Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เก็บ100ให้ได้ล้าน
•
ติดตาม
24 มิ.ย. 2021 เวลา 12:25 • หุ้น & เศรษฐกิจ
เคยได้ยินคำว่าประวัติศาสตร์ซ้ำรอยมั้ย หรือหลายคนจะชอบบอกว่าทุกๆ 10 จะมีวิกฤติ ซึ่งวิกฤติการเงินแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะเป็น the Great Depression หรือวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ก็มีแพทเทิร์นคล้ายๆกัน คือ เริ่มต้นจากภาวะดอกเบี้ยต่ำ ส่งผลให้ผู้คนและสถาบันการเงินต่าง มองหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น จึงลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ในปริมาณที่เพิ่มขึ้นด้วย
แล้วพวกสินทรัพย์เสี่ยงพวกนี้มาจากไหน ก็มาจาก shadow banking นั่นแหละ ซึ่งก็คือสถาบันการเงินที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ออกผลิตภัณฑ์ต่างๆมาเพื่อระดมทุน แต่ไม่รับฝากเงินนะจ๊ะ เพราะจะติดกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดกว่า
วิกฤติหรือยัง
เมื่อลงทุนเสี่ยงมากขึ้น ไม่เพียงมิติเดียวแต่ครบ3มิติเลย คือ ความเสี่ยงสูงขึ้น ซับซ้อนมากขึ้น สัดส่วนสูงขึ้น โอกาสขาดทุนก็สูงตามมาเช่นกัน เมื่อประสบภาวะขาดทุน ก็ส่งผลให้ผู้ฝากและนักลงทุนขาดความเชื่อมั่น ต่อสถาบันการเงินและระบบสถาบันการเงิน ทำให้คนแห่ถอนเงินออกจากระบบ ทั้งการถอนเงินฝากและการแห่เทขายทรัพย์สินขาดทุนก็ช่างมันอย่างน้อยก็ได้เงินคืนมาบ้าง
ส่วนสถาบันการเงินแทนที่จะช่วยเหลือกันแต่สถาบันการเงินก็ไม่ไว้ใจกันเองเช่นกัน งดปล่อยสินเชื่อระหว่างสถาบัน ส่งผลให้ขาดสภาพคล่อง และในที่สุดรัฐก็ต้องเข้าแทรกแซง หรือไม่ก็ปล่อยให้สถาบันการเงินล้มไป อย่างตอนปี40 แบงค์ไทยก็ล้มหายไปมากมาย ที่เหลืออยู่ก็ปรับโครงสร้างกันขนานใหญ่ หรืออย่างวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ เลแมนบราเดอร์สก็โดนปล่อยล้มละลายไปเช่นกัน
เราจึงสรุปสาเหตุของวิกฤติได้ 3 ข้อคือ
1. ดอกเบี้ยต่ำ
2. การขยายตัวของ shadow banking system
3. สถาบันการเงินบริหารความเสี่ยงไม่เหมาะสม
วันนี้เราอยู่ในวิกฤตแล้วหรือยัง ดอกเบี้ยต่ำมานานมากแล้ว สถาบันการเงินมีผลิตภัณฑ์อะไรมาดึงดูดเงินลงทุนเรามากน้อยแค่ไหน มีการออกกฎเกณฑ์ควบคุมสถาบันการงินเพิ่มขึ้นมั้ย ลองพิจารณากันไปทีละข้อ
อ้างอิงจาก :
bot.or.th
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย