21 มิ.ย. 2021 เวลา 14:25 • ความคิดเห็น
ช่วงเวลาที่ท้องฟ้าแจ่มใส
เหมาะกับการนำรองเท้าคู่โปรดออกไปสัมผัสพื้นผิวถนน
หากแต่ความรื่นรมย์นั้นต้องแลกมาด้วยไอแดดที่ร้อนระอุ
หน้าผากที่สะท้อนกับแดด
ฝ่าเท้าที่เหมือนเหยียบตะแกรงร้อนๆ อยู่ตลอดเวลา
คำถามคือ แล้วมึงจะวิ่งทำไมตอนห้าโมง ?
ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในแง่ของการวิ่งระยะยาว
เพราะถ้าผ่านมาครึ่งทางหรือครึ่งชั่วโมง
แดดร้อนเหมือนซ้อมตกนรก ก็จะถูกลับไปตามบ้านเรือน
เป็นแค่เพียงช่วงแรกเท่านั้นต้องสู้ทนกับไอแดด
นอกจากแรงกาย อาจจะพึ่งแรงใจผลักไปด้วย
การต่อสู้กับความร้อนที่แผดเผา
มันกัดกินทั้งหัวใจที่อยากจะเลิก
และร่างกายที่ถูกกระทบด้วยอย่างจัง
คำถามที่ผุดขึ้นในหัวช่วงแรกตอนออกวิ่งผุดขึ้นมาตลอดเวลา
มึงจะวิ่งไปทำไม ?
วิ่งแบบนี้มึงจะได้อะไร ?
ผมไม่เคยให้คำตอบกับคำถามนี้ได้อย่างแจ่มแจ้ง
รู้เพียงแค่ว่าจะต้องวิ่งไปให้ได้ตามเป้าหมายที่ได้กำหนด
ทิ้งความร้อนไว้บนผิวกาย
เหนื่อยหนักก็ลดความเร็ว
ถูกแผดเผาก็วิ่งให้เร็วขึ้น
รู้แค่ว่าจะต้องวิ่งไปในเส้นทางที่อยากจะไป
ไม่ว่าวันนี้แดดจะออก ฝนจะตก หรือจะหนาวเหน็บ
ก็เพียงแค่ก้าวออกไปเพื่อเผชิญหน้ากับฤดูเหล่านั้น
บางครั้งเราอาจจะพ่ายแพ้ต่อสภาพอากาศ
แต่เชื่อว่าเดี๋ยวฤดูกาลก็จะผ่านไป
เดี๋ยวแดดร้อนๆ จะลับขอบฟ้า
อากาศหนาวจะถูกลบด้วยไอแดด
พายุฝนจะถูกกลบด้วยสายรุ้ง
การวิ่งท่ามกลางแดดจ้าอาจจะทำให้ผมท้อเป็นบางครั้ง
แต่เมื่อเราก้าวเข้าเส้นชัยที่มองไม่เห็นได้แล้ว
เราจะกล้าก้าวออกไปเผชิญกับแดดจ้านั้นอีกครั้ง
การวิ่งอาจไม่ได้ทำให้ร่างกายแข็งแรกเพียงอย่างเดียว
หากแต่หล่อหลอมให้หัวใจแข็งแรงตามไปอีกด้วย
แด่เส้นชัยที่(ยัง)มองไม่เห็น
ThiNKNOTE
โฆษณา