อ่านหนังสือยังไงให้จำ
คร่าวๆนะครับ ลองหาอ่านในเน็ตดูถ้าสนใจเพิ่มเติม
Too hard to memorize what's in a book
มนุษย์เรามีการเรียนรู้ตามความถนัดในประสาทสัมผัสต่างกัน เราแบ่งออกได้เป็น 4 แบบ V, A, K, Ad,
V: Visual/Vision (ภาพ/การมองเห็น/ตา) บางคนถนัดการเรียนรู้ด้วยการมองเห็น ถ้าเราเป็นแบบนี้ เวลาเรียนรู้จากภาพ จากสื่อการสอน จากแผนที่ อะไรๆที่ต้องใช้ตาดู จะเข้าใจและจำได้ง่ายกว่า นึกขึ้นมาได้ง่ายกว่า
A: Aural/Auditory (เสียง/หู) คนที่ถนัดแบบนี้ บางครั้งอ่านหนังสือเองจำไม่ค่อยได้ แต่เมื่อได้ยินคนอื่นพูดให้ฟังดันจำได้ ถ้าเราเป็นแบบนี้ ลองอ่านหนังสือออกเสียงแล้วฟังเสียงของตัวเองก็ช่วยได้ ฟังหนังสือเสียงก็อาจจะเข้าใจมากกว่าอ่านเอง
K: Kinesthetic (ประสาทสัมผัส/มือ,เท้า,ท่าทาง,การกระทำ) คนที่ถนัดแบบนี้อาจต้องลงแรงทำในสิ่งที่กำลังเรียนรู้เพื่อให้ร่างกายรับสัมผัสจริงจากสิ่งนั้น ความรู้สึกที่ได้มาจากการลงมือจะทำให้เราจำสิ่งที่กำลังเรียนรู้ได้
Ad: Auditory Digital (วิเคราะห์/สังเคราะห์) แบบนี้เหมือนเป็นชั้นที่ 2 คือจะเป็น V, A, หรือ K ก็ได้ แต่จะนำสิ่งที่ได้รับรู้มาวิเคราะห์/สังเคราะห์ต่อ สร้างบทสรุป สิ่งนี้เป็นกระบวนการที่เข้มข้นในตัวเอง เราจำได้
แต่มีวิธีการที่ช่วยให้เราจำได้อยู่ซึ่งนักแข่งความจำใช้กันอยู่คือการสร้างความสัมพันธ์ สร้างเรื่องราวให้กับสิ่งที่เราอยากจำ ยิ่งเรื่องราวแปลกเท่าไหร่ก็จะยิ่งจำง่ายมากขึ้นเท่านั้น
อีกวิธีคือการใช้ความรู้สึก ปกติในทางจิตวิทยา คนเราจะผูกความรู้สึกกับประสบการณ์ที่เป็นความทรงจำสุดขั้ว เช่น ความสุข หรือ ความเจ็บปวด สิ่งที่ไม่มีความรู้สึกเข้มข้นก็จะจำไม่ค่อยได้ ลองอ่านหนังสือแล้วผูกเรื่องที่อ่านกับความรู้สึกดีก็อาจจะช่วยได้
อีกแนวทางหนึ่งที่ NLP ใช้กันคือ Active Learning / Active Listening
คือการ Activate stored cell ที่เพิ่งได้รับข้อมูลมา ให้ปล่อยข้อมูลออกไป
เหมือนเป็นการ re-check อีกครั้งว่า ที่ได้รับข้อมูลมานั้น ตรงกับต้นฉบับหรือไม่
เช่น ถ้าคุณดูอยู่ คุณอาจจดโน้ตสิ่งที่ได้เห็นทันที
ถ้าคุณฟังอยู่ คุณอาจพูดตามในสิ่งที่คุณได้ยินทันที
ถ้าคุณเห็นอาจารย์ทำอยู่ คุณก็ทำเลียนแบบทันที
หรือคุณอาจสร้างบทสรุปเสร็จเรียบร้อยก่อน แล้วก็เรียบเรียง แล้วสอนคนอื่นต่อ
นั่นเป็นการ re-activate stored cell ได้ดีทีเดียว
หวังว่าจะมีประโยชน์ครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
