3 ก.ค. 2021 เวลา 06:00 • ท่องเที่ยว
คิดจะพักคิดถึงหมู่เกาะสุรินทร์
แต่พอไปจริงๆ ไม่เคยได้พัก!! :: EP.1
หมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา แน่นอนว่าถ้าเปิดกูเกิลดูแล้วจะพบว่า มันสวยมากกกกกก
เชื่อว่าทุกคนที่เคยได้มาสัมผัสที่นี่จะต้องหาโอกาสกลับมาอีกแน่นอน แต่การเดินทางไปมันก็ไม่ได้ง่ายเลย
โดยเฉพาะการเดินทางไปสำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัว ซึ่งเราสามารถเลือกที่จะนั่งเครื่องบินไปลงภูเก็ตได้ แต่ตารางเวลาในการเดินทางจะไม่ค่อยพอดี แล้วยังต้องต่อรถตู้หรือเช่ารถเพื่อจะมาขึ้นเรือที่ อ.คุระบุรี จ.พังงาอีก
เราจึงเลือกที่จะเดินทางโดยรถทัวร์จากกรุงเทพ เพราะตารางการเดินรถจะสัมพันธ์กันพอดีกับตารางการเดินเรือทั้งขาไปและขากลับพอดี อีกอย่างเราก็คิดว่า เดินทางกลางมันคืนสบายๆ หลับบนรถตื่นมาตอนเช้าก็ถึงพอดี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง)
แต่เดี๋ยวก่อน!!
เอาเข้าจริงเนี่ย รถออก 2 ทุ่ม!! มันไม่ใช่เวลานอนของเราแน่ๆ แต่มันก็ต้องพยายามข่มตานอน หลับๆ ตื่นๆ อยู่สักพัก มองไปข้างนอกก็คือยังไม่หลุดพ้นจากเส้นพระราม 2 เลย!!! รถติดแบบสุดๆ
แต่พอเรานั่งรถไปได้สักพักนึง เราก็จะเริ่มเพลียๆ จนหลับไป แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นที่ว่าหลับสนิท และแน่นอนเมื่อถึงจุดๆ นึง ที่เราใกล้จะหลับได้อย่างเต็มที่ จากระดับ light ที่กำลังจะไหลเข้าไปสู่โหมด deep ก็จะมีไฟสว่างๆ สาดใส่หน้าพร้อมเสียงดังที่ว่า…
พัก 20 นาที ~~~~~~~~~
นั่นละฮะ กำลังจะยาว แต่ก็ต้องตื่นเพราะ
จอดพักรถ และแวะกินข้าว ซึ่งดูนาฬิกาแล้วตอนนี้ก็จะอยู่ในช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน ~ ตีหนึ่ง
จุดนั้นอ่ะมันก็ง่วง แต่ก็ขอตัวลงไปเข้าห้องน้ำสักหน่อย จะให้ไปนั่งกินข้าวตอนนี้มันก็ไม่ใช่เวลากิน😩
ก็เลยเดินไปเดินมาหาซื้อขนม ไปๆ มาๆ หายง่วง!! พอถึงเวลากลับขึ้นรถก็ต้องมาเริ่มต้นบิ้วตัวเองใหม่อีกครั้ง บิ้ววนไปปปป.. สักพักใหญ่ๆ พอเราเริ่มเพลีย กำลังจะหลับได้ที่จริงๆ เช้าพอดีถึงที่หมาย.. สรุปไม่ได้นอน
พอเรามาถึงที่ บขส.คุระบุรีแล้ว จะมีรถมารอรับเราไปท่าเรืออีกทีนึง ซึ่งออฟฟิศของทางเรือที่เราจองไว้ (Sabina Tour) ก็จะมีห้องอาบน้ำกับที่นั่งพักให้ พร้อมเสริฟปาท่องโก๋ที่อร่อยมาก
ซึ่งถ้าใครไม่อิ่มก็เดินออกไปฝั่งตรงข้ามได้เลย เพราะมีร้านข้าวเหนียวไก่ทอดที่ดีมากกก ถูกใจสาวกไก่ทอดแบบเราสุดๆ จนต้องซื้อติดใส่กระเป๋าไปด้วยอีกชุด
เตรียมตัวให้พร้อม ก่อนที่เราจะต้องออกไปสู้รบอีกครั้งกับการนั่งสปีดโบ๊ทไปที่หมู่เกาะสุรินทร์ด้วยเวลาอีกเกือบชั่วโมง (ใช้เวลาประมาณ 45 นาที)
และถ้าวันไหนเจอคลื่นลมแรงขึ้นมา ก็ให้เตรียมช่องท้องรอไว้ดีดีเลย เพราะจะกระแทกแบบสุดๆ บางคนก็ถึงขั้นที่ว่า คืนอาหารเช้าออกมาสู่โลกกันเลยทีเดียว นั่งถือถุงอ้วกกันคนละใบ (หรือจริงๆ เราก็ไม่ต้องกินข้าวมาจนแน่น ก็น่าจะดีกว่านะ)
แต่พอไปถึงแล้ว บอกได้เลยว่ามันคุ้มค่าจริงๆ
เพราะว่าวิวสวยมากกก สวยจนลืมความพะอืดพะอมเมื่อครู่ไปเลย สิ่งแรกที่เจอก็คือน้ำใสแล้วเป็นสีฟ้า สีฟ้าแบบฟ้าาาาน้ำทะเลสุดๆ
ตัวละครเด่นๆ เลยจากวิวตรงนั้นก็คือเรือหางยาว เพราะตัดกับสีน้ำได้สวยมาก ซึ่งเรือหางยาวจะมารับเราเพื่อเข้าไปที่อ่าวที่พักอีกที
ในระหว่างที่รอเปลี่ยนเรือ เชื่อว่าทุกคนที่เดินทางไปจะได้รับความประทับใจจากวิวที่อยู่ตรงหน้าอย่างแน่นอนค่ะ ☺️
ที่แห่งนี้เป็นที่ที่เราอยากจะกลับมาในทุกๆ ปี ซึ่งแพลนที่เตรียมไว้ล่าสุดนั้น ก็เป็นอันต้องยกเลิกการเดินทางไป เพราะเป็นช่วงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19
และตอนวันที่ใกล้จะเดินทางไป มีคนใกล้ชิดไม่สบายมีไข้พอดีอีกกกก ก็คือมีความระแวงโควิด แล้วก็ระแวงว่าตัวเองจะติดไปด้วยไหม เกิดเราไปตัวร้อนกลางเกาะขึ้นมาจะทำยังไง ก็เลยขอเจียมเนื้อเจียมตัว นอนกินพารากักตัวเองไม่ไปไหนตลอดสงกรานต์ที่ผ่านมา
1
สรุป!! ไม่มีใครเป็นอะไร แค่ตัวร้อนอย่างเดียวเลย อดเที่ยว!! น้ำตานอง! ก็คิดซะว่าหยุดเชื้อเพื่อชาติสินะ
1
...
..
สิ่งที่เรารู้สึกว่าที่หมู่เกาะสุรินทร์นี้พิเศษกว่าที่อื่น นอกจากน้ำทะเลที่ใส และโลกใต้ทะเลที่สวยมากๆ แล้ว ก็คือในชีวิตเราอ่ะ ไม่ว่าเราจะไปนอนเต็นท์มาแล้วสักกี่ป่า กี่ดอย
แต่จะมีสักกี่ที่ในประเทศไทยกัน ที่ให้เราได้นอนเต็นท์แบบใกล้ชิดทะเลขนาดนี้ หรือเรียกว่านอนบนชายหาดเลยนั่นแหละ!!! (ก็แหงแหละ เคยแต่ไปนอนป่า นอนดอย จะมีทะเลจริงๆ ได้ยังไง)
แบบที่ตื่นมาก็วิ่งลงทะเลได้เลย นอนฟังเสียงคลื่นไปได้ทั้งวันทั้งคืน รับรองว่าเราจะได้รับกำลังใจเต็มเปี่ยม เพราะไม่ว่าเราจะหลับหรือตื่น ก็มีแต่ทะเลนี่แหละ ที่คอยบอกเราตลอดว่า
ซู่ ซู่ !!! ✌🏻
1
(ผ่ามพาม!)
และด้วยความที่ ที่นี่ ~
มีเพียง หาดทราย ทะเลสายลม และสองเรา ~
(อ่านใส่ทำนองพี่เบิร์ด)
ครั้งแรกที่ไป เราพักที่อ่าวช่องขาด ซึ่งมีพื้นที่สำหรับกางเต็นท์ไม่เยอะมากนัก ทำให้ค่อนข้างเป็นส่วนตัวมาก มากแบบที่รู้สึกได้ว่า เหมือนมาเช่าเกาะนอน backpack กางเต็นท์ริมทะเลชิวๆ อะไรทำนองนั้นเลย กลางคืนเงียบสงบมาก ดาวชัดมากกกกก
ส่วนครั้งต่อมา เราพักที่อ่าวไม้งาม ซึ่งที่นี่จะรองรับผู้คนได้มากกว่า มีจุดให้เรานำเต็นท์ส่วนตัวไปกางเองได้อย่างเพียงพอ ผู้คนก็จะครึกครื้นมากกว่า เพราะพื้นที่ของอ่าวนี้กว้างมาก และชายหาดก็ยาวมาก
หาดทรายที่อ่าวไม้งามจะโค้งเป็นแนวยาว จนสุดทางก็มีต้นโกงกางและกองโขดหินกองใหญ่ ทำให้เราสามารถสร้างแลนด์มาร์ค หาจุดสงบๆ นอนผูกเปล หรือปูเสื่อพักผ่อนได้ไม่ยากเลย
หรือจะเปิดคอลเลคชั่นริมหาด ตามโขดหินสัก 1000 รูป เปลี่ยนชุดไป 10 คอลเลคชั่น ก็ไม่ต้องคอยหลบใคร เพราะว่ามัน สงบมากกกก ถ่ายไปเถอะไม่ติดคนหรอก เรียกได้ว่าทริปเมมเต็มกันเลยทีเดียว
และจากที่คิดไว้ว่าจะมาพักผ่อน มาสโลว์ไลฟ์ ก็คือไม่จริงเลยจ้า หาทำเยอะไปหมด หาทำได้ทั้งวัน~
1
และอีก 1 สถานที่ ที่เมื่อมาหมู่เกาะสุรินทร์แล้ว จะต้องได้แวะไป ที่นั่นก็คือ
"หมู่บ้านมอแกน"
ที่หมู่บ้านน้องๆ จะทำงานฝีมือ โปสการ์ด สร้อยคอ กำไรข้อมือ แหวนต่างๆ ที่ประดิษฐ์ได้จากสิ่งรอบตัว มานั่งขายอยู่ตามใต้ถุนบ้านตัวเอง และทุกคนคือ เฟรนลี่มากกกก ใครมีโอกาสได้แวะไปก็อุดหนุนน้องๆ กันด้วยน๊าาาา และส่วนใครที่เป็นทาสแมวก็คือเพลินมากเพราะที่นี่มีแมวอยู่หลายตัวเลยทีเดียว
แค่มาเดินเล่นในหมู่บ้าน ฟังประวัติหมู่บ้าน ถ่ายรูปเล่น เลือกซื้อของ เลือกของฝาก ชวนเด็กๆ ถ่ายรูปเล่น นั่งเล่นแมว ไปๆ มาๆ หมดไปครึ่งวันแล้วจ้าาา
ถึงบอกว่า มาหมู่เกาะสุรินทร์ คิดจะพักแต่ก็คือไม่ได้พักเลยยยย
เรียกได้ว่า มีเรื่องราวมากมายที่ไม่มีใครได้ฟัง (อ่านใส่ทำนองอีกแล้ว)
ซึ่งเราขอมาเล่าต่อใน EP.2 นะคะ
.
.
ยังมีวีรกรรมสุดป่วงที่เราได้พบเจอมากมายเหลือเกิน
ตั้งแต่การไปดำน้ำจนหน้าจะทิ่มปลาปั้กเป้าเพราะมองไม่เห็น
หรือจะเป็นเรื่องมือถือตกน้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไปทุกปีพังเกือบทุกปี
และการว่ายน้ำข้ามเกาะประหนึ่งคิดว่าตัวเองเป็นโตโน่
1
ขอฝากติดตามในตอนต่อไปด้วยนะคะ
.
.
.
#ทริปป่วงxหมู่เกาะสุรินทร์
#เที่ยวทิพย์
#หมู่เกาะสุรินทร์
โฆษณา