Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
BrandAge Online
•
ติดตาม
25 มิ.ย. 2021 เวลา 12:13 • การตลาด
Flash Sale แปลตรงๆ เลยก็คือ การขายที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ โดยมีเงื่อนไขของเวลา หรือจำนวนสินค้าที่มีจำกัด อย่างสมัยก่อนที่เราคุ้นเคยกันเวลาไปห้างสรรพสินค้า กับเสียงเชิญชวนที่เรียกว่า “นาทีทอง”
หรือเทศกาล Black Friday ของอเมริกา ที่จัดขึ้นทุกวันศุกร์ในสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ที่ดูเหมือนจะไกลตัวนักช้อปชาวไทย แต่ด้วยความที่เดี๋ยวนี้อะไรๆ ก็หาซื้อได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว เพราะแอพซื้อขายต่างๆ ก็เริ่มนำเอาวันดังกล่าว มาเป็นวันพิเศษให้นักช้อปทั้งไทยได้เลือกซื้อเช่นกัน
แต่ Flash Sale ที่เราจะพูดถึงวันนี้ คือการจัดการส่งเสริมการขายประจำเดือน ที่เกิดขึ้นทุกคู่วันและเดือน หรือเรียกว่า “Double Day Sale” อย่างวันที่ 7 เดือน 7 ที่ใกล้จะถึงนี้
การจัดการส่งเสริมการขายในวัน Double Day เริ่มต้นมาจากวันที่ 11 พฤศจิกายน 2008 หรือเรียกสั้นๆว่า 11.11 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์วันของคนโสด “Single’s Day” ที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองความโสด โดยการหาของขวัญชิ้นพิเศษให้กับตัวเองของวัยรุ่นชาวจีน ทำให้ห้างร้านต่างๆ รวมถึงเว็บไซต์จำหน่ายสินค้าออนไลน์อย่าง อาลีบาบา ออกมาจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้า และได้รับผลตอบรับอย่างล้นหลาม
จาก Single Day สู่ Spending Day
ปัจจุบันไม่เพียงแต่วันที่ 11.11 หรือวันคนโสดเท่านั้น แต่ทุกคู่วันและเดือนต่างๆ ตั้งแต่ 1.1 ไปจนถึง 12.12 กลายเป็นวันที่ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอกันทุกเดือน ทั้งร้านค้าที่เตรียมสต๊อกสินค้ามากมาย และนักช้อปที่ยอมนอนดึกเพื่อโค้ดส่งฟรี และรอสั่งซื้อสินค้าที่น่าสนใจ
Flash Sale จึงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตั้งราคา (Pricing Strategy) เชิงจิตวิทยา ที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดความสนใจ และการตัดสินใจซื้อแบบฉับพลัน (Impulse Buying) ซึ่งสามารถสร้างยอดขายมหาศาลในระยะเวลาอันสั้น โดยการใช้เงื่อนไขของเวลา หรือจำนวนสินค้าที่จำกัดเป็นตัวล่อ ทำให้ผู้บริโภคเกิดความรู้สึก FOMO ที่ย่อมากจาก Fear Of Missing Out คือความรู้สึกกลัวที่จะพลาดโอกาสอะไรบางอย่างไป กลัวที่จะตกข่าว ตกกระแส หรือเทรนด์ต่างๆ
ข้อดีของการทำ Flash Sale นอกจากจะเป็นการเพิ่มยอดขายในระยะเวลาสั้นแล้ว ยังช่วยในการระบายสต๊อกสินค้าที่มีมากเกินไปลดความความเสี่ยงในการจัดเก็บและการดูแลรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่ไม่ได้รับความสนใจ หรือสินค้าที่มีราคาสูง ขายได้ยาก และช่วยในการสร้างความภักดี (Loyalty) ต่อแบรนด์ หรือแพลตฟอร์มของร้านค้าต่างๆ ของลูกค้ากลุ่มเก่า ช่วยดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ให้เกิดความความสนใจเนื่องจากราคาที่ถูกลง ทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจซื้อ เพื่อทดลองซื้อสินค้าที่พวกเขาหมายตาเอาไว้
กลยุทธ์การตั้งราคาเชิงจิตวิทยานี้ไม่ได้มีเพียงแค่การตั้งราคาแบบ Flash Sale เท่านั้น แต่ยังมีการตั้งราคาให้สูง เพื่อเพิ่มยอดขายให้ได้มากขึ้นอย่าง Decoy Pricing คือการสร้างตัวเลือกที่ไม่สมเหตุสมผลขึ้นมา เพื่อให้ผู้บริโภคเลือกตัวเลือกที่เราต้องการ เพราะเมื่อนำตัวเลือกต่างๆ มาเปรียบเทียบกัน ผู้บริโภคมักตัดตัวเลือกที่ไม่สมเหตุสมผลออก และเลือกสิ่งที่รู้สึกคุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งนั่นสามารถช่วยให้ผู้ประกอบการขายได้มากยิ่งขึ้น
สามารถอ่านบทความ “Decoy Pricing” เพิ่มเติมได้ที่
https://www.brandage.com/article/22870/Decoy-Pricing
และกลยุทธ์การตั้งราคาอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่
https://www.brandage.com/tag/pricing%20strategy
แต่อย่างไรก็ตาม หลายๆ กลยุทธ์หากใช้ถี่จนเกินไป อาจทำให้ภาพลักษณ์ของ แบรนด์ดูไม่ดี และความรู้สึกตื่นเต้น ตั้งตารอของลูกค้าจาก Active อาจเปลี่ยนเป็น Passive ได้ เพราะลูกค้าอาจจะเกิดความรู้สึกเฉยๆ หรือรอที่จะซื้อในการจัดโปรโมชันครั้งหน้าได้ ดังนั้นการใช้ที่ดี จึงต้องดูเหมาะสมของสินค้า ราคา และเวลาประกอบกัน รวมถึงต้องมีความเข้าใจในสิ่งที่กลุ่มลูกค้าให้ความสนใจ จึงจะสามารถกระตุ้นให้เปลี่ยนจาก Passive กลับมาเป็น Active ได้
สุดท้ายนี้ทุกๆ ธุรกิจต้องอย่าลืมว่าความซื่อสัตย์ และความจริงใจต่อลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะทำให้ธุรกิจอยู่ได้อย่างยั่งยืน
#BrandAge_AtoZ
#BrandAge_Online
10 บันทึก
6
4
10
6
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย