22 มิถุนายน วันสำคัญครบรอบ 149 ปีกับการจากไปขออริยสงฆ์แห่งต้นกรุงรัตนโกสินทร์สมเด็จโต พรหมรังสี เล่าไปอ๋อไปขอนำเสนอเรื่องราวให้ลูกเพจกันนะครับ ท่านฝากแง่คิดดีๆมากมายให้คนรุ่นหลังอย่างเราได้เก็บมาคิด ผมขอเสนอสัก 3-4 ตอนที่ประทับใจส่วนตัวมาฝากกันครับ (ชอบตอนไหน บอกเราด้วยนะ)
ขอบคุณภาพจาก dhammajak.bet
✅เรื่องแรก อ่านแล้วเก็ตเลย 🙏
บุญเราไม่เคยสร้าง ใครที่ไหนจะมาช่วยเจ้า ลูกเอ๋ย ก่อนที่จะเข้าไปขอบารมีหลวงพ่อองค์ใด เจ้าจะต้องมีทุนของตัวเอง คือบารมีของตนลงทุนไปก่อน เมื่อบารมีของเจ้าไม่พอจึงค่อยขอยืมบารมีคนอื่นมาช่วย มิฉะนั้นเจ้าจะเอาตัวไม่รอด เพราะหนี้สินในบุญบารมีที่ไปเที่ยวขอยืมมาจนพ้นตัว
เมื่อทำบุญทำกุศลได้บารมีมา ก็ต้องเอาไปผ่อนใช้หนี้เขาจนหมดไม่มีอะไรเหลือติดตัว...แล้วเจ้าจะมีอะไรไว้ในภพหน้า หมั่นสร้างบารมีไว้ แล้วฟ้าดินจะช่วยเอง
... จงจำไว้นะ... เมื่อยังไม่ถึงเวลาเทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่วยเจ้าไม่ได้... ครั้นเมื่อถึงเวลา... ทั้วฟ้าจบดินก็ต้านเจ้าไม่อยู่... จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดิน เมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลยจะมีใครที่ไหนมาช่วยเจ้า
บทความนี้ทำให้ผมคิดได้เวลาไปไหว้พระขอพร บนบานต่างๆ ระยะหลังผมจะไม่บนบานแต่เปลี่ยนเป็นแผ่เมตตาให้กับเจ้ากรรมนายเวร รวมถึงเทวดาประจำตัวและคนในครอบครัว เหมือนเป็นการสร้างบารมีบุญในตัว ลองประยุกต์ใช้กันดูนะครับ
✅เรื่องที่สอง เป็นเกร็ดประวัติสนุกๆ เรื่องราวที่หญิงจีนจะมาขอหวยกับสมเด็จโต โดยนัดแนะกับเด็กวัดให้ขึ้นไปคุยกับสมเด็จที่กุฎิแล้วบีบนวดไปด้วย จากนั้นเด็กวัดก็ถามว่า “ท่านตา ท่านตา หวยงวดนี้มันจะออกอะไร” ขรัวโต เมื่อได้ยินดังนั้นก็ตอบกลับมา “ข้าบอกไม่ได้โว้ย เดี๋ยวหวยของข้าจะรองร่อง ขณะที่หญิงจีนคนนั้นแอบฟังอยู่ใต้กุฎิ พอได้ยินเสียงสมเด็จโตก็เผ่นแนบไปเลย 555 ฟังเรื่องนี้ดูก็คิดตามนะครับ หวยอักษรหรือหวยกข ในสมัยนั้นมีมาตั้งแต่รัชกาลที่ 3 ส่วนสมเด็จท่านอยู่ถึง 5 แผ่นดิน (รัชกาลที่ 1-5) อ๋อไหมครับ…อ๋อ
✅เรื่องที่สาม บุญไม่เต็มบาทของยายแฟง
หากท่านผ่านไปแถบป้อมเขตศัตรูพ่ายจะเห็นวัดๆหนึ่งที่เกิดจากความตั้งใจของยายแฟง หัวหน้าซ่องนครโสเภณี ที่ตั้งใจจะทำความดีสร้างวัดขึ้นมาเรียกว่า วัดใหม่ยายแฟง และได้นิมนต์สมเด็จโตไปเทศน์ มีตอนหนึ่งน่าสนใจ ท่านเทศน์ความว่า “ยายแฟงสร้างวัดนี้ได้รับอานิสงค์พร่องไม่เต็มหน่วย เพราะเป็นเงินที่ได้มาโดยไม่ชอบธรรมนิยม (จากการเปิดซ่อง) ถ้าเปรียบเป็นเงินบาทจะได้ไม่เต็ม ได้เพียงสลึงฟึงเฟื้องเท่านั้น ต่อมา เปลี่ยนชื่อวัดนี้เป็น วัดคณิกาผล แปลว่า วัดที่สร้างจากผลประโยชน์ของนางโสเภณี นั้นเอง และสำนวนคำว่า “ไม่เต็มบาท” น่าจะมาจากเรื่องราวนี้นั้นเอง อ๋อ…ไหมครับ…อ๋อ
(มีภาพประกอบยายแฟงในวัด ขอบคุณ madchina.org.net)
✅ เรื่องที่สี่ จุดไต้กลางวันแสกๆ
เรื่องมีอยู่ว่าครั้งที่รัชกาลที่ 4 สวรรคต เปลี่ยนผลัดแผ่นดินองค์จุฬาลงกรณ์ขึ้นเป็นกษัตริย์ในรัชกาลที่ 5 แต่ทว่าอายุเพียง 15 พรรษาต้องมีผู้สำเร็จราชกาลแทนจนกว่าจะ 20 ปีบริบูรณ์ นั่นคือตำแหน่งพระสมุหกลาโหม (นายกรัฐมนตรี) หรือสมเด็จเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ สั้นๆว่าท่านช่วง บุนนาค ทำหน้าที่แทน ในเวลานั้นเกิดข่าวลือจะทำรัฐประหารยึดอำนาจทั่วกรุงเทพ
ภาพจาก silpa_mag.com
สมเด็จโตได้จุดไต้*ในเวลากลางวันแสกๆ เมื่อเจ้าพระยาเห็นสมเด็จโต จึงได้นิมนต์ขึ้นบ้านและเข้าใจสิ่งที่สมเด็จทำ พร้อมกับให้สัจจะว่าตัวเองไม่มีความคิดที่จะยึดอำนาจและทำอย่างที่เค้าลือกัน ขอให้สมเด็จโตวางใจได้ การกระทำของพุฒาจารย์โตนั้นเปรียบเสมือนการเตือนสติ ในขณะเดียวกันท่านช่วง บุนนาคก็ได้รักษาสัจจะเช่นเดียวกัน
* จุดไต้ หมายถึง จุดไฟคล้ายกับคบเพลิงไฟแต่มีขนาดเล็กกว่า
22 มิถุนายน ครบรอบที่ท่านจากไป 64 พรรษาในสมณเพศและอายุยืนถึง 84 ปี และในฐานะเจ้าอาวาสวัดระฆังอีก 20 ปี เพจเล่าไปอ๋อไป ขอเป็นตัวแทนในการเล่าเรื่องนี้ผ่าน Blockdit นะครับ เพื่อนๆ ชอบตอนไหนอย่างลืม Comment มาบ้างนะครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
