เห็นเคสเด็กที่เป็น Scoliosis (กระดูกสันหลังคด) จากการสะพายกระเป๋าเป้หนักๆ เป็นประจำ คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลย
ขอแชร์ในฐานะคนที่ใช้เป้ในชีวิตประจำวัน
มาตั้งแต่เป็นนักเรียน แล้วไม่มีอาการผิดปกติ
ทั้งๆ ที่บางทีก็สะพายหนัก ใครที่ใช้เป้เป็นประจำ นำไปปรับใช้ได้เลยนะครับ
1. ควรสะพายเป้ทั้ง 2 ข้าง ไม่ควรสะพายข้างเดียว และควรปรับสายทั้งสองข้างให้เท่ากันด้วย เพราะถ้าสะพายไม่เท่ากัน กล้ามเนื้อและกระดูก จะแบกรับน้ำหนักไม่เท่ากัน ซึ่งเป็นสาเหตุของ Scoliosis ได้
เป้ส่วนใหญ่ปรับง่ายมาก
- ถ้าจะปรับให้ยาว ให้ง้างที่ตัวปรับ เวลายืนสะพายกระเป๋า
- ถ้าจะปรับให้สั้น ให้ดึงช่วงปลายสาย
2. ควรดึงให้สายเป้กระชับแนบหลังมากพอ
ไม่ปรับสายยาว/สั้น เกินไป
- ถ้าสายยาวเกิน เวลาเดินเป้จะฟาดก้นเป็นจังหวะ และหลังล่างเราอาจจะแอ่น (โดยเฉพาะตอนกระเป๋าหนัก)
- ถ้าสายสั้นเกิน เป้จะชิดคอเกินไป อาจติดการเดินก้มคอ / หลังค่อม
สำคัญทั้ง 2 ข้อนะ เพราะกระดูกสันหลังของคนเรามันไม่ได้มีอาการผิดปกติได้แค่ “คดซ้าย กับคดขวา”
ปกติกระดูกสันหลังของคนเรา มันควรจะเรียงตัวกันเป็น Curve ด้านหน้าและด้านหลังที่พอดีด้วย ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป
3. ควรสะพายด้วยน้ำหนักที่พอดี
ข้อนี้วัดเอาเองตามความรู้สึกเลย เพราะแต่ละคนแข็งแรงไม่เท่ากัน
4. ออกกำลังกายประเภท Resistance Training (ยกเวท) เพิ่ม เพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น จะได้ช่วยประคองกระดูกสันหลัง
Part ข้างล่าง เกี่ยวกับระบบการศึกษา
และแนวทางการขจัดปัญหานี้ ให้หายไปจากสังคมไทย หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย เพื่อไม่ให้มีเคสเด็กนักเรียนเป็น Scoliosis อีก
ขอใส่ตัวเลขในแต่ละย่อหน้า
เพื่อให้ง่ายต่อการอ่านนะครับ
1.
เรื่องนี้หลักๆ มันก็ผิดที่ระบบการศึกษาส่วนนึง
อีกส่วนก็คือเรื่องของการบริหารจัดการภายในโรงเรียน ที่ไม่ออกนโยบายให้มี “ที่ฝากหนังสือ” ไว้สำหรับตำราเรียนแต่ละวิชา ที่นักเรียนสามารถเอาตำราเรียนมาฝากไว้ที่โรงเรียนได้
โดยมีสถานที่และการจัดเก็บที่เป็นระบบ และหนังสือไม่หาย และนักเรียนเบิกหนังสือไปใช้ได้ง่ายเมื่อต้องการ
2.
เพราะสาเหตุหลักๆ ที่เด็กนักเรียนต้องขนหนังสือ
ไป-กลับ บ้าน-โรงเรียน ก็เป็นเพราะ “กลัวหาย”
เนื่องจากเด็กแต่ละคนมีนิสัยและการเลี้ยงดูที่ต่างกัน เราไม่รู้หรอก ว่าเด็กคนไหนขี้ขโมย หรือบางทีแย่ไปกว่านั้น คือเป็นเรื่องของการโดนกลั่นแกล้ง
3.
หนังสือหาย เป็นเรื่องใหญ่สำหรับบางคนนะ หลักๆ ก็ปัญหาเรื่องเรียนไม่ทัน / ทำการบ้านไม่ทัน แถมบางคนก็จดโน้ตเอาไว้เยอะ ยิ่งต้องรักษา และในเด็กนักเรียนบางครอบครัว ที่มีทุนทรัพย์น้อย การที่ตำราเรียนหาย นับว่าเดือดร้อนผู้ปกครอง แถมเด็กอาจจะโดนต่อว่าด้วย ซึ่งสามารถสร้างปมในใจเด็ก และเกิดปัญหาครอบครัวได้
4.
นอกจากสาเหตุเรื่องกลัวหนังสือหายแล้ว อีกปัญหาที่ทำให้เด็กนักเรียนต้องแบกหนังสือเยอะ เพราะคุณครูสั่งการบ้านได้มหาโหด ดุจเรียนวิชาเขาแค่วิชาเดียว ทั้งๆ ที่วันหนึ่ง เด็กเรียนกันประมาณ 6-9 คาบ ทำให้หลายๆ วิชา ต้องมีการขนตำราเรียนเพื่อมาเรียน และขนกลับบ้านเพื่อทำการบ้าน (ยังไม่นับวิชาที่เรียนพิเศษนะ)
5.
เด็กคือเด็กครับ อาจไม่ได้รู้ผลกระทบของการสะพายเป้หนัก / อาจไม่ได้ซ่อกแซ่กเก่งแบบผู้ใหญ่กันทุกคน เราแก้ที่ระบบจึงง่ายกว่า เช่น
- โครงการฝากหนังสือ แบบที่กล่าวไปข้างต้น
- การเรียนในห้องเรียนที่ไม่ต้องให้การบ้านเยอะเกินไป แต่เน้นคุณภาพของการสอนแทน
- ลดคาบการเรียนบางวิชา (ที่มักจะให้การบ้าน) แล้วจัดให้เป็นชั่วโมงทำการบ้านของวิชานั้นๆ ไปแทน โดยให้ทำที่โรงเรียนเลย และมีคุณครูคอยชี้แนะ เวลาเด็กมีข้อสงสัย สามารถยกมือถามได้ตรงนั้นเลย แล้วครูค่อยให้ solution / ช่วยเด็กระดมความคิด
.
.
.
หวังว่าโพสต์นี้จะเป็นประโยชน์
และช่วยลดการเกิด Scoliosis ในกลุ่มนักเรียนนักศึกษาได้ไม่มากก็น้อย นะครับ❣️
(Cr. รูปภาพ จาก Bumrungrad)
Patharapak Asawapatharakorn
B.S. Sport Science, Ramkhamhaeng University
FJPT Certified Personal Trainer, Fit Junctions
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
