Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ที่นี่...สุราษฎร์ธานี
•
ติดตาม
24 มิ.ย. 2021 เวลา 19:49 • ประวัติศาสตร์
พระบรมรูป ร. ๕ ทรงสรงน้ำที่ ‘ธารเสด็จ’
คราวเสด็จประพาสเกาะพะงัน ร.ศ. ๑๐๘
ภาพพระบรมรูปภาพนี้ปรากฏในหนังสือ ‘พระราชหัตถเลขา ในพระบาทสมเด็จฯ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่องเสด็จประพาสแหลมมลายู เมื่อรัตนโกสินทร์ศก ๑๐๘, ๑๐๙, ๑๑๗, ๑๒๐ รวม ๔ คราว’
พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสรงน้ำตกธารเสด็จ (ภาพจากหนังสือพระราชหัตถเลขาในพระบาทสมเด็จฯ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ)
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พิมพ์พระราชทานในงารพระศพสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้ามาลินีนพดารา กรมขุนศรีสัชนาลัยสุรกัญญา ณ เมรุท้องสนามหลวง พ.ศ. ๒๔๖๘
สารบาญรูปในหนังสือระบุว่า “๔ พระบรมรูปสรงน้ำที่ธารเสด็จ เกาะพงัน หน้า ๑๐” ไม่ปรากฏปีที่ทรงฉาย แต่เป็นที่เข้าใจว่าต้องเป็นพระบรมรูปที่ทรงฉายในปี พ.ศ. ๒๔๓๒ (ร.ศ. ๑๐๘)
พระบรมรูปสรงน้ำที่ธารเสด็จนี้นอกจากภาพนี้แล้ว ยังพบเห็นบ่อยๆ อีกภาพหนึ่ง ที่‘ฉายานิทรรศน์’ ระบุว่าฉายเมื่อวันที่ ๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๔๘
แต่จากการสืบค้นในหนังสือ ‘จดหมายเหตุประพาสแหลมมลายู’ ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเสด็จประพาสเกาะพงัน และทรงสรงน้ำในลำธารน้ำตกธารเสด็จ พร้อมทั้งฉายพระรูปด้วยหลายครั้งด้วยกัน
ทว่าที่พบเห็นบ่อยอย่างยิ่ง คือ ๒ ภาพที่กล่าวถึงนี้
พระบรมรูปทรงสรงน้ำตกธารเสด็จ ภาพนี้จากเฟสบุ๊คฉายานิทรรศน์ ระบุทรงฉายปี พ.ศ. ๒๔๔๘
อย่างไรก็ตามในการเสด็จประพาสหัวเมืองแหลมมลายูเมื่อคราวปีรัตนโกสินทร์ศก ๑๐๘ หรือปี พ.ศ. ๒๔๓๒ ทรงมีพระราชหัตถเลขาถึงกรมหลวงเทวะวงศ์วโรปการ (พระอิสริยยศเวลานั้น-สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ)
พระราชหัตถเลขาฉบับที่ ๑ จากเรือพระที่นั่งอุบลบุรทิศ ซึ่งทอดสมออยู่ที่ปากอ่าวเมืองสงขลา เมื่อวันที่ ๒๑ กรกฎาคม รัตนโกสินทร์ศก ๑๐๘ มีความตอนหนึ่งกล่าวถึงเกาะพงันว่า
“วันที่ ๑๖ เวลา ๓ โมงเช้าทอดสมอที่อ่าวเสด็จ ขึ้นบกเดิรตามลำธารไปถึงที่จารึกครั้งก่อน จารึกศักราช ๑๒๕๑ เติมลงอีกบรรทัดหนึ่ง แล้วเดิรต่อไปเปนธารทรายราบๆ บ้าง เปนก้อนศิลาบ้าง มีน้ำตกที่งามๆ อีกสี่แห่ง ขึ้นไปจนหมดก้อนศิลาถึงหลังเขา เปนธารพื้นทรายราบๆ ไม่มีศิลา ทางไปตามลำธารประมาณสักสองร้อยเส้น จึงได้จารึกก้อนศิลาที่สุดด้วยอักษร จ.ป.ร. แลศักราช ๑๐๘ ไว้ แล้วเดิรต่อไปอีกสักสามสิบวาหรือสองเส้น ขึ้นถึงหลังเขาเปนที่ราบ พบไร่พริกมะเขื่อกล้วย ซึ่งพวกบ้านใต้ขึ้นมาทำ เรียกว่าท้องชะนาง อยู่ในรหว่างยอดเขาสูงล้อม พื้นที่สูงกว่าทเล ๕๕๐ ฟิต จึงได้ให้จารึกก้อนศิลาที่ปลายธารนั้นไว้อีกว่าต่อไปมีไร่ ได้ตัวขุนจ่าเมืองหัวเมืองพะงันให้มานำทางกลับ ลัดมาในหมู่ต้นไม้ ข้ามไหล่เขาสูงๆ ต่ำๆ ลงมาทางประมาณสักร้อยยี่สิบเส้นถึงปากธารข้างล่าง เวลาบ่าย ๔ โมงอาบน้ำแล้วกลับลงมาเรือ”
อย่างไรก็ตามในวันรุ่งขึ้นจะเสด็จไปดูบ้านใต้ ซึ่งเป็นหมู่บ้านใหญ่มีชาวบ้านอาศัยอยู่ประมาณสามร้อยหลัง ทว่าลมจัดไม่สามารถทอดสมอได้ จึงต้องเลยไปเกาะสมุย เสด็จขึ้นประพาสเกาะสมุย
วันที่ ๑๘ จะไปทอดจอดเรือพระที่นั่งในช่องสมุย แต่ลมจัดทอดไม่ได้ ดังในพระราชหัตถเลขาทรงไว้ว่า
“วันที่ ๑๘ ล่องจะไปทอดที่ในช่องสมุยอีก ลมจัดทอดไม่ได้ ฉันชอบใจลำธารที่อ่าวเสด็จ จึ่งให้กลับมาทอดที่นั้นขึ้นไปอาบน้ำอีกวันหนึ่ง ให้จารึกที่น้ำตกแรกน่าต้นกร่างซึ่งเปนที่พักบอกชื่อไว้ว่า ‘ธารเสด็จ’ แลจะให้พระยาไชยาทำศาลาไว้ในที่นั้น แล้วกลับลงมาเรือ”
น้ำตกแห่งนี้จึงได้รับพระราชทานชื่อ ‘น้ำตกธารเสด็จ’
………
*อักขระสะกดตามต้นฉบับในหนังสือ
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย