26 มิ.ย. 2021 เวลา 03:00 • ประวัติศาสตร์
“Alison Botha” หญิงนักสู้ ผู้รอดชีวิตด้วยปาฏิหาริย์และกำลังใจ
บทความนี้เป็นเรื่องราวของหญิงคนหนึ่งที่ถูกทำร้ายอย่างสาหัส หากแต่รอดชีวิตมาได้อย่างแทบไม่น่าเชื่อ ด้วยพลังที่ต้องการจะเอาชีวิตรอด
หญิงผู้นี้มีชื่อว่า “Alison Botha”
ในคืนวันที่ 18 ธันวาคม ค.ศ.1994 (พ.ศ.2537) ที่เมืองพอร์ตเอลิซาเบท ประเทศแอฟริกาใต้ ได้เกิดเหตุการณ์บางอย่างที่จะเปลี่ยนชีวิตของหญิงคนหนึ่งไปตลอดกาล
ในคืนนั้น Alison Botha วัย 27 ปี ได้ใช้เวลาอยู่กับเพื่อนที่ชายหาด ก่อนจะกลับมายังอพาร์ตเม้นท์เพื่อทานอาหารกับเพื่อนๆ และคืนนั้น เธอก็ขับรถกลับไปส่งเพื่อน ก่อนจะขับรถกลับมายังอพาร์ตเม้นท์ของตน
เมื่อมาถึงที่จอดรถและจอดรถเรียบร้อยแล้ว Botha ได้เอื้อมมือไปยังเบาะหลังเพื่อหยิบถุงผ้า แต่ทันใดนั้น ก็มีคนเปิดประตูรถ และใช้มีดจี้เธอ พร้อมกับพูดว่า
“ขยับไป ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าเธอ”
Botha ซึ่งกำลังตกใจ ได้เขยิบไปยังที่นั่งข้างคนขับ ในขณะที่ชายปริศนาได้ขึ้นมาบนรถ และขับรถออกไป
ชายผู้นี้มีชื่อว่า “Frans du Toit” ได้ขับรถไปรับเพื่อนที่ชื่อ “Theuns Kruger”
ชายทั้งคู่ได้ขับรถพา Botha ไปยังบริเวณนอกเมืองซึ่งห่างไกลผู้คน และ Botha ก็รู้ว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่ๆ
ชายทั้งสองกล่าวแก่ Botha ว่าพวกเขาจะมีเซ็กส์กับเธอ และถามเธอว่าจะขัดขืนหรือไม่
Botha ซึ่งในเวลานั้นกำลังตกใจกลัว จึงตอบไปว่าไม่ขัดขืน
คนร้ายทั้งสอง
ชายทั้งสองนั้นเป็นคนร้ายที่มีประวัติทำร้ายผู้หญิง ได้ลงมือข่มขืน Botha จากนั้นก็ได้พยายามฆ่าเธอ โดยทีแรก ได้พยายามจะรัดคอเธอ แต่ Botha ก็พยายามดิ้นรน เอาชีวิตรอด
ชายทั้งคู่จึงแทง Botha ที่ท้องกว่า 30 ครั้ง หากแต่เธอก็ยังไม่ตาย ทั้งคู่จึงเชือดคอเธออีกกว่า 16 ครั้ง
ในที่สุด ชายทั้งสองก็ได้หยุดมือ และคุยกันเป็นภาษาแอฟริกัน ซึ่ง Botha ได้ยิน
“นายว่าเธอตายหรือยัง?”
“หนักขนาดนี้ ใครก็ไม่รอด”
เมื่อคิดว่า Botha เสียชีวิตแล้ว ทั้งคู่จึงขับรถหนีไป ทิ้งให้ Botha นอนอยู่กับพื้น
แต่ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่า Botha ยังคงหายใจ
Botha ซึ่งยังพอมีสติ ได้รวบรวมกำลัง ใช้นิ้วเขียนชื่อคนร้ายลงบนดิน
แต่แล้ว Botha ก็คิดได้ว่าเธอยังมีโอกาสรอด และเธอก็สังเกตเห็นแสงจากเสาไฟฟ้าบนถนนใหญ่
หากเธอสามารถรวบรวมกำลังออกไปสู่ถนน อาจจะมีคนมาเห็นและช่วยเธอ
เมื่อเธอค่อยๆ ขยับตัว เธอก็รู้สึกตัวได้ว่าเธอบาดเจ็บสาหัส เมื่อเธอค่อยๆ พยุงตัวให้ลุกขึ้น หัวของเธอก็พับไปด้านหลังเนื่องจากเธอถูกเชือดคอจนคอเกือบขาด
2
นอกจากนั้น เธอยังรู้สึกว่ามีอะไรหลุดออกมาจากท้องที่ถูกแทง ซึ่งนั่นก็คือลำไส้ของเธอนั่นเอง
1
Botha ต้องใช้มือข้างหนึ่งกุมท้องไม่ให้ลำไส้หลุดออกมา และใช้มืออีกข้างประคองศรีษะของตัวเอง
2
เมื่อมาถึงกลางถนน เธอก็ล้มลงกับพื้น ซึ่งถึงแม้สติจะลางเลือน แต่เธอก็คิดแล้วว่าบริเวณนี้เป็นบริเวณที่รถจะผ่านและสังเกตเห็นเธอได้ชัดที่สุด
โชคดีของ Botha ในเวลาไม่นาน ก็มีรถผ่านมาและสังเกตเห็นเธอ โดยผู้ขับรถคือนักศึกษาสัตวแพทย์ ชื่อ “Tiaan Eilerd”
Eilerd ลงจากรถและเข้าไปดู Botha และเมื่อเห็นถึงสภาพอันสาหัสของ Botha เขาก็ใช้ความรู้ด้านการแพทย์ ปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้แก่ Botha ก่อนจะเรียกรถพยาบาลให้มารับ Botha ไปโรงพยาบาล
Botha ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน และแพทย์ต่างก็ตะลึงในอาการของเธอ
แพทย์คนหนึ่งถึงกับกล่าวว่า ตลอดเวลาที่เป็นแพทย์มา 16 ปี เขาไม่เคยเห็นบาดแผลที่สาหัสขนาดนี้มาก่อนเลย
Botha รอดชีวิตมาได้ราวกับปาฏิหาริย์ และในไม่ช้า ก็สามารถให้ปากคำกับตำรวจและชี้ตัวคนร้ายได้ ทำให้คนร้ายถูกจับอย่างรวดเร็ว
คนร้ายทั้งสองถูกนำตัวขึ้นศาล และในปีค.ศ.1995 (พ.ศ.2538) ก็ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต
ถึงแม้จะผ่านเหตุการณ์ที่เลวร้าย ซึ่งจะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต แต่ Botha ก็ไม่ย่อท้อ และเผชิญหน้ากับความจริง
Botha ได้ออกเดินทางไปทั่วโลก และถ่ายทอดประสบการณ์ให้ผู้คนกว่า 35 ประเทศได้รับรู้ และเธอยังเป็นหนึ่งในผู้หญิงชาวแอฟริกาใต้คนแรกๆ ที่ออกมาพูดอย่างเปิดเผยเรื่องการถูกข่มขืน
Botha กับ Tiaan Eilerd ผู้ที่ช่วยชีวิตเธอ
เรื่องราวของ Botha ได้สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงหลายคนลุกขึ้นสู้และยอมรับความจริง ทำให้เธอได้รับรางวัลมากมาย
Botha ยังเขียนหนังสืออีกสองเล่ม และเรื่องราวของเธอก็ได้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ในปีค.ศ.2016 (พ.ศ.2559)
ในทุกวันนี้ Botha ยังคงได้รับการยกย่องในฐานะของนักพูดผู้สร้างแรงบันดาลใจที่ทรงพลังที่สุดคนหนึ่งของโลก
เรื่องราวของ Botha สะท้อนให้เห็นถึงความโหดร้ายของมนุษย์ แต่ในขณะเดียวกัน ก็สะท้อนถึงความเข้มแข็งในการเอาชีวิตรอดของมนุษย์
โฆษณา