26 มิ.ย. 2021 เวลา 09:00 • การ์ตูน
กลุ่มโจรสลัดทอนทัตต้ากลุ่มโจรสลัดที่แม้จะตัวเล็ก แต่พละกำลังของพวกเขาไม่ได้เล็กตามขนาดตัวเลย
ซึ่งเผ่าทอนทัตต้านี้เคยมีอดีตอันแสนโหดร้าย ก่อนจะเข้ามาเป็นสมาชิกของกองเรือใหญ่หมวกฟาง
ถ้าใครเป็นสายชอบดูคลิป สามารถเข้าไปติดตามเรื่องราวของกลุ่มโจรสลัดทอนทัตต้าในรูปแบบวิดีโอได้ที่นี่เล้ย : https://youtu.be/cZQZBWJY7-c
กลุ่มโจรสลัดทอนทัตต้าสมาชิกของกองเรือใหญ่หมวกฟาง เรือลำดับที่ 5
มีจำนวนสมาชิกทั้งหมด 200 คน มีกัปตันของกลุ่มคือ เลโอ หัวหน้านักรบแห่งกองทหารทอนตะของเผ่าทอนทัตต้า
เลโอมีส่วนสูง 23 เซนติเมตร เกิดวันที่ 24 กรกฎาคม มีอายุ 25 ปี
เป็นผู้ใช้พลังจากผลปิศาจ สายพารามีเซีย ผลนุอินุอิ (นุอิในภาษาญี่ปุ่นแปลว่าการเย็บ) ทำให้เลโอสามารถเย็บทุกอย่างให้ติดกันได้ ไม่ว่าจะเป็นการเย็บมนุษย์ให้ติดเข้ากับพื้นดิน ติดเข้ากับสิ่งของหรือติดเข้าด้วยกันเอง เรือรบขนาดยักษ์ของกองทัพเรือยังเคยถูกเย็บให้ติดกันมาแล้ว
1
ด้วยสกิลวิชาการงานอาชีพ 101 เย็บปักถักร้อยของเลโอ บวกกับความว่องไวและพลังแรงช้างของเผ่าทอนทัตต้า ทำให้เขาเย็บทุกอย่างได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว
เมื่ออดีตกาลนานมาแล้ว เผ่าทอนทัตต้าที่เชื่อคนง่ายและไม่รู้ถึงความคิดชั่วร้ายของผู้คน ได้เดินทางออกทะเลเพื่อแสวงหาทรัพยากรธรรมชาติที่ไม่มีในประเทศของตัวเอง
แต่ในระหว่างที่เดินทาง ก็โดนมนุษย์ตัวใหญ่อย่างพวกเราพบเจอและไล่ล่า จนเผ่าทอนทัตต้าเกือบจะพังพินาศเลยทีเดียว
แต่มีอยู่ครั้งหนึ่ง ราชาของเดรสโรซ่า ที่เป็นอาณาจักรใกล้เคียงของเผ่าทอนทัตต้า ได้เสนอสัญญาที่จะรับรองความปลอดภัยและทรัพยากรให้กับเผ่าทอนทัตต้า โดยมีข้อแลกเปลี่ยนคือ แลกกับการใช้แรงงานเล็กน้อย
โดยราชาในตอนนั้นคือคนจากตระกูลดอนกิโฮเต้ เขาได้นำเผ่าทอนทัตต้ามาใช้แรงงานอย่างหนัก ไม่เหมือนกับที่สัญญากันไว้ในทีแรก
เผ่าทอนทัตต้าต้องทำงานอย่างหนักอยู่ใต้ดินของอาณาจักรเดรสโรซ่า เพื่อผลิตทรัพยากรให้พวกมนุษย์ได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายและมั่งคั่งบนพื้นดินของเดรสโรซ่า ภายใต้การปกครองของดอนกิโฮเต้
จนประวัติศาสตร์ของเผ่าทอนทัตต้าบันทึกเอาไว้ว่านั่นคือยุคทาส เป็นยุคที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของเผ่าทอนทัตต้าที่ดำเนินมาจนถึงเมื่อ 900 ปีก่อน
และในช่วง 100 ปีต่อมา ไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์ยิ่งใหญ่อะไรขึ้นกับโลกบ้าง เพราะ ณ ช่วงเวลานั้นคือ 100 ปีแห่งความว่างเปล่า ที่ประวัติศาสตร์ได้ถูกทำให้หายไป
โดฟลามิงโก้เคยบอกเอาไว้ว่า ณ เวลานั้น ราชา 20 คนจาก 20 ประเทศ ได้ไปรวมตัวกันที่ศูนย์กลางของโลก เพื่อก่อตั้งองค์กรยักษ์ใหญ่ที่ในปัจจุบันมีชื่อว่า รัฐบาลโลกและราชาเหล่านั้นก็พาครอบครัวของตัวเองไปอาศัยอยู่ที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แมรี่จัวร์ด้วย
แต่ตระกูลเนเฟตาลี ปฏิเสธที่จะไปอาศัยอยู่ที่แมรี่จัวร์และตัดสินใจอยู่ที่อลาบาสต้าต่อไป ทำให้เหลือเพียง 19 ตระกูลที่ย้ายไปอาศัยอยู่ที่แมรี่จัวร์
และในปัจจุบันลูกหลานของทั้ง 19 ตระกูลนั้นก็คือเผ่ามังกรฟ้าที่ยังอาศัยอยู่ที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แมรี่จัวร์นั่นเอง
ทำให้ประเทศที่ไม่มีราชาทั้ง 19 ประเทศนั้นต้องคัดเลือกเพื่อหาราชาคนใหม่ และหนึ่งในนั้นก็คือเดรสโรซ่า ที่ได้ราชาองค์ใหม่นั่นก็คือราชาริคุจากตระกูลริคุที่เข้ามาปกครองเดรสโรซ่าเมื่อ 800 ปีก่อนแทนตระกูลดอนกิโฮเต้
ราชาริคุที่ว่านี้ ก็คือราชาริคุเมื่อ 800 ปีก่อน เป็นบรรพบุรุษของราชาริคุ โดลด์ที่ 3 ที่เป็นคนปกครองเดรสโรซ่าอยู่ในปัจจุบัน
ราชาริคุคนนี้ รู้เรื่องที่เผ่าทอนทัตต้าถูกใช้แรงงานอย่างหนักในช่วงหลายร้อยปีที่ผ่านมา ด้วยความที่ราชาริคุเป็นคนที่อ่อนโยนและจิตใจดี เขาได้คุกเข่าก้มหัวและร้องไห้ เพื่อขอโทษอย่างจริงใจต่อเผ่าทอนทัตต้า พร้อมกับบอกว่าจะขอทำการชดใช้ต่อสิ่งที่ดอนกิโฮเต้ผู้ชั่วร้ายเคยทำไว้
ราชาริคุจึงอนุญาตให้เผ่าทอนทัตต้าสามารถหยิบของต่างๆ ที่จำเป็นจากมนุษย์และเดรสโรซ่าไปได้เลย โดยไม่ต้องเกรงใจแล้วก็ไม่ต้องทำงานแบบในยุคก่อนแล้ว
โดยราชาริคุได้บอกประชาชนของเดรสโรซ่าว่า ที่ของหายไป เพราะเป็นฝีมือของภูต ทำให้ประชาชนต่างก็หัวเราะ และภูตก็กลายเป็นตำนานที่ฝังแน่นอยู่ในประเทศเดรสโรซ่าอย่างงดงาม
ราชวงศ์ริคุมักจะช่วยเหลือประเทศข้างเคียงอยู่เสมอๆ เมื่อประเทศเหล่านั้นมีภัย
แม้เดรสโรซ่าที่อยู่ภายใต้การปกครองของราชาริคุจะไม่ได้ร่ำรวย แต่ประชาชนทุกคนในประเทศก็มักจะมีรอยยิ้มเปื้อนอยู่บนใบหน้าเสมอ เพราะตั้งแต่ราชาริคุเข้ามาดูแลประเทศ เดรสโรซ่าก็ไม่มีสงครามเลยตลอด 800 ปีที่ผ่านมา
ทำให้เผ่าทอนทัตต้าในอดีต ต่างก็ชื่นชอบราชาจากตระกูลริคุผู้อ่อนโยนคนนี้
พวกเขาจึงได้ทำการตอบแทนตระกูลริคุ โดยการปลูกพืชและดอกไม้นานาพันธุ์ ทำให้เดรสโรซ่ากลายเป็นแผ่นดินที่เต็มไปด้วยดอกไม้งามสะพรั่งและอุดมสมบูรณ์
กรีนบิท เกาะร้างทางเหนือของเดรสโรซ่าที่เต็มไปด้วยพืชพันธุ์ต้นไม้ขนาดใหญ่ยักษ์
ที่ใต้ดินของกรีนบิทมีอาณาจักรทอนทัตต้า ที่เป็นที่อยู่อาศัยของเผ่าทอนทัตต้าอยู่
เมื่อ 400 ปีก่อนจากปัจจุบัน มองบลัง โนแลนด์ นักพฤกษศาสตร์ ได้เดินทางมายังเกาะกรีนบิทและร่วมมือกับบรรพบุรุษของเผ่าทอนทัตต้า เพื่อจัดการพวกมนุษย์ชั่วร้ายที่จะมาบุกรุกทำลายเกาะ
ทำให้โนแลนด์กลายเป็นฮีโร่ในตำนานของเผ่าทอนทัตต้าไปและมีรูปปั้นของเขาอยู่ที่อาณาจักรทอนทัตต้าด้วย
200 ปีต่อมาบริเวณทะเลระหว่างเดรสโรซ่ากับกรีนบิท ก็มีฝูงปลานักสู้ปรากฏตัวขึ้นและคอยโจมตีเรือที่แล่นผ่านไปผ่านมาจนอัปปางไปเกยที่เกาะกรีนบิท
ก่อนหน้านั้นผู้คนที่เดรสโรซ่าสามารถเดินทางข้ามไปมาระหว่างกรีนบิทกับเดรสโรซ่าได้ด้วยสะพานเหล็กที่ไม่รู้ว่าถูกสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่
แต่พอเริ่มมีปลากนักสู้โผล่ขึ้นมา แล้วเริ่มโจมตีเรือและผู้คนที่สัญจรไปมาแถวนั้น สะพานที่เสริมรั้วเหล็กเพิ่มเข้าไปก็ต้านทานพละกำลังของปลานักสู้ไม่ไหว ทำให้ไม่มีใครอยากที่จะใช้สะพานเหล็กเพื่อเดินข้ามไปยังกรีนบิทอีก
แต่ก็ยังพอมีคนที่กล้าลองดีข้ามสะพานเหล็กไป แต่คนเหล่านั้นก็ไม่เคยได้กลับมาเหยียบที่เดรสโรซ่าอีกเลย
10 ปีก่อนจากปัจจุบันดอนกิโฮเต้ โดฟลามิงโก้ กลับมาที่เดรสโรซ่าและใช้แผนสกปรกๆ เข้ายึดครองเดรสโรซ่า
ทำให้ในช่วงตลอด 10 ปีมานี้ เจ้าหญิงมันเชอร์รี่ถูกจับไปขังไว้ในราชวังและเผ่าทอนทัตต้ากว่า 500 คนถูกจับไปใช้แรงงานทาสในโรงงานนรกเพื่อผลิตผลปิศาจเทียมสไมล์ เพราะเผ่าทอนทัตต้ามีความสามารถในการปลูกพืชพันธุ์ผลไม้ต่างๆ ได้ทุกชนิด ปลูกยังไงก็โต
พวกลูกกะจ็อกของดอนกิโฮเต้อ้างว่าเจ้าหญิงมันเชอร์รี่ป่วย ทำให้เผ่าทอนทัตต้าทั้ง 500 คนต้องทำงานเพื่อช่วยรักษาอาการป่วยของเจ้าหญิง ซึ่งมันเป็นเรื่องโกหกที่เอาไว้หลอกพวกเผ่าทอนทัตต้า เพื่อที่จะได้หลอกใช้งานเผ่าตัวจิ๋วที่แสนซื่อนี้ให้ทำงานเป็นทาสต่อไป
แต่เผ่าทอนทัตต้าก็สามารถหลุดพ้นจากการใช้แรงงานทาสแบบเมื่อในอดีตได้
การมาเยือนเดรสโรซ่าของกลุ่มหมวกฟาง ทำให้ดอนกิโฮเต้ แฟมิลี่ถึงคราวต้องล่มสลายลง
เพราะกลุ่มหมวกฟางได้ร่วมมือกับคุณทหารของเล่นหรือไครอส พ่อของรีเบคก้าและเผ่าทอนทัตต้า หน่วยต่อต้านโดฟามิงโก้ กองทัพราชาริคุตัวน้อย รวมถึงนักสู้และนักรบในคอรีดา โคลอสเซียมและที่ขาดไม่ได้เลยก็คือประชาชนที่ตาสว่าง รู้แล้วว่าโดฟลามิงโก้เป็นคนที่ชั่วช้าแค่ไหน
โดยอุซปหรืออุโซแลนด์ เลโอและเผ่าทอนทัตต้า มีบทบาทอย่างมาก ในการช่วยให้คนที่กลายเป็นของเล่นกลับมาเป็นมนุษย์ได้ รวมถึงช่วยพรรคพวกที่ถูกจับไปเป็นแรงงานทาสให้ออกมาจากโรงงานสไมล์และทำลายโรงงานสไมล์ได้อีกด้วย
โดยตอนที่อุซปเจอกับเผ่าทอนทัตต้า เขาได้โกหกไปสองเรื่องก็คือเขามีฮาคิและเขาเป็นลูกหลานของมองบลัง โนแลนด์ ฮีโร่ในตำนานของเผ่าทอนทัตต้า ทำให้เผ่าทอนทัตต้าที่ซื่ออยู่แล้วเชื่ออุซปแบบสนิทใจ
และหนึ่งในสองเรื่องนั้นก็เป็นเรื่องจริงมาแล้วเรื่องหนึ่งก็คือ ฮาคิสังเกตของอุซปตื่นขึ้นที่เดรสโรซ่าหลังจากที่ได้โกหกไปได้ไม่นาน ส่วนอีกเรื่องที่เป็นลูกหลานของมองบลัง ก็ยังคงเป็นเรื่องโกหกต่อไป
ทำให้อุซปต้องกลายมาเป็นฮีโร่จอมปลอมไปในทีแรก แต่ก็ถือว่าปลุกขวัญและกำลังใจของเผ่าทอนทัตต้าได้เป็นอย่างดี
จนในท้ายที่สุด อุซปที่แม้จะวิ่งหนีในสถานการณ์ที่เข้าตาจนเช่นเคย แต่เขาก็ได้ตัดสินใจกลับมาช่วยพวกเผ่าทอนทัตต้า และทำตัวให้สมกับเป็นฮีโร่ในตำนานที่ต่อสู้ร่วมกับเผ่าทอนทัตต้าแบบที่มองบลัง โนแลนด์เคยทำเอาไว้ในอดีต
และแน่นอนว่า ความแข็งแกร่งของอุซป ไม่สามารถสู้กับเทรโบล ผู้บริหารของดอนกิโฮเต้ แฟมิลี่ ได้เลยแม้แต่น้อย แต่ด้วยโชคชะตาและความเจ๋งในการเขียนเรื่องของอาจารย์โอดะ
อุซปที่หมดสติและไม่สามารถต่อสู้ได้แล้ว เพราะโดนเล่นงานซะน่วม กลับสามารถทำแผน SOP ที่ต้องทำให้ชูก้าตกใจแบบสุดขีดและหมดสติได้สำเร็จ
และหลังจากนั้นอุซปก็ได้บอกกับพวกเลโอไปว่า ทุกอย่างถูกคำนวณเอาไว้หมดแล้วและเรื่องราวหลังจากนั้นก็คือตำนานของก็อด อุซป ผู้กู้โลกของเหล่าคนที่ถูกทำให้กลายเป็นของเล่น รวมถึงเป็นฮีโร่ในตำนานอีกคนของเผ่าทอนทัตต้าด้วย
เลโอที่เป็นตัวแทนของกองทหารทอนตะ แห่งเผ่าทอนทัตต้า ในการดื่มจอกเหล้าลูกน้องเพื่อแสดงตนเป็นสมาชิกของกองเรือใหญ่หมวกฟาง ภายใต้การนำของลูฟี่แห่งกลุ่มหมวกฟาง
ซึ่งเลโอได้ขออนุญาต กันโช หัวหน้าทอนตะของเผ่าทอนทัตต้าแล้วว่าจะเข้าร่วมกองเรือใหญ่หมวกฟาง
หลังจากจบงานเลี้ยงฉลอง เลโอก็พาเผ่าทอนทัตต้าขี่เยลโลว์คาบุ ด้วงยักษ์ยามาบุคิกลับบ้าน
และจากนั้นไม่นานเลโอและผองเพื่อนก็ได้ตั้งกลุ่มโจรสลัดทอนตัตต้า พร้อมกับมีหมวกและเสื้อคลุมโจรสลัดเรียบร้อย ซึ่งคอสตูมหรือชุดต่างๆ ก็น่าจะเป็นฝีมือในการเย็บปักถักร้อยของพวกเขาเองนั่นแหละ
หลังจากที่ใส่ชุดใหม่กันเสร็จเรียบร้อย พวกเขาก็ออกไปช่วยชาวเมืองเดรสโรซ่าซ่อมแซมเมืองที่เสียหายจากการต่อสู้
ชาวเดรสโรซ่าจึงมอบของขวัญเพื่อเป็นการตอบแทนที่กลุ่มโจรสลัดทอนทัตต้ามาช่วยซ่อมแซมเมือง นั่นก็คือสร้างเรือโจรสลัดที่มีชื่อว่าอุโซแลนด์ให้
กลุ่มโจรสลัดทอนทัตต้าถูกใจเรือที่มีหน้าของอุซปอยู่ตรงหัวเรือเป็นเป็นอย่างมาก และที่ตัวเรือยังมีใบไม้ที่เป็นสไลด์เดอร์ให้เผ่าทอนทัตต้าติดตั้งมาให้ด้วย
ราชาริคุ ได้เรียกเลโอ บีอันและคาบุ มาเพื่อบอกว่า จะให้มาเป็นผู้คุ้มกันตัวแทนของประเทศเดรสโรซ่าในงานประชุมโลก อย่างที่เราได้เห็นเลโอ, เจ้าหญิงมันเชอร์รี่, บีอันและคาบุ ไปปรากฏตัวที่ งานประชุมโลก
สามารถอ่านเรื่องราวของผู้ตั้งตัวเองเป็นกองเรือใหญ่หมวกฟางภาคเลโอได้ ในภาพหน้าปกมังงะตอนที่ 889-894 ในหนังสือการ์ตูนเล่มที่ 88 และ 89
ในตอนที่กลุ่มโจรสลัดไฟร์(ไฟเออร์) แท็งก์ของคาโปเน่ เเก๊ง เบจเเวะมาที่เดรสโรซ่า
กลุ่มโจรสลัดทอนทัตต้าได้ช่วยเหลือปอนด์ พ่อของโลล่าและชิฟฟ่อนไว้ ที่บริเวณน่านน้ำของกรีนบิทและพาไปขึ้นฝั่งที่เดรสโรซ่า ทำให้พ่อและลูกสาวฝาแฝดทั้งสองคนได้เจอกันเสียที
สามารถอ่านเรื่องราวตอนที่เผ่าทอนทัตต้าช่วยปอนด์ได้ในหน้าปกมังงะตอนที่ 979 และ 983 ในหนังสือการ์ตูนเล่มที่ 97
อ่านมังงะวันพีซแปลไทยถูกลิขสิทธิ์ได้ที่แอปพลิเคชันและเว็บไซต์ MANGA Plus 😁
โฆษณา