26 มิ.ย. 2021 เวลา 06:13 • ความคิดเห็น
นึกถึง Quote นี้เลย.." Man is born free, but he is everywhere in chains," (Rousseau)
1
พันธนาการที่ร้อยรัด สภาพแวดล้อมกดข่มไม่ให้เราเป็นตัวของตัวเองมันมีอยู่มากมายรอบตัว การปรับตัว กลไกการเอาตัวรอดทำให้เราไม่เป็นตัวของตัวเองได้จริงจังนักแต่ถึงอย่างไรก็ตามในความเป็นมนุษย์ที่มีสติปัญญาเพื่อยังคงมีตัวตน(Autonomous, Free will)อยู่ได้เราจำเป็นต้องบริหารจัดการกับโซ่ตรวนที่พันธนาการเหล่านี้อย่างเหมาะสม ..ถ้าทุกคนเพียงแค่ไหลไปตามกระแสหลัก..โลกมนุษย์คงไม่พัฒนามาถึงปัจจุบันนี้ เราคงยังอยู่ในสังคมป่าเถื่อนแบบมนุษย์ยุคหินหรือยุคต้น ๆ ในประวัติศาสตร์เท่านั้น
ข้อเท็จจริงคือเราไม่ใช่แบบนั้น..ทีนี้มาดูกันว่ามีอะไรที่สำคัญ ๆ ที่ควรพูดถึงที่ทำให้เราไม่เป็นตัวของตัวเอง..เลือกบางประเด็นก็แล้วกัน ที่เหลือคิดต่อได้เองไม่ยาก
1. สถานะทางเศรษฐกิจ เราต้องถามตนเองว่าเราเป็นประเภทพึ่งพิง พึ่งพาคนอื่นมากแค่ไหนถ้าต้องรับเงินคนอื่นมาก็ต้องทำตัวอยู่ในกรอบที่คนจ่ายเงินให้เราเขายังคงจ่ายให้ต่อไปเช่นเอาทุนเขามาเรียนหนังสือมันก็ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของผู้ให้ทุนว่าจะเรียนอะไร เกรดอย่างต่ำเท่าไร ใช้เวลากี่ปี
คนที่เป็นลูกจ้าง เป็นมนุษย์เงินเดือนก็ต้องทำงานตามข้อกำหนดและปฏิบัติตนตามกรอบระเบียบของผู้จ้างงานเรา
ในกรณีนี้เราจะเห็นชัดว่า..ถ้าเราจำเป็นต้องพึ่งคนอื่นน้อยลงเท่าไรเราก็ยิ่งมีอิสระเป็นตัวของตัวเองได้มากขึ้นเท่านั้น
2. สภาพของสังคมที่แวดล้อมเรา ..ในสังคมเผด็จการหรือกึ่งเผด็จการไม่ว่าจะเป็นเผด็จการรูปแบบใดซ้ายจัด ขวาจัด เผด็จการที่ปกครองโดยศาสนจักร(คริสเตียนในอดีต, อิสลามในหลายประเทศในปัจจุบัน)..ในทุกระบบเผด็จการเราจะมีกรอบจำกัดความเป็นตัวของตัวเองน้อยลงทุกทีตามความเข้มของระบบนั้น ๆ
ข้อจำกัดในสังคมเผด็จการจะกดข่มความเป็นตัวตนของปัจเจกชนมากมาย ทุกคนต้องตามกฏระเบียบที่เป็นกระแสหลักหรือข้อกำหนดของผู้ปกครองเท่านั้น เช่นตัวอย่างจากเกาหลีเหนือที่มีข้อกำหนดจำกัดทรงผมของประชาชน ..ในประเทศมุสลิมมีข้อจำกัดในการแต่งตัวของผู้หญิงว่าต้องคลุมหน้าเมื่อออกจากบ้าน
อย่าลืมว่าในโลกของเผด็จการข้อจำกัดพวกนี้มีบทลงโทษตามมาด้วยเสมอ
3. ระดับการศึกษาและระดับสติปัญญา..คนที่มีการศึกษาน้อย และ/หรือ สติปัญญาต่ำก็จะมีความสามารถสร้างความเป็นตัวของตัวเองภายใต้พันธนาการทางสังคมเป็นกดข่มอยู่ได้น้อยลงไปตามสัดส่วน..ความจำเป็นที่ต้องเอาชีวิตรอดเป็นกลไกที่ต้องพยายามกลมกลืนไปตามกระแสหลัก(Main stream, Majority)ให้ได้
ส่วนคนที่ระดับการศึกษาหริอสติปัญญาสูงยังคงเป็นตัวของตัวเองได้มากกว่าทั้งยังสามารถสร้างกระแสหลักขึ้นมาใหม่ เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงได้อีกต่างหาก
สุดท้ายต้องสรุปว่า..ไม่ว่าโซ่ตรวนที่พันธนาการผู้คนจะมาจากไหนก็ตามแต่..มีแต่คนที่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้ นำตัวเองได้เท่านั้นจึงจะสามารถทำให้สังคมมนุษย์วิวัฒนาการก้าวหน้าไปได้..อยู่รอดต่อไปในสภาพแวดล้อมของธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา..สังคมใดที่มีแต่คนถูกล่ามโซ่ตรวนเดินตามกันไปทิศทางเดียวไม่มีการตั้งคำถามถูกผิดไม่มีการค้นหาคำตอบใหม่ ๆ ในไม่ช้าสังคมและอารยธรรมนั้น ๆ จะเสื่อมทรุดหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน
โฆษณา