Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เจียม ซุน (เพจนิยาย)
•
ติดตาม
24 มิ.ย. 2021 เวลา 18:30 • นิยาย เรื่องสั้น
บทที่ 01 รุ่นน้องข้างห้อง
วันรับน้องของขณะออกแบบนิเทศศิลป์ บนตึกกระจกชั้นที่สิบแปด ตึกเรียนที่ถูกสร้างขึ้นเป็นต้นแบบของตึกพลังงานสะอาด โดยที่ทั้งตึกนี้ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์และพลังงานลม มันเป็นผลงานในโครงการเพื่อการศึกษาของมหาวิทยาลัย วันนี้เป็นวันแรกที่ทางขณะออกแบบนิเทศศิลป์จัดงานพบปะกันระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง
ท่ามกลางเสียงซ้อมเชียร์กระหึ่มในทุกที่ของโรงเรียน แต่เหล่านักเรียนออกแบบนิเทศศิลป์นั้นเพิ่งจะเริ่มการพบปะกัน เพราะได้เวลาส่งตัวแทนไปประกวดดาวเดือน สาขานี้มันเป็นศูนย์รวมของคนแปลก จะเรียกว่าอินดี้ก็ใช่ แต่จะว่าหลุดโลกก็ได้ มีแต่คนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะเด่นๆ ทั้งนั้น และพอมาอยู่รวมกันแบบนี้ ก็แยกออกได้อย่างชัดเจนเลยระหว่างปีหนึ่งกับรุ่นพี่
เหล่าน้องปีหนึ่งหน้าใสที่แต่ตัวตามระเบียบตั้งแต่หัวจรดเท้า ดูน่ารักกันซะไม่มี บางคนก็เริ่มแตกแถวกันบ้างแล้ว เช่นกลุ่มของพวกผู้ชาย บางคนก็หันมาใส่ยีนแทนกางเกงนักเรียน ส่วนผู้หญิงก็มีอยู่คนหนึ่งที่ไม่เคยใส่ชุดนักเรียนมาเลยสักครั้งเดียว แถมเป็นต่างชาติอีกต่างหาก เหมือนเธอจะให้เหตุผลว่า พอสอบเสร็จก็ต้องบินไปญี่ปุ่นทันทีเพราะเรื่องของวีซ่าอะไรนี่แหละ เลยไม่ทันได้ซื้อชุดนักเรียน บวกกับยื่นเอกสารขออนุญาตแต่งชุดไพรเวตแล้วด้วย ซึ่งทางมหาวิทยาลัยก็อนุญาตเพราะครอบครัวเธอทำธุรกิจแฟชั่น ชื่อของเธอคือ ซูซูกิยะ ยูสุ ถ้าเรียกแบบคนไทยก็คงจะเป็น ยูสุ ซูซูกิยะ
ถึงจะเป็นคนที่แต่งไพรเวตมาเรียนตลอด เธอก็เป็นคนที่ดูเรียบร้อยและดูดี ความที่หุ่นดีสุดๆ แม้จะสูงแค่ 162 (หรือน้อยกว่า) แต่สัดส่วนร่างกายก็สวยแบบหายาก อกคัพดีหรืออาจจะถึงอีเลยก็ได้ เอวคอดเล็กแล้วก็บางราวๆ 28 สะโพกก็สวยอยู่ที่ประมาณ 32 ขาก็เรียว แถมหน้าตาดี ตากลมโต จมูกเล็กโด่ง ปากกระจับชมพูใส ผิวขาวชมพูทั้งตัว เธอทำผมสีน้ำตาลและปล่อยยาวตรงสวยไปจนถึงกลางหลัง การแต่งตัวก็เรียบร้อย ทั้งการรวบผมด้านหน้าถักเปียสองเส้นคู่ไปไว้ด้านหลัง นอกจากดูเรียบร้อยแล้ว ยังทำให้เธอดูน่ารักมากด้วย
เสื้อผ้าที่เธอใส่ก็ดูออกจะคุณหนูสักหน่อย กระโปรงจีบยาวเลยหัวเข่าสีน้ำเงินเข้ากับรองเท้าหนังเสริมส้น ถุงน่องสีดำบางแล้วก็เสื้อเชิ้ตลายทางสีขาวทรงผู้หญิงพอดีตัวที่ติดระบายเล็กๆ ตามแถวกระดุม ที่ดูไม่ค่อยเข้ากันบนตัวเธอก็คงจะเป็นกระเป๋าถือใบใหญ่ที่มีสายสะพายนั่นล่ะมั้ง กระเป๋าหนังแก้วสีดำทรงอ้วนหน้าตาเหมือนกระสวยอวกาศนั่น เป็นกระเป๋าที่เธอเอามาด้วยทุกวัน
“ตัวดาว มีใครอยากลงรึเปล่า มีใครจะทำงานพวกสายนางแบบมั่งมั้ย” อาจารย์นิคถาม แม้เขาจะทำท่าเหมือนถามทุกคน แต่สายตาของเขาก็มองไปที่ ยูสุอย่างออกนอกหน้า อาจารย์นิคเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา เขาสอนวิชาถ่ายภาพแล้วก็ยังเป็นช่างภาพมืออาชีพด้วย เขาเป็นชายร่างเตี้ยที่ดูแลหุ่นดี ไว้เคราแพะ และใส่แว่นกรองแสงทรงสี่เหลี่ยม เขามักใส่เสื้อเชิ้ตสีทึบ ไม่สีดำก็น้ำเงินอายุก็จะ 50 แล้ว นิสัยเจ้าชู้สุดๆ
“ว่าไงยูสุจัง อยากลองมั้ย” เขาถามอย่างใจดี ยูสุทำท่าคิดพร้อมกับแบนสายตาไปหาพวกเพื่อนร่วมชั้นคล้ายว่าจะขอความเห็น แต่ส่วนใหญ่ก็มีท่าทีเหมือนจะเห็นด้วย
“หนูคงตอบคำถามไม่ได้หรอกค่ะ แล้วก็ไม่ชอบประกวดด้วย” ยูสุตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มที่ดูเป็นกันเอง ภาษาไทยเธอชัดมากราวกับเป็นเจ้าของภาษาเลย อาจารย์ยิ้มอ่อนให้เธออย่างใจดี ดูท่าเขาจะถูกใจเธอเข้าให้แล้ว หมอนี้เป็นแบบนี้ทุกที เรื่องข่าวฉาวว่าคบกับนักเรียนก็เป็นเหมือนป้ายราคาของหมอนี่ด้วย
“ทำไมล่ะ ภาษาไทยเธอก็ชัดมากเลยนะ” ยูสุยิ้มรับอย่างสุภาพก่อนจะตอบกลับไป
“เห็นพูดชัดแบบนี้ แต่ฉันเพิ่งพูดภาษาไทยได้สามเดือนเองนะคะ”
“ออ ..โอเค เข้าใจแล้วงั้นใครอยากลงมั่ง” อาจารย์นิคหันไปถามคนอื่นๆ ต่อ พวกรุ่นน้องดูสนุกสนานกันยกใหญ่กับการเลือกตัวแทน ส่วนพวกรุ่นพี่นั้นไม่ได้มีอะไรตื่นเต้นนอกจากอยากมาดูหน้ารุ่นน้องเฉยๆ ทั้งคณะนี้มีกันอยู่แค่ไม่กี่คน ปีสี่ไม่มีใครมาเลย ปีสามที่พอจะสนิทกับปีสองก็มากันครบ ซึ่งมีเหลืออยู่แค่เก้าคน ปีสองมีสิบคน ส่วนปีหนึ่งเข้ามาเยอะทุกปี ตั้งยี่สิบหกคน แต่เดี๋ยวก็น้อยลง เพราะสายวิชานี้มันเป็นอะไรที่ไม่เหมือนสายอื่น ไม่มีหลักการที่ตายตัว แล้วก็ยังเปลืองเงินทำงานอีก แล้วก็ยังเรื่องความ Artist หรืออาจจะแค่ tist เฉยๆ ก็ได้
“เห่ย พวกแกว่ารุ่นน้องปีนี้จะเหลือเท่าไหร่” วิโรจเปิดบทสนทนาขึ้น หมอนี่เป็นเด็กสายสามัญลูกคนรวย บ้านทำกิจการเครื่องประดับแบรนด์ดังอยู่ปีสาม สถานะโสดรายวัน
“ฉันว่าน่าจะเกินสิบ ดูแต่ละคนแล้ว น่าจะมีฐานะกันทั้งนั้น” กวินพูดอย่างมั่นใจ หมอนี่ก็ปีสาม นายแบบหนุ่มหล่อที่เคยเป็นเดือนของมหาลัย บ้านหมอนี่ทำเกี่ยวกับสื่อ ทั้งสิ่งพิมพ์ แล้วก็ภาพยนตร์ เรียกว่าเป็นเจ้าชายของคณะนี้เลย
“แล้วเธอละแมม คิดว่าไงกับรุ่นน้องปีนี้” กวินหันมาถามสาวสวยที่นั่งเท้าคางดูหนังอย่างไม่สนโลก
“ก็น่ารักดี” เธอตอบผ่านๆ
“อะไรวะ นี่แกเป็นเลสฯจริงมั้ยเนี่ย รุ่นน้องปีนี้โคตรสวยเลยนะ” วิโรจพูดเหมือนกำลังกล่าวหาเธอ
“เอาน่า แมมอุตส่าห์ยอมมาทั้งที แค่นี้ก็ดีแล้ว” ฟ้าขยับเก้าอี้เข้ามานั่งใกล้เธอ ฟ้าเป็นสาวสวยที่ฝันอยากเป็นช่างภาพ เธอเป็นเพื่อนสาวนิสัยดีเพียงคนเดียวของแมม เป็นคนไทยเชื้อสายจีน รูปร่างแบบสาวน้อยน่ารัก หน้าตาจิ้มลิ้ม ผิวขาวใส เธอเป็นคนที่พยายามไว้ผมยาวแต่ก็ไม่เคยไว้เลยบ่าได้สักครั้ง เป็นสาวไบเกอร์ที่รักการขี่มอเตอร์ไซค์ เธอแอบรักกวินมานานมากเหมือนกับแมม ...ใช่แมม ชื่อเต็มของเธอคือแมมมิลาเรียที่มาจากชื่อของกระบองเพชรนั่นแหละ
แมมเป็นนางแบบสาวลูกครึ่งไทยอินเดีย และเคยเป็นนักเขียนนิยายดาวรุ่ง พ่อของเธอเป็นมหาเศรษฐีที่เสียชีวิตไปตั้งแต่ก่อนที่เธอจะเกิด ตอนนี้แม่ของเธอแต่งงานใหม่กับโปรดิวเซอร์ชาวแคนาดา และแทบจะไม่ได้ติดต่อกับเธอนานแล้ว เหตุเพราะเมื่อปีก่อนเธอประกาศออกสื่ออย่างจริงจังว่าเป็นเลสเบี้ยน แม่ที่พยายามผลักดันให้เธอได้เข้าเวทีนางงามก็เลยโมโห แม่ถึงขนาดฟ้องแบ่งสมบัติของพ่อไปครึ่งหนึ่งก่อนจะเดินทางออกนอกประเทศไป ก็คงเรียกว่าตัดขาดกันแล้วละมั้ง
ส่วนเรื่องที่เธอเป็นเลสเบี้ยนนั้นมันเป็นเรื่องโกหก เป็นเรื่องที่เธอเผลอพูดออกไปเพราะ.... เพื่อนสนิทของเธอ ดันหลงรักผู้ชายคนเดียวกันกับเธอ แมมกับฟ้าแล้วก็กวินรู้จักกันตั้งแต่เรียน ม.ปลายแล้ว แน่นอนว่าพวกเธอแอบรักกวินตั้งแต่ ม.ปลายแล้วเช่นกัน และแมมก็ดันปากเบาบอกทั้งคู่ไปตั้งแต่ตอน ม.6 ว่าเป็นเลสเบี้ยน เพราะความคิดบ้าๆ ในตอนนั้นมันวุ่นเรื่องสอบก็เลยอ้างเรื่องเรียนมาแย้งเรื่องไม่มีแฟนได้
พอสอบได้ก็อ้างนั่นอ้างนี่ไปเรื่อย เป็นเพราะแม่เธอแท้ๆ บังคับให้มาเรียนที่นี่เลยต้องมาเจอกันอีก ซึ่งเธอก็ดีใจนะ แมมเองก็รู้สึกว่าตัวเองเหมาะกับสาขานี้จนคิดว่า สาขาอื่นคงไม่เหมาะกับเธอเลย แต่เพราะหลายๆ เรื่องที่แม่พยายามทำให้เธอมันเต็มไปด้วยความกดดัน ทั้งเรื่องฟ้ากับกวินก็ด้วย พอขึ้นปีสองเธอก็ทนไม่ไหว เธอก็เลยประกาศออกสื่อไปเลยว่าตัวเองเป็นเลสเบี้ยน เรื่องงานถ่ายแบบที่หายไปในช่วงนี้เธอก็ไม่ได้แคร์ เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการตั้งแต่แรก เรื่องเงินเธอก็ไม่มีปัญหา พ่อเธอที่จากไปนั้นทิ้งมรดกไว้ให้ชนิดที่เรียกว่าใช้ยันตายก็ไม่น่าจะหมด แต่เรื่องมันดันวุ่นวายขึ้นมาอีกเพราะยัยนั่น ยัยรุ่นน้องญี่ปุ่นปีหนึ่ง ดันมารู้เรื่องเข้า จากการโพสต์ถามความกลุ้มใจลงไปบนเว็บบอร์ดแท้ๆ
(1 วันก่อน) “นี่คือคุณใช่มั้ยคะ” หญิงสาวเนื้อตัวเปียกปอนมากดออดที่หน้าห้องพักเธอและโชว์ข้อความที่เธอเพิ่งโพสต์ถามไป ที่เนื้อตัวของหญิงสาวคนนี้เปียกมันไม่ใช่เพราะเธอนี้เพิ่งตากฝนมาหรอกนะ แต่เธอเพิ่งอาบน้ำมา เธอยังในชุดคลุมอาบน้ำและมีน้ำหยดตลอดทางที่เธอเดิน ซึ่งนั่นทำให้แมมรู้ว่า เธอคนนี้อยู่ข้างห้องของเธอ
“ฉันสามารถช่วยคุณแก้ปัญหาได้ จบทุกเรื่องที่กวนใจคุณอยู่ตอนนี้ แต่คุณต้องให้ฉันเข้าไปในห้องก่อนที่เพื่อนคุณจะขึ้นมาในอีกสองนาที” หญิงสาวที่ทั้งสวยและน่ารักคนนี้เป็นใครกัน แล้วเธอหมายถึงอะไร จะช่วยเธอแก้ไขเรื่องบ้าบอพวกนี้ได้เหรอ
“เธอเป็นใคร?” หญิงสาวเพียงแต่ฉีกยิ้มกว้างราวกับดีใจ ก่อนจะหยิบบัตรนักศึกษาออกมาให้เธอดู เธอเป็นรุ่นน้องคณะของเธอนี่เอง แมมก็ยังไม่ได้ตัดสินใจในทันทีเพราะรู้สึกคาใจแปลกๆ เธอเพิ่งโพสต์ข้อความไปไม่ถึงสิบวิเลยมั้ง และทำไมหญิงสาวคนนี้ถึงรู้เร็วนัก
“เร็วสิคะ เดี๋ยวพอเพื่อนคุณมา เธอก็จะเช็กข้อความ แล้วพอเธอเห็นโพสต์คำถามของคุณ เธอก็จะรู้ว่าคุณโกหกทันที” คำพูดของเธอทำแมมแปลกใจมากทีเดียว
“ไม่หรอก เธอไม่รู้ว่าฉันเล่น XXX ด้วย”
“เธอรู้สิคะ ไอดีของเธอคือ ไมโล คนที่เข้ามาชมโพสต์คุณทุกครั้งไง” แมมคิดตาม เธอก็ไม่ได้ปักใจเชื่อหรอก แต่ก็เอะใจอยู่เหมือนกัน แมมชั่งใจไม่ได้สักที เธอจะเชื่อคำพูดของคนที่เพิ่งเจอหน้ากันได้ยังไง
“ถ้าคุณไม่เชื่อ ก็ลองวิธีของฉันดูมั้ยละคะ” หญิงสาวว่าอย่างมั่นใจ
“ยังไง” แมมถามเรียบๆ แต่เธอยิ้มกลับมาเหมือนดีใจ
“ก็ลบโพสต์นั้นแล้วโพสต์ไปใหม่ว่า ขอวิธีเปิดตัวแฟนกับเพื่อนสนิท อะไรแบบนั้นดูสิคะ แล้วลองสังเกตท่าที่ดู”
“จะบ้ารึไง แบบนั้นฉันก็ต้องหาแฟนไปยืนยันตัวตนน่ะสิ แล้วฉันมีแฟนที่ไหน” แมมพูดไปแล้วก็นิ่วหน้า ทั้งที่ยังไม่ทันปักใจเชื่อแท้ๆ ทำไมเธอพูดออกไปแบบนั้นกันล่ะ
“ก็ถ้าเธอมีท่าทีบางอย่างออกมาจริงๆ คุณก็เอาฉันไปเปิดตัวว่าเป็นแฟนคุณได้เลย” หญิงสาวพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่คนฟังงงจนจับต้นชนปลายไม่ถูก
“คุณไม่มีเวลาคิดแล้วนะคะ นี่เป็นไอดีของฉัน แล้วก็..ฝากตัวนะคะ ดาริ้ง” เธอยัดกระดาษใส่มือของแมมก่อนจะเข้าห้องของตัวเองไป แมมเห็นฟ้าเดินขึ้นบันไดมาก็รีบหลบเข้าห้องแล้วก็มาลบข้อความทันที ในใจก็คิดว่าตัวเองบ้ารึเปล่าที่ไปหลงเชื่อคำพูดของเธอเข้า แต่จนแล้วจนแล้วจนรอด ด้วยความสงสัย คืนนั้นเธอก็เลยโพสต์ข้อความออกไปอย่างที่หญิงสาวรุ่นน้องคนนั้นบอก ‘ขอวิธีแนะนำแฟนให้เพื่อนสนิทรู้จักหน่อยค่ะ’
‘ก็จูงมือไปหาเพื่อนเลยสิคะ’ คำตอบแรกมาเร็วมาก แต่ว่าชื่อนี้มัน ... ยัยรุ่นน้องข้างห้องนี่นา ยัยนี่ ชักจะน่ากลัวเกินไปแล้ว แมมมีเวลาขนลุกให้กับเธอไม่นานก็มีข้อความเข้า ตอนแรกเธอคิดว่าเป็นข้อความจากรุ่นน้องคนนั้น แต่ไม่ใช่ เป็นข้อความจากคนที่ใช้ชื่อว่าไมโล
‘เธอมีแฟนแล้วจริงๆ เหรอ’
‘เธอเป็นใคร’ แมมมือลั่นถามออกไปก่อนที่ตัวเองจะคิดทันเสียอีก เธอขวัญเสียเพราะรุ่นน้องคนนั้นแท้ๆ
‘ฉันเอง ฟ้า’ ... พูดไม่ออกเลย เป็นเธอจริงๆ ด้วย แมมที่คิดอะไรไม่ทันก็เลยปิดสถานะออนไลน์ไป เธอนั่งคิดกลุ้มใจอยู่นาน แล้วก็เพิ่งคิดได้ว่าตัวเองทำเรื่องบ้าบอออกไปอีกแล้ว และถ้าเกิดเธอไม่ลบโพสต์แรกออก ป่านี้จะเป็นยังไงนะ แต่แล้วเธอก็นึกถึงรุ่นน้องข้างห้องได้ จนกลับมาเปิดดูข้อความอีกครั้ง ซึ่งก็เห็นว่าเธอส่งข้อความมาเกือบสิบข้อความ
‘เป็นไงคะ’
‘เป็นเธอจริงๆ ใช่มั้ย’
‘ทีนี้รุ่นพี่จะเอาไงต่อ’
‘ถ้าพร้อมทำข้อตกลงก็มางานรับน้องพรุ่งนี้นะคะ’
‘แต่ถ้าอยากตกลงกันก่อน คุยกันตอนนี้ก็ได้นะ’
‘จะคุยในนี้ หรือจะให้ฉันไปหาที่ห้องดี’ แล้วก็เป็นสติ๊กเกอร์หน้ายิ้ม แมมถึงกับต้องนวดขมับตัวเอง เธอรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวเอาการ ในขณะที่แมมเหมือนจะจับต้นชนปลายไม่ถูก ข้อความจากฟ้าในอีกแอปพลิเคชันหนึ่งก็เด้งขึ้น
‘ว่าไงแมม เธอมีแฟนแล้วจริงๆ เหรอ ช่วยตอบฉันหน่อย’ ในเวลานั้นแมมคิดอะไรไม่ออก จะบอกไปว่าโพสต์เล่นๆ ได้มั้ยนะ ไม่ได้สิ แบบนั้นมันออกจะ... สุดท้ายเธอก็ตอบกลับรุ่นน้องข้างห้องไปว่า
‘พรุ่งนี้ฉันจะไปงานรับน้องเป็นเพื่อน’ และตอบกลับข้อความของฟ้า
‘ฉันจะบอกเธอหลังงานรับน้อง’ แล้วเธอก็ปิดเครื่องไป แมมพักสมองได้เพียงครู่เดียว เธอก็ได้ยินเสียงอยู่ที่ระเบียง
ก๊อกๆๆ อย่าบอกนะว่า!! แมมรีบวิ่งไปดูที่ระเบียงทันที แล้วเธอก็เห็นรุ่นน้องข้างห้องนั่งอยู่ที่ระเบียงของเธอแล้ว
“ทำบ้าอะไรของเธอ นี่มันชั้นสิบเลยนะ!!” แมมรีบเปิดประตูออกไป เธอเห็นว่าหญิงสาวนั่งกอดเข่าตัวสั่นอยู่
“กลัวแทบตายเลยค่ะ” เธอพูดเสียงสั่น แมมก็ได้แต่นึกดุเธออยู่ในใจว่า ถ้ากลัวขนาดนี้แล้วจะปีนมาทำไม
“เอาเถอะ เข้ามาข้างในก่อน” แมมประคองเธอเข้ามาในห้อง และให้เธอมานั่งบนเตียง สายตาของรุ่นน้องก็มองสำรวจห้องของเธอ ซึ่งห้องเธอก็ไม่มีอะไรมาก แค่เตียงคิงไซส์สีเทาอยู่ตรงกลาง แล้วก็ปูพรมขนสัตว์นิ่มๆ สีน้ำตาลเข้มรอบเตียง มีตู้เสื้อผ้าสองหลังใหญ่ที่ซื้อมาเข้าชุดกับเตียงและโต๊ะเครื่องแป้ง ที่ข้างประตูทางออกมีส่วนทำครัวเล็กๆ อยู่ ประกอบด้วยตู้เย็นขนาดห้าคิว โต๊ะบาร์สำหรับสองคน เตาอบ,ไมโครเวฟและกระติกน้ำร้อน ส่วนโต๊ะทำงานของเธออยู่ที่ริมหน้าต่างข้างประตูออกไประเบียง
“มีอะไรก็ว่ามา” แมมยืนกอดอกมองดูหญิงสาว เธอยังคงยิ้มให้แมมแม้ว่าใบหน้าของเธอจะซีดเสียว
“คือ ฉันใจร้อนน่ะค่ะ เลยอยากรีบมาทำข้อตกลงกับรุ่นพี่ก่อน” แมมถอนหายใจก่อนจะนั่งลงข้างๆ หญิงสาว เธอรู้สึกเหนื่อยเหมือนตัวเองเพิ่งไปวิ่งร้อยเมตรมา
“รุ่นพี่คงเหนื่อยใจสินะคะ ที่ต้องแกล้งเป็นเลสฯ ฉันคิดว่ารุ่นพี่อาจจะอยากพัก แต่มันคงยังไม่ใช่ตอนนี้นะคะ” หญิงสาวลุกขึ้นจากเตียง แล้วก็ไปนั่งคุกเข่าอยู่ด้านล่าง เธอทำแมมตกใจอีกแล้ว
“ทำอะไรของเธอ!! ลงไปนั่งตรงนั้นทำไม!!”
“ฉันอยากจะขอโทษคุณก่อนน่ะค่ะ เพราะความจริงฉันทำเรื่องเสียมารยาทกับคุณไปเยอะแล้ว ฉันขอโทษนะคะ” เธอก้มหัวให้กับแมม
“อะ เออ ฉันยกโทษให้ก็แล้วกัน ถึงจะไม่รู้ว่าเรื่องอะไรก็เถอะ” แมมพูดออกไปด้วยความตกใจ หญิงสามที่เงยหน้าขึ้นมาก็ยิ้มรับ
“เรื่องนั้นฉันจะบอกทีหลังนะคะ เรามาคุยเรื่องปัจจุบันดีกว่า” รุ่นน้องของเธอลุกขึ้นมานั่งที่เดิม เธอหันมามองแมมด้วยสายตาที่เป็นประกาย
“ก่อนอื่น ฉันขอแนะนำตัวก่อน ฉันชื่อ ซูซูกิยะ ยูสุ ฉันอยากให้รุ่นพี่เรียกฉันว่ายูสุจังนะคะ จะได้ดูสนิทสนมกัน”
“ก็ได้ ยูสุจัง แล้วข้อตกลงของเธอคืออะไร”
“อ่อ ..คือ..ฉัน..” เธอดูเหมือนจะพูดยาก ทั้งยังหน้าแดงขึ้นมากด้วย เธอหันมามองแมมด้วยสายตาที่เขินอาย ก่อนจะพูดประโยคที่ทำให้เธอตกใจ
“ฉัน ..อยากเป็นแฟนกับรุ่นพี่ค่ะ” แมมเหมือนถูกหยุดเวลาไปพักหนึ่ง สมองเธอเหมือนจะทำงานผิดพลาดรึเปล่านะ เมื่อกี้เธอได้ยินไม่ผิดใช่มั้ย
“คือ ฉันหลงรักรุ่นพี่มานานแล้วค่ะ” แมมไม่คาดคิดว่าเธอจะได้ยินคำพูดแบบนี้จากใครมาก่อน
“ฉันยินดีนะคะ ถ้ารุ่นพี่จะใช้ฉันเป็นแฟนสมมติ จะเอาฉันไปเปิดตัวที่ไหนก็ได้ ฉันยินดีมากเลยค่ะ” รุ่นยกมือขึ้นทาบอก และพูดออกมาอย่างภูมิใจ เธอทำท่าราวกับว่าตัวเธอกำลังจะลอยยังไงยังงั้น นี่คืออาการของคนตกหลุมรักจริงๆ เหรอ ถ้าเป็นแบบนี้เธอก็ไม่ควรใช้เธอนะสิ แบบนี้มันเป็นการหลอกใช้จากความรู้สึกชัดๆ
“ถ้าเธอชอบฉันจริงๆ ฉันก็คงใช้เธอไม่ได้หรอก แบบนั้นก็กลับไปเถอะ”
“เอ๋..!! ทำไมล่ะคะ” ยูสุหน้าเสียไปเลย
“ก็แบบนั้น มันก็กลายเป็นว่า ฉันหลอกใช้เธอไม่ใช่รึไง ฉันไม่อยากทำแบบนั้น” แมมหันหน้าหนี เธอไม่ยากเห็นสายตาที่ดูเสียใจนั่นเลย
“ถ้างั้นก็คบกันจริงๆ สิคะ”
“นี่เธอ ไม่เข้าใจที่ฉันพูดรึไง” แมมเริ่มหัวเสีย
“ฉันรู้ค่ะ ฉันเข้าใจดี รุ่นพี่เนี่ย เป็นคนดีกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะเลย แต่ว่าถ้าเราได้ผลประโยชน์ต่างตอบแทนกันทั้งคู่ มันก็ดีไม่ใช่เหรอคะ”
“ยังไงเหรอ” แมมมองหน้าของยูสุแล้วก็เริ่มสับสน ทำไมคนที่โดนปฏิเสธถึงได้มีสีหน้ามีความสุขแบบนั้นนะ
“ก็ ฉันจะได้เป็นข้ออ้างเรื่องแฟนให้กับรุ่นพี่ แล้วฉันก็จะได้เป็นแฟนรุ่นพี่จริงๆ ไงคะ อ๊ะ! เดี๋ยวก่อน ให้ฉันอธิบายก่อน” ยูสุยกมือห้ามไว้ก่อนที่แมมจะพูด
“ฉันจะค่อยๆ ให้รุ่นพี่ทำความรู้จักตัวฉันในระหว่างที่เราคบกัน ถ้าถึงจุดหนึ่งที่รุ่นพี่ไม่โอเค จะขอเลิกตอนนั้นก็ได้ค่ะ แล้วก็จะถือว่าเราเลิกกัน แต่ต้องคบกันอย่างน้อยหนึ่งเดือนนะคะ”
“แล้วทำไมต้องหนึ่งเดือนด้วยละ” แมมถามด้วยความไม่เข้าใจจริงๆ
“ก็รุ่นพี่ดูไม่อยากคบกับฉันเลยนี่ค่ะ ฉันก็เลยอยากขอเวลาจีบสักหน่อย แค่นั้นเอง” ยูสุพูดเสียงหงอยๆ มันดูน่ารักจนพาให้ใจเต้นเลย ขอเวลาจีบฉันเนี่ยนะ
“มันเหมือนเธอซื้อความเสียใจอยู่เลย แบบนั้นจะดีเหรอ” ครั้งนี้แมมพูดออกไปด้วยความรู้สึกเกรงใจอย่างบอกไม่ถูก
“สำหรับฉันแล้ว ฉันรู้สึกว่าดีค่ะ” ยูสุพูดออกมาด้วยความดีใจ แอบดูคล้ายลูกหมาเวลาได้ขนมเลย
“และ..เอ่อ ถ้ารุ่นพี่ไม่ว่าอะไร ฉันก็อยากได้ค่าจ้างด้วย” คำพูดของยูสุทำเอาความรู้สึกดีๆ ของแมมลดลงมานิดหน่อย แต่ก็เอาเถอะ บางที่เธออาจต้องการเงินจริงๆ ก็ได้
“ก็ได้ เอาเป็นว่าฉันตกลง แต่ค่าจ้างก็ขอดูตามผลงานก่อนนะ” เอาเถอะ ก็ถือว่าได้ช่วยรุ่นน้องด้วย
“รุ่นพี่ตกลงจริงๆ เหรอคะ” ยูสุถามด้วยสีหน้าดีใจ
“จริงสิ”
“ห้ามคืนคำนะคะ!!”
“อืม”
“งั้น เรื่องค่าจ้างก็..”
“เอาไว้คุยทีหลังไม่ได้รึไง”
“มันควรจะคุยก่อนสิคะ”
“ก็ได้ เท่าไหร่ละ” คำถามของแมมทำเอายูสุเอียงคอสงสัย
“ฉันไม่ได้ขอเป็นเงินหรอกนะคะ” ยูสุตอบพร้อมกับหน้าแดง นี่หรือว่าเธอจะขอ ... แมมถอยห่างออกไปตามความรู้สึก
“เอ่อ ฉันไม่ได้จะขออะไรแบบนั้นหรอกนะคะ ฉันแค่อยากขอ..เอ่อ ขอจูบ ..รุ่นพี่ ทุกวัน ..เอ่อ ได้มั้ยค่ะ” ..ห๊ะ!! จูบเหรอ ..
“เอ่อ จูบเหรอ ทุกวันด้วย ฉันว่ามันออกจะ..” ...แมมไปไม่ถูกจริงๆ เป็นคำขอที่ทำเอาหน้าเธอร้อนไปหมด
“ลองดูก่อนก็ได้นะคะ” ยูสุพูดขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้มราวกับว่ามันเป็นเรื่องปกติ ทั้งที่เรื่องที่มันออกมาจากปากเธอมันดูไม่ปกติ
“แต่ว่า..มัน..” แมมกระดากอายน่าดู ตอนนี้ใจเธอเต้นไม่เป็นส่ำ
“มันไม่แย่หรอกค่ะ เชื่อฉันสิ รุ่นพี่ลองหลับตาก่อน” แมมหัวหมุนไปหมด แต่พอมองดูสายตาของยูสุที่เป็นประกายนั่น เธอก็กลับคิดว่ามัน..บอกไม่ถูก แต่ก็คิดว่าคงไม่เป็นอะไรเพราะก็เป็นผู้หญิงด้วยกัน ในที่สุดแมมก็ลองทำตามที่เธอพูด แมมหลับตาและรอด้วยหัวใจที่เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ
“รุ่นพี่เนี่ย น่ารักจังนะคะ” ยูสุพูดด้วยเสียงกระซิบที่แผ่วเบา ก่อนที่จะประทับริมฝีปากที่อ่อนนุ่มของเธอลงมา
สามารถอ่านล่วงหน้าได้ที่ลิ้งก์นี้เลยค่ะ 😊
https://www.readawrite.com/a/a56fc38bddac4800e31ff2b5f68df3b5?r=my_page
เราจะเอามาโพสต์ในซีรีส์เรื่อยๆ นะคะ ใครที่อยากอ่านต่อก็กดติดตามซีรีส์นี้ได้เลย แล้วก็ติดตามเราด้วยนะ เผื่ออนาคตจะได้เขียนให้อ่านฟรีในนี้ 🥰
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
รักสดใหม่ของ รุ่นพี่สายซึนกับยัยสตอล์กเกอร์โรคจิต
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย