต็มมือ แล้วอธิษฐานว่า “วันนี้ขอให้เราได้รับพระโอวาทคำสั่งสอน มากเท่ากับจำนวนเมล็ดทรายในกำมือนี้”
เมื่อครบ 20 ปี ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ มีพระอุปัชฌาย์ คือ พระสารีบุตร ท่านบวชได้ไม่นานก็สำเร็จเป็นพระอรหันต์ โดยได้รับยกย่องจากพระพุทธ​องค์​ว่า​เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งปวงในด้านเป็นผู้ใคร่ต่อการศึกษา
.
🔰5.อุบาสก​และ​อุบาสิกา​ท่าน​แรก​ของ​โลก​คือ​ ?
☀️ตปุสะและภัลลิกะ​ คือ​ ปฐม​อุบาสกในพระพุทธศาสนา
หลังจากตรัสรู้ได้ไม่นานพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จไปประทับนั่งเสวยวิมุตติสุข ณ ควงไม้ราชายตนะ (ไม้เกด) สมัยนั้นพ่อค้าชื่อตปุสะและภัลลิกะ เดินทางไกลจากอุกกลชนบทถึงตำบลนั้น ครั้งนั้นเทพยดา ผู้เป็นญาติของพ่อค้าทั้งสองได้แนะนํา​ตปุสะและภัลลิกะ
ว่าพระสัมมา​สัม​พุทธเจ้าเพิ่งตรัสรู้ กำลังประทับอยู่ ณ ควงไม้ราชายตนะ ให้​ไปบูชาพระพุทธ​องค์​ด้วยสัตตุผงและสัตตุก้อน การบูชาของท่านนี้จะมีอานิสงส์​และความสุขตลอดกาลนาน"
พ่อค้าทั้งสองจึงนำสัตตุผงและสัตตุก้อนเข้าไปเฝ้าพระสัมมา​สัม​พุทธเจ้า​ ในขณะนั้นท้าวมหาราชทั้ง 4 องค์ที่มาจาก 4 ทิศนำบาตรที่ทำด้วยศิลา 4 ใบเข้าไปถวายพระพุทธ​เจ้า เพื่อ​ให้พระองค์​ใช้บาตรที่ทำจากศิลาอันใหม่เอี่ยมรับสัตตุผงและสัตตุก้อนแล้วเสวย
พ่อค้าตปุสสะและภัลลิกะ ได้กราบทูล​แด่พระพุทธ​องค์​ว่า "ข้าพระพุทธเจ้าทั้งสองนี้ ขอถึงพระผู้มีพระภาคเจ้าและพระธรรมว่าเป็นสรณะ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าจงทรงจำข้าพระพุทธเจ้าทั้งสองว่าเป็นอุบาสกผู้มอบชีวิตถึง สรณะจำเดิมแต่วันนี้เป็นต้นไป"
สาเหตุที่พ่อค้าทั้งสองขอถึงเพียงพระพุทธ​เจ้าและพระธรรมเป็นสรณะ แต่ไม่ได้ขอถึงพระสงฆ์เป็นสรณะ เพราะขณะนั้นพระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้ายังไม่เกิดขึ้น แม้ "สังฆรัตนะ" คือพระธรรมกายละเอียดภายในจะอุบัติขึ้นตั้งแต่วันที่พระโพธิสัตว์ตรัสรู้แล้วก็ตาม
☀️นางสุชาดา​(มารดาของ​พระยสะ)​และภรรยาเก่าของท่านพระยสะ​ คือ​ ปฐมอุบาสิกาในพระพุทธศาสนา
หลังจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเผยแผ่พระธรรมคำสอนมาได้ระยะหนึ่ง จนมีผู้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ 7 องค์ รวมทั้งพระพุทธองค์ด้วย พระอรหันต์องค์ที่ 7 คือ พระยสะซึ่งเป็นบุตรของนางสุชาดาผู้ถวายข้าวมธุปายาส ในวันที่พระโพธิสัตว์ตรัสรู้นั่นเอง
วันหนึ่งพระพุทธ​เจ้ามีท่านพระยสะเป็นปัจฉาสมณะ​(ผู้​ติดตามและช่วยเหลือ​)​ เสด็จไปสู่บ้านของพระยสะ วันนั้นพระพุทธองค์ได้แสดงธรรมคืออนุปุพพิกถาแก่นางสุชาดาและอดีตภรรยาของท่านพระยสะ ดังนี้
1.ทานกถา คือ เรื่องการให้ทาน
2.สีลกถา คือ เรื่องการรักษาศีล
3.สัคคกถา คือ เรื่องทิพยสมบัติบนสวรรค์ อันเป็นผลจากการให้ทานและรักษาศีล
4.โทษความต่ำทราม ความเศร้าหมองของกามทั้งหลาย
5.อานิสงส์ในความออกจากกาม
จากนั้นพระพุทธองค์ก็ตรัสเรื่องอริยสัจ 4 ขณะที่ทรงแสดงอริยสัจ 4 อยู่นั้น ดวงตาเห็นธรรมปราศจากธุลี ปราศจากมลทินว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดาสิ่งนั้นทั้งมวล มีความดับเป็นธรรมดาได้เกิดแก่นางทั้งสอง
เมื่อมารดาและภรรยาเก่าของท่านพระยสะได้เห็นธรรม คือบรรลุเป็นพระโสดาบันแล้ว ได้ทูลคำนี้ต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ภาษิตของพระองค์ไพเราะนัก พระพุทธเจ้าข้า พระองค์ทรงประกาศธรรมโดยอเนกปริยาย เปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำเปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง หรือส่องประทีปในที่มืดด้วยตั้งใจว่าคนมีจักษุเห็นรูป
หม่อมฉันทั้งสองนี้ขอถึงพระผู้มีพระภาคเจ้า พระธรรม และพระภิกษุสงฆ์ว่าเป็นสรณะ ขอพระองค์จงทรงจำหม่อมฉันทั้งสองว่า เป็นอุบาสิกา ผู้มอบชีวิตถึงสรณะ จำเดิมแต่วันนี้เป็นต้นไป"
มารดาและภรรยาเก่าของท่านพระยสะจึงได้เป็นอุบาสิกา ผู้ขอถึงและเข้าถึงพระรัตนตรัยเป็นชุดแรกในโลก คำว่าเข้าถึงพระรัตนตรัยคือการได้เข้าถึงพระธรรมกายโสดาบันนั่นเอง
.
🔰6.ผู้ถวาย​วัดแห่ง​แรก​ใน​พระ​พุทธศาสนา​ คือใคร?
พระเจ้าพิมพิสารเป็น​ผู้​ถวาย​เวฬุวันมหาวิหารเป็น​วัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา
เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วได้เสด็จไปยังเมืองราชคฤห์ ทรงแสดงพระธรรม​เทศนา​โปรด พระเจ้าพิมพิสาร​ กษัตริย์​แห่ง​แคว​้้นมคธ​ และประชาชนจนได้ดวงตาเห็นธรรมกว่าแสนคน
พระเจ้าพิมพิสารทรงบรรลุโสดาปัตติผล​ ประกาศตนเป็นพุทธมามกะ​ ทรงศรัทธา​เลื่อมใส​ในพระ​พุทธศาสนามาก​จึงยกพระราชอุทยานสวนไผ่​มีที่ตั้งอยู่นอกเมืองราชคฤห์​ ถวายเป็นที่ประทับแห่งแรกแด่พระ​สัมมา​สัมพุทธเจ้าและเหล่าพระสงฆ์สาวก ด้วยทรงเห็นว่าเป็นที่สงบร่มรื่น เหมาะสำหรับบำเพ็ญธรรมของพระสงฆ์​ นับ​เป็น​วัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา และเป็นศูนย์กลางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้กว้างไกลจนกระทั่งมนุษย์และเทวดาบรรลุมรรคผลเป็นจำนวนมาก​ เป็นพยานยืนยันว่าสิ่งที่พระพุทธองค์ตรัสรู้มีจริง​ สามารถเข้าถึงได้จริง และเป็นของดีจริง
นอกจากนี้วัดนี้ยังเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์แก่พระสาวกจำนวน 1,250 รูปอันเป็นที่มาของ "วันมาฆบูชา" แล้วส่งคณะพระอรหันตสาวกรุ่นบุก​เบิกไปประกาศพระพุทธ​ศาสนา จนกระทั่ง​พระพุทธ​ศาสนา​ได้เจริญ​รุ่งเรือง​มีอายุ​ยืนยาว​อยู่​ถึงปัจจุบัน
💐ชาวพุทธ​และชาวโลก​ในยุคปัจจุบัน​วันนี้​ นับว่ามีบุญมากๆ​ ที่ได้ศึกษา​เรียนรู้​ประวัติศาสตร์​ความเป็นมาของพระพุทธ​ศาสนา​และ​ได้โอกาส​ประพฤติ​ปฏิบัติ​ธรรม​ตามคำสอน​ของพระ​สัมมา​สัม​พุทธเจ้า
เพราะ​ในช่วงต้นพุทธกาลและสมัยพุทธกาล​ เป็น​ช่วงแห่งการบุก​เบิกวางรากฐาน​เพื่อ​ปักหลัก​และเผยแผ่​พระพุทธ​ศาสนา​ในโลก​ ที่ได้​มีแบบอย่างของพระอรหันตสาวก, พุทธบริษัท​ทั้ง​ 4​ ซึ่ง​นับเป็น​ปูชนียบุคคล​ต้นแบบของโลกทั้ง​ 6​ ตัวอย่าง​นี้ ที่ได้น้อมนำคำสอน​ของพระ​สัมมา​สัม​พุทธเจ้า​มาปฏิบัติ​อย่าง​เข้มแข็ง​ มีศรัทธา​และจิตใจ​อันมั่นคง​สู่หนทาง​พระนิพพาน​ ทำให้มรดก​ธรรม​คำสอนอันประเสริฐ​นี้สืบทอดต่อเนื่อง​มาจน​ถึง​ปัจจุบัน
ดังนั้น​ ภารกิจ​หน้าที่​ของชาวพุทธ​และ​ชาวโลก​ในปัจจุบั​นก็คือ​ศึกษา​พระธรรมวินัย​ของพระพุทธ​องค์​ให้​แตกฉาน, สนับสนุน​ให้เกิดการประพฤติ​ปฏิบัติ​ธรรม​ ทั้งทำทาน, รักษา​ศีล, สวดมนต์​สรรเสริญ​คุณ​พระรัตนตรัย, เจริญ​สมาธิ​ภาวนา, หมั่นปฏิบัติ​ธรรมตามคำสอนของพระพุทธองค์​ พร้อม​กับหาวิธี​การขยายเผยแผ่​พระ​พุทธศาสนา​ นำแรงบันดาลใจ​จาก​บุคคล​ใน​ยุค​พุทธกาล​ ให้สามารถ​ส่งพลัง​แห่งดวงปัญญา​ต่อ​ไป​ยัง​เยาวชน​คนรุ่นต่อ​ ๆ​ ไปและต่อเนื่อง​ไปอย่างไม่ขาดสาย​และอย่างมีประสิทธิภาพ​ ด้วยการศึกษา​ธรรม​และพัฒนาการ​เผยแผ่​ในยุคเทคโนโลยี​สมัย​ใหม่นี้ทำให้​เห็น​เป็น​รูปธรรม​ว่า...
เราจะร่วมแรงร่วมใจกันทำหน้าที่​สืบทอด​อายุ​พระพุทธ​ศาสนา​วางระบบ​การเผยแผ่​ไปอีกอย่างน้อย​ 5,000 ปี
อย่ายอม​ให้​พระพุทธ​ศาสนา​ต้องสิ้นสุด​ที่รุ่นของพวกเรา​เป็น​เด็ดขาด.
ที่มา​: พุทธ​ประวัติ, หลักสูตร​นักธรรม​และ​ธรรม​ศึกษา
โฆษณา