24 มิ.ย. 2021 เวลา 18:13 • ไลฟ์สไตล์
Mind training… Mind game
เข้าถึงความคิดใครสักคนถ้าเป็นสิ่งที่ดีมันยิ่งดี แต่ถ้าเข้าเพื่อ ผลประโยชน์มันคือเกม
ช่วงหนึ่งได้มีโอกาสทำ spiritual care ในคลาสบำบัด สิ่งหนึ่งที่ผู้บำบัดจะต้องทำคือการรับฟังด้วยหัวใจการให้ความเห็นหรือตั้งคำถามใดๆต้องปราศจากอคติและความคิดส่วนตัว
เพื่อช่วยให้คู่บัดดี้ของเราเกิดความตระหนักรู้และคิดได้ยอมรับ ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงความคิดภายในด้วยตัวเขาเอง
.. วันนี้ได้พบบัดดี้เป็นชายหนุ่ม มีอาชีพเป็นวิศวกร เขาดูเป็นผู้ชายที่ยิ้มแย้ม อัธยาศัยดี จากการคุยทำความรู้จักเบื้องต้น
เขาเป็นผู้ชายที่มีความพร้อมด้วยอายุแค่ 32 ปี สามารถมีบ้าน มีรถ ดูแลตัวเองและมีงานที่ดี
.. แต่ เราสัมผัสได้ถึงความว่างเปล่า และอะไรบางอย่าง ในตัวเขา
.. เข้าสู่การสัมผัสจับมือ มองตาและทักทาย สวัสดีค่ะมีอะไรจะเล่าให้ฟังไหม คุณคิดว่าชีวิตคุณตอนนี้เป็นยังไงบ้างคะ…
.. ระหว่างการพูดคุยเราพบว่าเมื่อได้เจาะลึกลงไปเขามีสภาวะกดดันตัวเอง เนื่องจากโตมา และใช้ชีวิตต่อสู้ ในการเรียนทำงานหาเงินด้วยตัวเอง เป้าหมายของเขาคือการมีเงิน ความมั่นคง ในทางกลับกัน ณ วันนี้วันที่ได้พูดคุยกันเขามีสิ่งเหล่านี้ครบแล้ว แต่เขายังมีความว่างเปล่า แล้วอะไรคือความสุขที่ตัวเขาอยากมีอยากได้
.. เขายังรู้สึกเขาต้องหาเงินต่อไป เพราะเขามีภาระจากสิ่งที่เขาสร้างเขารู้สึกเหนื่อย
.. เราได้คุยกันแล้วบอกเขาว่า ความรู้สึกวันนี้คุณอาจเหนื่อย แต่คุณมีเป้าหมาย คุณมีอาชีพ คุณมีหนทาง ค่อยๆคิดค่อยๆทำทีละก้าวอย่ากดดันตัวเอง
ระหว่างทางมองหาความสวยงามและความสุขในการทำงานพบปะผู้คน หาพลังดีๆเข้ามาเติมให้กับตัวเอง หันไปใส่ใจคนที่อยู่ข้างๆที่เขารักคุณ เป็นแบตเตอรี่ชั้นดีที่จะช่วยให้คุณไม่รู้สึกว่ามันเหนื่อย รักในสิ่งที่ทำ รักในสิ่งที่เป็น
.. วางมันลงบ้าง เขามีความรู้สึกผิดบางอย่าง ต่อคนที่รัก เขาบอกว่าบางครั้งพ่อหรือแม่ LINE มาถาม การใช้งาน สิ่งของบางอย่าง เค้าตอบอยู่ทางนี้แต่เขาไม่สามารถที่จะเข้าไปอยู่ใกล้ๆหรือช่วย ณเวลานั้นได้ เพราะเขาต้องหาเงินทางนี้ อยู่กับตัวเองอยู่กับสังคมอยู่กับเปลือกที่เขาเป็น ช่วงเวลานี้ ระหว่างที่คุยกับเราได้เห็นน้ำตาของผู้ชายคนที่ เขาคิดว่าเขามีแต่ความว่างเปล่าเขาบอกเขารู้สึกผิดที่ไม่ได้อยู่ดูแลพ่อแม่หรืออาจละเลยไปบ้าง
.. มือของเรา เอื้อมไปสัมผัสใบหน้าและเช็ดน้ำตาให้เขา ทั้งๆที่ตัวเองก็ร้องไห้ เพราะเราก็เป็นเหมือนกัน บางครั้งทำงานจนลืมคนใกล้ตัว วันหนึ่งที่เรากลับมาเจอเขาเราก็พบว่าเขาแก่ไปมาก แต่มันยังไม่สายถ้าเรายังคิดได้และทำดีกับคนที่เรารักและรักเราจริงๆ
.. เราสองคนยิ้มให้กันมองตากัน ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่เปิดใจให้กันพร้อมที่จะรับฟังเสียงจากคนแปลกหน้า
เราก็บอกว่าไม่เห็นเป็นไรคิดถึงเมื่อไหร่ก็กลับไปหา อยากบอกหรืออยากทำอะไรก็โทรหรือ LINE คุยเพียงแค่อย่าลืม ก็แค่นั้น ถ้าช่วงเวลาที่รู้สึกเหนื่อยต้องการพลัง เราก็ต้องกลับไปหาคนที่รักเรา เพราะที่นั่นคือ Feel Like Home สถานที่ที่เป็นที่สบายใจของเราอย่างแท้จริงเติมพลังแล้วก้าวเดินต่อไป
.. ช่วงสุดท้ายของการสนทนา เรากอดกันด้วยความสงบ ลูบหลัง แล้วบอกเขาว่า
ณ จุดนี้วันนี้คุณอยู่กับปัจจุบัน
ปัจจุบันของคุณ มีสิ่งที่คุณตั้งเป้าไว้แล้วคุณทำได้ หนทางมันอาจจะเหนื่อย แต่คุณผ่านมาแล้วนะคะ  แล้วคุณก็จะผ่านไปได้อีกเช่นเคย มองหาสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขรอบตัว ความสุขที่ได้จากการพูดคุยเติบโตจากการที่ได้แบ่งปัน ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนใหม่อีกคน นะคะ ^^ ขอบคุณที่แชร์ความรู้สึกและเรายังเป็นคนแปลกหน้าที่มีมิตรภาพและความรู้สึกดีๆต่อกัน กลับบ้านด้วยความสุขนะคะ
โฆษณา